โนโรไวรัส (Norovirus) คือเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของอาการท้องเสียที่พบบ่อยที่สุดในช่วงฤดูหนาว เมื่ออากาศเย็นลง ไวรัสมีโอกาสแพร่ระบาดในอาหารที่ปรุงไม่สุก หรือผักผลไม้ที่ไม่สะอาด หากบุตรหลานมีอาการอาเจียนและท้องเสียเฉียบพลัน มีโอกาสเกิดจากการสัมผัสเชื้อตัวนี้
โนโรไวรัส อาการ
ผู้ติดเชื้อโนโรไวรัสจะมีอาการทางระบบทางเดินอาหาร เริ่มจากอาเจียน ท้องเสีย และซีด ไม่ควรรอจนร่างกายขาดน้ำ หากมีอาการอาเจียนหลายครั้งแล้วไม่หาย ควรจิบเกลือแร่ทีละน้อยและรีบไปพบแพทย์ อาการติดเชื้อโนโรไวรัส มีดังนี้
1. คลื่นไส้
2. อาเจียน
3. ท้องเสีย
4. ปวดท้อง
5. มีไข้ต่ำๆ
6. ปวดเมื่อยตามร่างกาย
อาการป่วยด้วยการติดเชื้อโนโรไวรัสพบได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ความรุนแรงของโรคขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของแต่ละคน สามารถหายเองได้ แต่มีโอกาสติดจากคนอื่น
ปี พ.ศ.2559 กรมควบคุมโรคได้รับการรายงานการระบาดของโรคอาหารเป็นพิษในช่วงเดือนพฤศจิกายน จาก 4 จังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี, นครสวรรค์, สมุทรสาคร และนครราชสีมา
...
ปี พ.ศ.2558 ได้รับรายงานจาก 3 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร, เพชรบูรณ์ และกระบี่
โนโรไวรัส ติดต่ออย่างไร
โนโรไวรัส ติดต่อผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วย ผู้ป่วยบางรายมีอาการ หรือหายจากการติดเชื้อแล้วโดยไม่รู้ตัว ก็ยังคงประกอบอาหารให้ผู้อื่น หากอาหารไม่สุกก็จะทำให้เชื้อระบาด ส่วนในเด็กนั้นเกิดจากการสัมผัสสิ่งของ ใช้ของใช้ร่วมกัน แล้วนำนิ้วเข้าปาก โดยเฉพาะการเข้าห้องน้ำร่วมกันแล้วกดชักโครก หากไม่ล้างมือให้สะอาดก็มีโอกาสติดต่อกันยิ่งขึ้น
โนโรไวรัส ดูแลอย่างไร
1. ในเด็กเล็กที่เริ่มมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ต้องเฝ้าระวังว่ามีอาการอื่นร่วมด้วยหรือไม่ หากอาเจียนหลายครั้งไม่หยุด ควรรีบไปพบแพทย์
2. เมื่อแพทย์นำอุจจาระไปวินิจฉัย แยกเชื้อ ก็จะทำให้รักษาได้ตรงอาการ
3. เด็กที่ยังมีอาการถ่ายอยู่ ควรหยุดเรียน เพื่อป้องกันการระบาด
4. งดการประกอบอาหารให้ผู้อื่นรับประทาน เพื่อป้องกันเชื้อแพร่กระจาย
5. งดการท่องเที่ยว เดินทาง การใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น
โนโรไวรัส เกิดจากอะไร
การติดเชื้อท้องเสียจากโนโรไวรัสเกิดจากการสัมผัสผ่านมือ และเผลอจับอาหารเข้าปาก ดังนั้นควรฝึกให้เด็กล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่อย่างน้อย 20 วินาที ก่อนรับประทานอาหาร เพื่อป้องกันการหยิบจับรับเชื้อเข้าปากโดยไม่รู้ตัว
แม้ว่าเชื้อนี้ไม่ติดต่อผ่านการหายใจร่วมห้องเดียวกัน แต่การหยิบสิ่งของเข้าปากด้วยมือเปล่าเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง และหากเด็กๆ ติดเชื้อ ควรงดพาไปโรงเรียนจนกว่าจะหายท้องเสีย เพื่อป้องกันผู้อื่นติดโรค
โนโรไวรัส รักษาอย่างไร เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์
เมื่อมีอาการอาเจียนเฉียบพลัน ควรรับประทานเกลือแร่และรักษาตามอาการแล้วยังไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อรับการประเมินรักษา รวมถึงอาการท้องเสีย ถ่ายท้องจนอ่อนเพลีย ตาโหล หมดสติ เป็นอาการรุนแรงที่ควรป้องกันแต่เนิ่นๆ.
ที่มา : กรมควบคุมโรค