แอร์พอดส์ (AirPods) หูฟังไร้สายบลูทูธวางตลาดมาแล้วเป็นเวลา 6 ปี นับตั้งแต่รุ่นแรก จนได้รับความนิยมสูงเป็นหูฟังไร้สายที่ขายดีที่สุดในโลก ล่าสุด Apple ได้แนะนำ AirPods Pro รุ่นที่ 2 ซึ่งเป็นหูฟังที่ให้คุณภาพเสียงได้ดีพร้อมกับจุดเด่นและคุณสมบัติใหม่ๆ ที่เป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ในรอบ 3 ปีหลังจากแนะนำรุ่นแรก
จุดเด่นหลักของหูฟังรุ่นใหม่นี้คือชิป H2 ซึ่งเป็นชิปใหม่ที่มอบประสบการณ์ใหม่สำหรับการฟังเพลง ดูภาพยนตร์ เล่นเกมแบบเต็มรูปแบบ ให้เสียงดีขึ้น เบสแน่นขึ้น ทุ้มขึ้น เสียงคมชัด ครอบคลุมช่วงความถี่ที่กว้างขึ้นด้วยไดรเวอร์เสียงความผิดเพี้ยนต่ำใหม่และตัวขยายสัญญาณแบบเฉพาะ
...
ตัดเสียงรบกวนดีขึ้น
โหมดตัดเสียงรบกวนจากภายนอก (Noise Cancellation) ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิม 2 เท่า สามารถสลับโหมดฟังเสียงภายนอก (Transparency) เพื่อฟังเสียงรอบตัวให้เหมาะสมหรือตั้งค่าให้ข้างใดข้างหนึ่งเพื่อทำงานโหมดนี้ ตั้งค่าเสียง EQ ตามที่ต้องการผ่านแอปเพลง รองรับระบบเสียงตามตำแหน่งหรือ Spatial Audio เพิ่ม-ลดระดับเสียงที่ก้านหูฟังเพียงแตะเลื่อนขึ้น-ลง พร้อมจุกหูฟังซิลิโคนเพิ่มขนาดเล็ก XS สำหรับคนใบหูเล็ก
ตัวเคสหูฟังชาร์จ Apple Watch ได้ เคส มีลำโพงในตัวที่ส่งเสียงได้ดังกว่าเดิมช่วยให้การค้นหาได้ง่ายเมื่อทำหล่นหรือลืมทิ้งไว้ ตัวเคสยังค้นหาตำแหน่งได้ผ่านการบอกทิศทาง มีห่วงคล้องสายเพื่อคล้องคอ หรือคล้องข้อมือเพื่อความมั่นใจว่าจะไม่หล่นหายหรือลืมทิ้งไว้
แบตเตอรี่ฟังได้นานขึ้นกว่ารุ่น Pro เดิม 1.5 ชั่วโมง ฟังได้นาน 6 ชั่วโมงเมื่อเปิดใช้งานตัดเสียงรบกวนและชาร์จจากเคสได้ 4 ครั้ง ฟังได้นานสูงสุด 30 ชั่วโมง ชาร์จ 5 นาทีฟังได้ 1 ชั่วโมง โดย AirPods Pro รุ่นที่ 2 วางจำหน่ายราคา 8,990 บาท สมัครสมาชิกใหม่ฟังเพลงจาก Apple Music ฟรี 6 เดือน
การเลือกจุกหูฟังยางซิลิโคนให้เหมาะกับหูเรา ไปที่การตั้งค่าหรือ Setting บนอุปกรณ์ iPhone ทันทีที่เชื่อมต่อกับหูฟังจะขึ้นมาอัตโนมัติให้คลิกเข้าไปทดสอบความพอดีของหูฟังที่ทดสอบใส่พอดีปิดแนบสนิทกับหูเราหรือไม่ การตั้งค่าการใช้โหมดตัดเสียงรบกวนจากภายนอก ตั้งค่าได้ทั้งจาก iPhone หรือตั้งค่าที่หูฟัง กดค้างที่หูฟังเพียงครั้งเดียวเพื่อสลับโหมดไปมาได้ สำหรับระบบเสียงตามต่ำแหน่งหรือ Spatial Audio เข้าไปตั้งค่าคล้ายกับการสแกนหน้า
...
บทสรุป
จากการใช้งาน AirPods Pro รุ่นที่ 2 เป็นหูฟังแบบอินเอียร์ของ Apple ดีที่สุดในปัจจุบัน แม้หน้าตาดีไซน์คล้ายรุ่นเดิม แต่อัปเกรดชิปใหม่เพิ่มพลังเสียงดีขึ้นชัดเจนเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า การตัดเสียงรบกวนดีขึ้นขณะที่ไมโครโฟนถูกออกแบบ หันมาด้านใน ทำให้ได้ยินเสียงของเราชัดเจน ทำให้การประชุมออนไลน์เป็นไปอย่างราบรื่น ขณะที่การฟังเพลง ดูภาพยนตร์ให้ประสบ การณ์อย่างเยี่ยมยอด และปรับระดับเสียงที่ก้านหูฟังได้เลย
ระบบเสียงตามตําแหน่ง หรือ Spatial Audio ช่วยเติมเต็มกับอรรถรสความบันเทิงอย่างแท้จริง สำหรับการฟังเพลงจาก Apple Music มีเพลย์ลิสต์ที่แนะนำ Made for Spatial Audio, Hits in Spatial Audio, Rock in Spatial Audio, Pop in Spatial Audio, Hip-Hop in Spatial Audio, Country in Spatial Audio, Jazz in Spatial Audio และ Classical in Spatial Audio เป็นต้น
...
การรับชมภาพยนตร์ หากชมจาก Apple TV 4K ให้ไปตั้งค่า Spatial Audio การดูแอป Apple TV Plus จะช่วยเพิ่มประสบการณ์การรับชมระบบเสียงรอบทิศทางแบบไดนามิกรอบศีรษะ พลังเสียงดีขึ้นกว่าเสียงสเตอริโอทั่วไป เช่นเดียวกับแอป Netflix จะแปลงหูฟังนี้เป็นโฮมเธียเตอร์ชั้นยอดสำหรับภาพยนตร์ที่รองรับ Dolby Atmos หากไม่มีไอเดียจะดูเรื่องไหน ลองเสิร์ชคำว่า Spatial Audio ลิสต์ภาพยนตร์จะขึ้นมาให้เลือกรับชม
แต่บางครั้งการใช้งานการตัดเสียงรบกวนซึ่งเสมือนเราตัดโลกภายนอกออกไปดีเกินไป จนนั่งรถไฟฟ้า MRT เลยสถานีปลายทางไปถึง 2 สถานี จากการฟังเพลงเพลินๆพร้อมกับไถหน้าจอโทรศัพท์ไป และไม่ได้ยินเสียงประกาศ
...
ซึ่งเป็นประสบการณ์อย่างดีสำหรับการใช้งาน หลังจากนั้นจะเปิดใช้เฉพาะการใช้ในโลกส่วนตัวจริงๆ แต่เมื่อมีกิจกรรมออกกำลังกาย การใช้งานในที่สาธารณะต่างๆ จะเปิดโหมดฟังเสียงจากภายนอก เพื่อรับรู้โลกภายนอกบ้าง.