มีรายงานว่าการเปิดใช้ตัวเครื่องไอโฟนของกลุ่มผู้ใช้งานในสหรัฐอเมริกา ลดลงมากที่สุดในรอบหลายปี
Consumer Intelligence Research Partners หรือ CIRP เผยแพร่บทวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้องกับการเปิดใช้งาน iPhone ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งลดลงเหลือ 33 เปอร์เซ็นต์ เมื่อจบไตรมาสแรกของปี 2024
จากชาร์ตของ CIRP จะเห็นได้ว่า ยอดการเปิดใช้งานไอโฟนมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ จากระดับ 40 เปอร์เซ็นต์หลังจบไตรมาสแรกของปี 2023 แล้วก็ลดเหลือ 36 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว
![ตัวเลขการเปิดใช้งานไอโฟนจากปี 2023 จนถึงไตรมาสแรกของปี 2024](https://static.thairath.co.th/media/BUCz3kW7pmsIQUeyCZSgGPC7Jy66UJtnKwptJYYH0olo8ASVt7BWIkmvT.jpg)
CIRP ยังรายงานต่อไปว่า เป็นปีที่สองติดต่อกันแล้วที่ ส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนในสหรัฐอเมริกาของแอปเปิลอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็เป็นตัวเลขที่มากกว่าปี 2022 ราว 2 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม ยังถือว่ายังน้อยกว่าปี 2020 และ 2021 ที่อยู่ในระดับ 46 เปอร์เซ็นต์ และ 44 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ
...
ตัวเลขที่ลดลงของการเปิดใช้งานตัวเครื่อง ไม่ได้หมายความว่าความสนใจของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์แอปเปิลลดลง นั่นเพราะยังมีปัจจัยอื่นเสริม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพ และความทนทานของสมาร์ทโฟนที่ดีขึ้นกว่าเดิม
![ส่วนแบ่งตลาดของไอโฟน ยังไม่กลับมาระดับ 40 เปอร์เซ็นต์ เหมือนช่วง 2-3 ปีที่แล้ว](https://static.thairath.co.th/media/BUCz3kW7pmsIQUeyCZSgGPC7Jy66UJtm4oJRp8hvwjmE53Y2JMUTULhwn.jpg)
ในเวลาเดียวกัน เรื่องของราคาสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมที่แพงขึ้น จึงทำให้ผู้บริโภคเลือกที่จะอยู่กับอุปกรณ์ชิ้นนั้นนานมากขึ้น อีกหนึ่งปัจจัยก็เป็นเรื่องของฟีเจอร์ของ iPhone ซึ่งรวมถึง iPhone 15 ไม่ได้มีฟีเจอร์ที่ล้ำหน้ามากนัก ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของซอฟต์แวร์ หรือฮาร์ดแวร์ก็ตาม
ควรกล่าวได้ว่า การเปลี่ยนแปลงที่ไม่มากนักที่ว่านี้ ก็มีส่วนที่ทำให้ความน่าสนใจของสมาร์ทโฟนเรือธงจากค่ายแอปเปิลลดลง แล้วเลือกที่จะรอรุ่นใหม่อย่าง iPhone 16 และ iPhone 16 Pro แทน
ที่มา: 9to5mac