ในที่สุด แอปเปิล ประกาศรุกฟีเจอร์การใช้งานปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างเต็มตัวภายใต้ชื่อ Apple Intelligence เน้นย้ำถึงการพัฒนา AI ในแบบฉบับของแอปเปิล รวมถึงการให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย
เครก เฟเดอริกี รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ และ จอห์น จานนันเดรีย รองประธานอาวุโสฝ่าย Machine Learning และกลยุทธ์ AI ของแอปเปิล ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมหลังจบอีเวนต์ WWDC 2024 โดย จัสติน เอซาริก ยูทูบเบอร์ชื่อดังในสหรัฐฯ ได้ถามถึงประเด็นของ Apple Intelligence บนเวที
ผู้บริหารแอปเปิล ระบุว่า Apple Intelligence ถือได้ว่าเป็น AI ที่แอปเปิลดำเนินการลงทุนพัฒนาเองทั้งหมด โดยมีเป้าหมายเพิ่มศักยภาพในการใช้งาน ซึ่งไม่ใช่รูปแบบแชตบอต (Chatbot) แบบเดิมๆ อย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นการพัฒนาความฉลาดตามการใช้งานของผู้ใช้
...
ระบบเอไอของแอปเปิล เรียกร้องขุมพลังในการประมวลผลที่มากเป็นพิเศษ ดังนั้นชิปเซตที่จะใช้งาน Apple Intelligence จะต้องเป็นชิปเซตระดับไฮเอนด์ของแอปเปิล ดังเช่น Apple A17 Pro ใน iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max และชิปเซต Apple M1 บนอุปกรณ์ iPad และ Mac
แอปเปิล ยืนยันว่า สิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษก็คือ นโยบายความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยจากเอไอ ที่ระบุว่าจะมาสร้างมาตรฐานใหม่ โดยการทำงานของเอไอทั้งหมดจะทำบนเครื่อง iPhone, iPad และ Mac เท่านั้น
แต่ถ้าหากผู้ใช้งานต้องการใช้โมเดลที่มีความซับซ้อน ระบบจะถูกโอนไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่เรียกว่า Private Cloud Compute แล้วส่งการประมวลผลกลับมา โดยไม่ทำการเก็บข้อมูลดังกล่าวไว้ ดังนั้นผู้ใช้งานจึงมั่นใจได้ว่าสามารถใช้เอไอกับสิ่งสำคัญๆ ได้โดยไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลส่วนตัวจะรั่วหลุดออกไป
ทั้ง เครก เฟเดอริกี และ จอห์น จานนันเดรีย ได้พูดถึง Siri ซึ่งเป็นเลขาฯ ส่วนตัวที่จะก้าวไปสู่ยุคใหม่ มีความฉลาดมากขึ้น และรองรับคุณสมบัติใหม่ๆ ได้เพิ่มเติม โดยวิธีการทำงานของ Siri จะไม่ใช่เป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่เห็นแบบจำลองที่เต็มไปด้วยข้อมูลทางการแพทย์ ข้อมูลทางกฎหมาย การเขียนงานเชิงสร้างสรรค์ ผู้ใช้จะสามารถเพิ่มโมเดลที่เลือกให้เหมาะสม ทาง Siri เป็นตัวเชื่อมไปยังโมเดลนั้น
ส่วนประเด็นการเลือกโอเพนเอไอ (OpenAI) มาเป็นพันธมิตรนั้น เพราะแอปเปิลเล็งเห็นว่าโอเพนเอไอเป็นบริษัทที่เก่งด้านเอไอที่สุดในยุคนี้
อย่างไรก็ดี ผู้บริหารของแอปเปิลได้พูดถึง Gemini ของกูเกิลด้วย ซึ่งแอปเปิลก็พร้อมที่จะทำงานร่วมกันในอนาคตอันใกล้ แต่ตอนนี้ยังมีแค่โอเพนเอไอเพียงรายเดียวเท่านั้น
ทั้งสองทิ้งท้ายว่า นี่เป็นแต่เพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น หากจะย้อนไปมองถึงยุคเริ่มต้นอินเทอร์เน็ต มาจนถึงขณะนี้ iOS18 มันเหลือเชื่อมาก นี่จึงเป็นอีกจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่ยาวนานและน่าตื่นเต้น แอปเปิลซึ่งเป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์มที่นักพัฒนาและผู้ใช้มารวมกัน คิดว่าจะเป็นการสร้างมูลค่าที่เหลือ และจะมีความตื่นเต้นต่อไปอีกยาวนานหลายปีข้างหน้า
...
Apple Intelligence จะใช้งานอย่างเป็นทางการได้ภายในปีนี้ บนระบบปฏิบัติการ iOS 18, iPadOS 18 และ macOS Sequoia อย่างไรก็ดี เวอร์ชันเบตาสำหรับนักพัฒนาสามารถดาวน์โหลดทดลองใช้งานได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป