โซเชียลเน็ตเวิร์ก ในยุคนี้ใครๆก็มีบัญชีเป็นของตนเองแล้วแต่ความนิยมชอบว่าจะชอบเล่น เข้าไปร่วมสนทนา ติดตามเพื่อนฝูงคนสนิท คนดัง บนแพลตฟอร์มต่างๆเพื่อไม่ให้ตกยุค ตกกระแส ติดตามข่าวในโซเชียลกัน
techcrunch.com ได้อัปเดตถึงผู้ให้บริการโซเชียล เน็ตเวิร์กกันว่าในปีนี้ พวกเขาเหล่านั้น มีสถานะและจำนวนสมาชิกผู้ใช้งานทั่วโลกกันอย่างไรกันบ่าง
เริ่มจากเฟซบุ๊ก (Facebook) ซึ่งได้รีแบรนด์ชื่อบริษัทเป็น เมทา (Meta) เพื่อเตรียมตัวบริการในยุคของ Metaverse ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเร็วๆนี้ จากตัวเลขผลประกอบการของบริษัท
ล่าสุด สิ้นสุดเดือน ก.ย.64 ที่ผ่านมา มีตัวเลขผู้ใช้งานต่อเดือนถึง 2,910 ล้านบัญชี เติบโต 6% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ขณะที่ไอจี (Instagram) ซึ่งเป็นแอปในเครือข่ายของเฟซบุ๊ก ถูกระบุว่า สมาชิกผู้ใช้งานเป็นจำนวนก้าวสู่หลัก 2,000 ล้านบัญชีต่อเดือนเรียบร้อยแล้ว หลังจากมีรายงานว่าในช่วงเดือน มิ.ย.60 จำนวนผู้ใช้งานในช่วงนั่นผ่านหลัก 1,000 ล้านบัญชีต่อเดือน
ทั้งนี้ แอปติ๊กต่อก (TikTok) จากจีนยังคงเป็นแอปที่มาแรงและเติบโตมากที่สุด Insider Intelligence ของ eMarketer ระบุว่า ในปีนี้ TikTok ยังคงมีอัตราการเติบโตสูงถึง 40.8% ลดลงจากปีก่อนหน้าที่เติบโต 59.8% และคาดว่าในปีหน้าตัวเลขผู้ใช้จะอยู่ในระดับ 755 ล้านบัญชีต่อเดือน สูงสุดเป็นอันดับสามต่อจาก Face book และ IG
...
ตัวเลขการคาดการณ์ดังกล่าวใช้ชุดการคำนวณที่แตกต่างกันเล็กน้อย อาจจะแตกต่างจากแต่ละบริษัทที่แต่ละบริษัทวิเคราะห์กัน เช่น จะนับเฉพาะจำนวนผู้ใช้งานที่เข้าสู่ระบบอย่างน้อยเดือนละครั้งเป็นประจำ และพยายามแยกบัญชีปลอมออกจากการประมาณการ
eMarketer ได้ประมาณการว่าในปี 65 Facebook จะมียอดผู้ใช้รวม 2,098.1 ล้านบัญชีต่อเดือน ตามด้วย IG 1,282.8 ล้านบัญชีต่อเดือน และ TikTok 755 ล้านบัญชี Snapchat 464.9 ล้านบัญชีและ Twitter 345.3 ล้านบัญชี
สำหรับ TikTok ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้รับความนิยมอย่างมาก โดย Sensor Tower รายงานว่าผู้ให้บริการแอปแชร์วิดีโอแบบสั้นมียอดดาวน์โหลดถึง 2,000 ล้านครั้งในแอปสโตร์และกูเกิล เพลย์ ในปีที่ผ่านมาเติบโตถึง 325% ยอดการใช้ต่อเดือนเพิ่มขึ้นสูงมากกว่าแอปอื่นๆ รวมทั้งในสหรัฐฯเติบโตสูงถึง 65% สูงกว่า Facebook
โดยในเดือนมิ.ย.64 TikTok และแอป โต่วอิน (Douyin) หรือติ๊กต่อกเวอร์ชันจีนกลายเป็นแอปแรกบนอุปกรณ์มือถือที่ถูกดาวน์โหลดทั่วโลกถึง 3,000 ล้านครั้งตามหลัง Facebook เท่านั้น และผู้บริโภคใช้จ่ายเงินผ่านแอปนี้เกิน 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 83,940 ล้านบาท ซึ่งเป็นเพียงไม่กี่แอปที่บรรลุเป้าหมายนี้รวมถึงแอป Netflix, YouTube และ Ten cent Video และ Tinder.