แอปเปิลเปิดขาย iPhone 16 ซีรีส์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทยพร้อมกับประเทศอื่นๆกว่า 58 ประเทศ เมื่อวันศุกร์ที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา ทีมงานได้รับเครื่องเป็นที่เรียบร้อยและรีบนำมารีวิวความน่าประทับใจแรกหลังได้สัมผัสกับ iPhone 16 ซึ่งเป็นรุ่นมาตรฐานเริ่มต้น และ iPhone 16 Pro Max เป็นรุ่นไฮเอนด์
เริ่มจาก iPhone 16 รุ่นมาตรฐาน เริ่มต้น พร้อมกับ iPhone 16 Plus ต่างกันเพียงแค่หน้าจอ 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว ตามลำดับ และ iPhone 16 Plus มีขนาดแบตใหญ่กว่า นอกจากนั้นเหมือนกันหมดทั้งการดีไซน์และคุณสมบัติใหม่
ชิปใหม่ A18 ชิปตัวแรกของ Apple ที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษสำหรับ iPhone รุ่นที่ไม่ใช่รุ่น Pro ออกแบบมาเพื่อเปิดใช้งานความสามารถอันทรงพลังเช่น Apple Intelli gence เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้น เป็นครั้งแรกที่รองรับเกมระดับ AAA เกมที่มีคุณภาพสูงสุดมีกราฟิกที่ละเอียดและสมจริง พร้อมด้วยเทคโนโลยีล่าสุดที่ทำให้เกมเล่นได้อย่างลื่นไหลและเต็มอรรถรส
...
การออกแบบกล้องใหม่ กล้อง Fusion 48MP ถ่ายภาพคุณภาพสูงและเลนส์เทเลโฟโต้ 2 เท่า กล้องอัลตราไวด์ 12 MP ใหม่ถ่ายภาพมาโครได้และปรับปรุงการถ่ายภาพ ในที่แสงน้อย แบตเตอรี่ ใหญ่ขึ้น และตัวควบคุมกล้องใหม่ (Camera Control) ยกระดับการถ่ายภาพแบบมือโปร ช่วยให้การถ่ายภาพและวิดีโอได้ง่ายและรวดเร็ว
กล้อง Fusion 48MP ถ่ายภาพคุณภาพสูงและเลนส์เทเลโฟโต้ 2 เท่า กล้องอัลตราไวด์ 12MP ปรับปรุงการถ่ายภาพในที่แสงน้อย แบตเตอรี่ ใหญ่ขึ้น การบันทึกภาพถ่ายและวิดีโอเชิงมิติพื้นที่ สำหรับใช้ Apple Vision Pro และคุณสมบัติ Photographic Styles ช่วยปรับแต่งภาพถ่ายได้มากขึ้นตามต้องการ มี 5 สี ให้เลือก ได้แก่ สีดำ สีขาว สีชมพู สีเขียวอมฟ้า และสีน้ำเงินอัลตรามารีน
สำหรับ iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max เป็นรุ่นพรีเมียมที่แตกต่างกันที่หน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ระหว่าง 6.3 นิ้วและ 6.9 นิ้ว แต่ขอบจอบางลง และแบตเตอรี่ iPhone 16 Pro Max มีขนาดใหญ่กว่า ส่วนฟีเจอร์อื่นเหมือนกันหมด ใช้ชิป A18 Pro ที่ทรงพลัง ที่สุด ประมวลผล Apple Intelligence เร็วขึ้น เล่นเกมที่มีกราฟิกหนักๆได้สบาย
ระบบกล้องล้ำสมัยกับกล้อง Fusion 48MP พร้อมเซ็นเซอร์ Quad-pixel และกล้องเทเลโฟโต้ซูม 5 เท่า เพิ่มความสามารถในการถ่ายวิดีโอ Dolby Vision ระดับ 4K ที่ 120 fps และสามารถบันทึกในโหมดสโลว์โมชันหรือวิดีโอระดับ 4K ที่ 120 fps ตัวควบคุมกล้อง หรือ Camera Control ใหม่ ทำให้กล้องในรุ่นโปรมีความหลากหลายและอเนกประสงค์มากขึ้น เปิดใช้กล้องได้รวดเร็ว ไมโครโฟน ใหม่คุณภาพระดับสตูดิโอ 4 ตัว ที่บันทึกเสียงได้อย่างสมจริง
ดีไซน์ไทเทเนียมอันทนทานมีความแข็งแรงแต่ยังคงน้ำหนักเบา iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max จะมาในแบบไทเทเนียมดำ ไทเทเนียมธรรมชาติ ไทเทเนียมขาว และไทเทเนียมทะเลทราย
สัมผัสแรกที่ทดลองใช้ iPhone 16 สีชมพู เมื่อเปิดกล่องมาพบว่าสติกเกอร์โลโก้แอปเปิลที่ปกติจะมีมาให้ไม่มีแล้ว มีแต่เอกสารการใช้งาน การรับประกัน สายชาร์จแบบถักสีขาว และพินหรือเข็มจิ้มถาดซิม
ตัวกล้องคู่ด้านหลังดีไซน์ใหม่แนวตั้ง แอปเปิลบอกสาเหตุว่าจะช่วยถ่ายภาพและวิดีโอเชิงพื้นที่สำหรับการใช้อุปกรณ์ Apple Vision Pro ได้ โดยกล้องคู่นี้จะถ่ายพร้อมกันเพื่อสร้างภาพให้มีความลึกเป็น 3 มิติ สมจริง สีชมพูดูสีสดและเข้มข้นกว่า ดูเรียบหรูสวยงามกว่าสีชมพูอ่อนในรุ่นก่อนหน้า และมีความบางและเบากว่าเล็กน้อย
...
ระบบกล้องเป็นอีกจุดเด่นของรุ่นนี้ กล้องหลักมาเป็น 48MP ออฟติคัลซูม 2 เท่า กล้องอัลตราไวด์ 12MP เพิ่มออโต้โฟกัสและมาโคร ไนท์โหมดได้รับการปรับปรุงดีขึ้น กล้องหน้าถ่ายเซลฟี่เป็นธรรมชาติมากขึ้น ความเข้มข้นของสีและโทนภาพดีขึ้นชัดเจน เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
สำหรับ iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max มาพร้อมจอขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ขนาด 6.9 นิ้ว ทำใหญ่กว่า iPhone 15 Pro Max ที่มีหน้าจอ 6.7 นิ้ว สัมผัสแรกแม้จอจะใหญ่กว่ารุ่นเดิมแต่เวลาจับใช้งานจับเครื่องได้เต็มมือไม่รู้สึกว่าล้น เพราะการออกแบบขอบจอบางลง ทำให้จอใหญ่ขึ้น เพียงเล็กน้อย
สีไทเทเนียมทะเลทราย หรือ Desert Titanium เป็นสีทองแบบจางๆ ดูคลาสสิก หรูหรา สมกับเป็นรุ่นพรีเมียมแพงที่สุด ขนาด 1 TB ซึ่งเป็นรุ่นแพงที่สุดราคา 64,900 บาท
...
ระบบควบคุมกล้องหรือ Camera Control ของทั้งสองรุ่นให้ประสบการณ์ใหม่สำหรับการถ่ายภาพง่ายๆผ่านปลายนิ้ว ใช้แรกๆยังค่อนข้างสับสนกับปุ่มที่อยู่ในตำแหน่งที่นิ้วจับไม่ถนัด ต้องค่อยๆไล่ไปตั้งแต่การเปิดกล้อง การถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ การกดสองครั้งเพื่อปรับค่าการซูม เปิดรับแสง ปรับความชัดลึกของภาพ รวมไปถึงการปรับรูปแบบและการปรับโทนของภาพ
หลังจากลองใช้มาหนึ่งวัน หากจะเปรียบเทียบกับกล้องรุ่นก่อนหน้า การถ่ายภาพดีขึ้นชัดเจน ด้วยชิปใหม่ ทั้ง A18 และ A18 Pro สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปและฟีเจอร์ดีครบ ไม่ต้องการฟีเจอร์และเทคโนโลยีจัดเต็มทั้งหมด iPhone 16 ก็เพียงพอแล้ว ถ่ายภาพสวย เล่นเกมหนักๆ ได้สบาย รองรับการใช้งาน Apple Intelligence
แต่สำหรับผู้ที่ต้องการฟีเจอร์แบบจัดเต็ม หน้าจอใหญ่สุด iPhone 16 Pro Max ตอบโจทย์ในทุกๆการใช้งาน ทั้งเร็ว แรง และกล้องถ่ายภาพสวยขึ้นกว่าเดิมมาก วิดีโอรองรับการถ่ายภาพสโลว์ที่ 4K 120fps เป็นครั้งแรก
การใช้งาน Apple Intelligence เมื่อลองใช้บน iOS 18.1 ซึ่งเป็นเวอร์ชันทดสอบการใช้งาน ใช้ฟีเจอร์ Clean up เพื่อลบวัตถุหรือคนที่ไม่ต้องการในภาพออก ถ้าสิ่งที่ต้องการลบไม่ใช่องค์ประกอบหลัก สั่งลบได้ด้วยการแตะที่วัตถุหรือคนที่ต้องการลบด้วยการใช้แปรงระบายภาพ หรือไม่ก็วาดเป็นวงกลม AI จะตรวจจับและลบให้ทันที ซึ่งดูเนียนตาดี
ที่สำคัญการใช้ AI นี้จะประมวลผลในเครื่องไม่ได้ส่งไปไหน ซึ่งให้ความมั่นใจว่าจะมีความปลอดภัยและเป็นส่วนตัว
...
1.ขนาดหน้าจอ
• iPhone 16 : มักจะมีขนาดหน้าจอที่เล็กกว่า โดยทั่วไปอาจอยู่ที่ประมาณ 6.1 นิ้ว
• iPhone 16 Pro Max : หน้าจอจะใหญ่กว่า โดยมีขนาดประมาณ 6.7 นิ้ว ซึ่งเป็นจอที่เหมาะสำหรับการรับชมสื่อและเล่นเกมมากขึ้น
2.วัสดุและการออกแบบ
• iPhone 16 : มักจะใช้วัสดุที่เป็นอะลูมิเนียมด้านหลัง และกระจกที่ค่อนข้างแข็งแรง แต่ไม่ทนเท่ารุ่น Pro
• iPhone 16 Pro Max : ใช้วัสดุที่หรูหรากว่า เช่น สเตนเลส หรือ ไทเทเนียม พร้อมกระจกที่ทนทานกว่า ทำให้ดูพรีเมียมและทนทานมากยิ่งขึ้น
3.จอแสดงผล
• iPhone 16 : ใช้จอภาพ OLED เหมือนกับรุ่น Pro แต่การสนับสนุนฟีเจอร์อาจไม่เท่ากัน เช่น อัตราการรีเฟรชหน้าจอ
• iPhone 16 Pro Max : จะมีจอภาพ OLED ที่มีความละเอียดสูงขึ้น และมาพร้อมกับฟีเจอร์ ProMotion ซึ่งมีอัตรารีเฟรชหน้าจอที่สูงถึง 120Hz ทำให้การเลื่อนหรือใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่น
4.กล้องถ่ายภาพ
• iPhone 16 : โดยปกติจะมีกล้องน้อยกว่าและฟีเจอร์การถ่ายภาพที่เรียบง่ายกว่า อาจมีเพียง 2 กล้องหลัง เช่น กล้องหลักและกล้อง Ultra-Wide
• iPhone 16 Pro Max : มีระบบกล้องที่ซับซ้อนกว่า ประกอบด้วยกล้องหลัก, กล้อง Ultra-Wide, กล้อง Telephoto สำหรับการซูมที่ทรงพลัง และอาจรวมถึง LiDAR Scanner สำหรับการตรวจจับระยะและ AR
5.ประสิทธิภาพการประมวลผล
• iPhone 16 : ใช้ชิปที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ยังอาจน้อยกว่าชิปของรุ่น Pro
• iPhone 16 Pro Max : ใช้ชิประดับสูงกว่า เช่น ชิปซีรีส์ A ที่เป็นรุ่นใหม่ที่สุด (เช่น A18 Pro) ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่า และรองรับการประมวลผลกราฟิกหรือ AI ได้ดีขึ้น
6.แบตเตอรี่และการชาร์จ
• iPhone 16 : แบตเตอรี่มักจะเล็กกว่ารุ่น Pro Max แต่ยังสามารถใช้งานได้เต็มวัน
• iPhone 16 Pro Max : มีแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่า รองรับการใช้งานที่ยาวนานกว่า โดยเฉพาะเมื่อใช้งานจอขนาดใหญ่และฟีเจอร์ขั้นสูง
7.ฟีเจอร์พิเศษ
• iPhone 16 : จะมีฟีเจอร์พื้นฐานที่ครบถ้วน เช่น Face ID, 5G และ MagSafe
• iPhone 16 Pro Max : มักจะมีฟีเจอร์พิเศษเพิ่มเติม เช่น Always-On Display, ProRAW, ProRes สำหรับการถ่ายภาพและวิดีโอคุณภาพสูง, รวมถึงฟีเจอร์การซูมที่ดีกว่า
8.ราคา
• iPhone 16 : ราคามักจะถูกกว่า เน้นการเข้าถึงง่ายกว่า
• iPhone 16 Pro Max : เป็นรุ่นที่มีราคาแพงกว่า โดยเน้นความพรีเมียมและฟีเจอร์ระดับสูง
สรุป
• iPhone 16 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานพื้นฐานและฟีเจอร์ที่ดีโดยไม่ต้องการเทคโนโลยีขั้นสูงทั้งหมด
• iPhone 16 Pro Max เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การใช้งานระดับพรีเมียม ทั้งในด้านกล้อง การแสดงผล และประสิทธิภาพ.
คลิกอ่านคอลัมน์ “บทความไซเบอร์เน็ต” เพิ่มเติม