ผู้สูงวัย เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ใช้งานสำคัญของแอปพลิเคชัน LINE ที่มีสัดส่วนถึง 13% ของผู้ใช้งานในประเทศไทยทั้งหมด เพราะเป็นช่องทางการสื่อสารกับกลุ่มเพื่อนและครอบครัว รวมทั้งยังใช้ติดตามข่าวสารและส่งต่อข้อมูลต่างๆ ที่ตนเองสนใจอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมักมีมิจฉาชีพใช้ช่องทางการสื่อสารในแพลตฟอร์มต่างๆ หลอกลวงผู้คนเป็นจำนวนมาก และผู้เสียหายจำนวนไม่น้อยเป็นกลุ่มผู้สูงวัย ด้วยเหตุนี้ LINE ประเทศไทยจึงได้ร่วมมือกับ Young Happy คอมมูนิตี้ผู้สูงอายุ จัดกิจกรรม "LINE Connect Day Smart Senior - ชวนวัยเก๋าเรียนรู้ใช้ LINE ให้สนุกและปลอดภัย" ขึ้น เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถใช้งานแอปพลิเคชัน LINE ได้อย่างปลอดภัย ผ่านหัวข้อการเรียนการสอน “เคล็ดลับการใช้ LINE อย่างปลอดภัยจากมิจฉาชีพ” โดย คุณสุวิดิษฎ์ คงทอง ผู้จัดการฝ่ายดูแลลูกค้าแอปพลิเคชันไลน์ ในบทเรียนวิธีการป้องกันการตกเป็นเหยื่อของเฟกนิวส์, วิธีป้องกันการถูกขโมย LINE Account และวิธีสังเกตและตรวจสอบข้อความแปลกปลอมเพื่อป้องกันการถูกหลอกหรือขโมยบัญชี LINE จากผู้ไม่หวังดี

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

...

3 วิธีใช้ LINE ให้ปลอดภัย

1. วิธีสังเกตและตรวจสอบข้อความแปลกปลอม

โดยส่วนใหญ่มิจฉาชีพมักจะมาในลักษณะของผู้ไม่หวังดีในรูปแบบต่างๆ เช่น

  • การเงินการลงทุน ได้แก่ ธนาคาร, นักลงทุน, ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน, ตัวแทนประกันต่างๆ, เงินกู้ รูปแบบข้อความที่ส่งมามักจะเป็น แจ้งเตือนว่ามีเงินเข้าให้คลิกลิงก์ต่างๆ หรือเชิญชวนให้มากู้ยืมเงินพร้อมให้คลิกลิงก์ ไปจนถึงหลอกลวงว่าเป็นข้อความจากธนาคารชั้นนำส่งมาแจ้งเตือนว่าพบสิ่งผิดปกติในบัญชีของคุณแล้วให้คลิกลิงก์เพื่อติดต่อหรือยืนยันตัวตน
  • หน่วยงานราชการ ได้แก่ สถานีตำรวจ, กระทรวงต่างๆ ลักษณะข้อความแปลกปลอมที่ได้รับจากมิจฉาชีพ มักจะแอบอ้างว่าเป็นหน่วยงานราชการหรือรัฐวิสาหกิจ เช่น การไฟฟ้าคืนเงินค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า, สำนักงานประกันสังคมแจ้งขออัปเดตข้อมูลส่วนตัวผู้เอาประกัน, ชวนประชาชนลงทะเบียนโครงการของภาครัฐ โดยจะมีการหลอกให้แอด LINE หรือคลิกลิงก์ต่อเพื่อลงทะเบียน เป็นต้น
  • ขนส่งหรือพัสดุ เช่น พนักงานขนส่งต่างๆ, ช็อปปิ้งออนไลน์ รูปแบบข้อความจากมิจฉาชีพคือการแจ้งเตือนว่าขนส่งไม่สำเร็จ, แจ้งยืนยันว่าขนส่งสำเร็จ, แจ้งเตือนว่าติดต่อใครไม่ได้ ซึ่งมักจะนำพาให้เราอยากคลิกลิงก์ต่อเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
  • พนักงาน LINE หรือพนักงานจากแพลตฟอร์มอื่นๆ เป็นอีกหนึ่งการหลอกลวงของมิจฉาชีพที่ทำให้หลายคนตกหลุมพราง คือ การแอบอ้างว่าเป็นพนักงานของแพลตฟอร์มชื่อดัง เช่น แจ้งเตือนว่าทำผิดกฎ, แจ้งเตือนบัญชีผิดปกติ, ประกาศว่าเป็นผู้โชคดีได้รับเงินรางวัล แล้วให้เราคลิกลิงก์เพื่อดำเนินการต่อ
ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

2. วิธีสังเกตบัญชีทางการว่าเป็นของจริงหรือไม่

สังเกตรูปแบบของโปรไฟล์จะแตกต่างจากบัญชี LINE แชตแบบปกติ

บัญชีทางการ

  • มีสัญลักษณ์โล่หน้าชื่อ
  • หากเปิดหน้าโปรไฟล์ด้วยสมาร์ทโฟนจะมีข้อมูลสำคัญ เช่น ประกาศ สถานะเวลาทำการ ที่อยู่ คูปอง หรือโพสต์ล่าสุดใน VOOM
  • จำนวนเพื่อนของบัญชีทางการจะแสดงในหน้าโปรไฟล์
  • จะไม่มีปุ่ม “โทร” และ “วิดีโอคอล”

บัญชี LINE ทั่วไป

  • ไม่มีสัญลักษณ์โล่หน้าชื่อ
  • หากเปิดหน้าโปรไฟล์ด้วยสมาร์ทโฟนจะไม่มีข้อมูลต่างๆ และไม่มีโพสต์ล่าสุดใน VOOM ปรากฏ
  • ไม่มีจำนวนเพื่อนแสดง
  • หากมีจำนวนเพื่อนแสดงอาจเป็นการตั้งสถานะเพื่อทำให้ดูเหมือนบัญชีทางการจริง
  • จะมีปุ่ม “โทร” และ “วิดีโอคอล”
ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

ควรสังเกตสัญลักษณ์โล่หน้าชื่อบัญชี

...

  • โล่สีเขียวหรือสีน้ำเงิน หมายถึงบัญชีทางการที่ผ่านการรับรองจาก LINE แล้ว
    โล่สีเทาหมายถึงบัญชีทางการที่ยังไม่ผ่านการรับรองจาก LINE
    โปรดตรวจสอบกับเว็บไซต์หรือบัญชีโซเชียลมีเดียทางการของร้านค้า หรือหน่วยงานนั้นๆ
  • บัญชีทางการจะไม่สามารถเพิ่มผู้ใช้เป็นเพื่อนหรือเริ่มส่งข้อความหาผู้ใช้ก่อนโดยที่ไม่ได้เป็นเพื่อนกัน ซึ่งผู้ใช้จะต้องเป็นผู้เพิ่มบัญชีทางการเป็นเพื่อนก่อนด้วยตนเองเสมอ
  • ลักษณะของบัญชีทางการที่เข้าข่ายหลอกลวง คือ มักจะมีการขอให้เปิดเผยหรือ หรือถามข้อมูลส่วนตัว เช่น ข้อมูลบัญชี, รหัสผ่าน, เลขบัตรประชาชน, รหัสเอทีเอ็ม, รหัส Mobile Bangking, รหัส OTP หรือโน้มน้าวให้ทำธุรกรรมทางการเงิน

3. วิธีป้องกันและสิ่งที่ควรทำเมื่อได้รับข้อความแปลกปลอม

  • ไม่เพิ่มเพื่อนด้วย LINE ID หรือคลิกลิงก์ที่มาจากข้อความแปลกปลอมโดยเด็ดขาด
  • หากมีการสอบถามข้อมูลส่วนตัวหรือแจ้งให้ทำธุรกรรมทางการเงินจากคนรู้จักหรือไม่รู้จัก แนะนำให้โทรสอบถามเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
  • กดรายงานปัญหาหากได้รับข้อความแปลกปลอมทาง LINE
  • ไม่ให้ข้อมูลบัญชีรหัสผ่านหรือข้อมูลส่วนตัวใดๆ กับผู้อื่น ซึ่งทีมงาน LINE จะไม่ขอรหัสผ่านจากผู้ใช้งานในทุกกรณี
ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

...

วิธีปิดกั้นแชตคนที่ไม่รู้จัก

เพื่อเป็นการป้องกันตัวเองในเบื้องต้น ควรทำการตั้งค่าปิดกั้นแชตจากคนที่ไม่รู้จัก โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. ไปที่หน้าหลัก ที่มีสัญลักษณ์ “บ้าน”
  2. ไปที่ไอคอน “ฟันเฟือง” ที่อยู่ด้านบนขวาสุดเพื่อทำการตั้งค่า
  3. ไปที่ “ความเป็นส่วนตัว”
  4. เลื่อนปุ่ม “ปฏิเสธการรับข้อความ” ไปด้านขวาเพื่อเปิดใช้งาน

และที่สำคัญคือ อย่ามองข้าม “รหัสยืนยันตัวตน” เพื่อใช้ในการเข้าสู่ระบบหรือทำธุรกรรมออนไลน์ต่างๆ “มักจะเป็นรหัสผ่านที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียว” และกำหนดระยะเวลาการใช้งานโดยจะส่งไปยังอีเมลหรือข้อความทางโทรศัพท์ (SMS)

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

โดยรูปแบบของการยืนยันตัวตนที่นิยมและพบได้บ่อยก็คือ “รหัส OTP” (One Time Password) ที่สำคัญมากเพราะเป็นการยืนยันว่าบุคคลที่กำลังทำธุรกรรมออนไลน์อยู่ในขณะนั้นเป็นเจ้าของบัญชีตัวจริง

...

ดังนั้นจึงไม่ควรบอกหรือส่งต่อรหัสนี้ให้กับบุคคลอื่นโดยเด็ดขาด หากพบความผิดปกติ เช่น ได้รับรหัสทั้งที่ไม่ได้ทำรายการ ให้รีบติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริการนั้นๆ ทันที