การดูแลสุขภาพในช่วงฤดูหนาวของผู้สูงอายุ และโรคที่ควรต้องระวัง ที่อาจเกิดขึ้นได้ในเวลาที่สภาพอากาศแห้ง และมีความเย็นเพิ่มขึ้น
ลมหนาวได้พัดมาถึงประเทศไทยแล้ว ทำให้สภาพอากาศเริ่มมีความเย็นอย่างต่อเนื่อง และสิ่งที่ควรรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป คือ ร่างกาย และสุขภาพ
โดยเฉพาะ ‘ผู้สูงอายุ’ อาจจะได้รับผลกระทบนี้มากกว่าวัยอื่นๆ เนื่องจากเป็นวัยที่ร่างกายสามารถปรับตัวได้ช้า และตอบสนองกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพได้
สภาพอากาศเย็นอาจทำให้เกิดโรคได้หลายชนิดที่ผู้สูงอายุอาจจะต้องระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ โรคไข้หวัดที่สามารถติดต่อได้จากทางเดินหายใจ, ผิวหนังแห้งลอก และอักเสบ, ระบบปรับตัวของอุณหภูมิในร่างกาย สามารถส่งผลกระทบต่อภูมิคุ้มกัน และโรคประจำตัวบางชนิดที่อาจกำเริบได้

ปัญหาสุขภาพที่มักเกิดขึ้นได้ในช่วงฤดูหนาวสำหรับ ‘ผู้สูงอายุ’
- ระบบทางเดินหายใจ
ฤดูหนาว เป็นสภาพอากาศที่อาจส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจได้โดยตรง สาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน โดยโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจในฤดูหนาวนี้มักเกิดขึ้นกับ ผู้สูงอายุ และเด็ก เนื่องมาจากสภาพร่างกาย และภูมิคุ้มกันที่มีความไม่สมบูรณ์เต็มที่
...
โรคที่สามารถเกิดขึ้นได้ เช่น โรคไข้หวัด โรคภูมิแพ้ หากไม่ป้องกัน และดูแลตนเองอาจรุนแรงถึงขั้นปอดติดเชื้อได้ ถ้าหากรู้สึกว่าร่างกายเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง มีน้ำมูก และไข้ ให้รีบหายาสามัญประจำบ้านมารับประทาน พยายามสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย และพักผ่อนเพียงพอ
- ปัญหาผิวหนัง
สภาพอากาศที่แห้งจากลมหนาว อาจส่งผลต่อสุขภาพผิวได้ โดยทำให้ผิวหนังแห้ง ลอก เป็นขุย บางรายอาจรุนแรงจนเป็นโรคผิวหนังอักเสบได้ ปัญหาผิวหนังในช่วงนี้อาจเกิดได้กับคนในทุกวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีไขมันใต้ผิวหนังน้อย และต่อมไขมันทำงานลดลงตามวัยทำให้มีแนวโน้มในการสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย
ควรใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด หรือห่มผ้าหนาๆ และหาครีมบำรุงผิวเพื่อให้ผิวยังคงความชุ่มชื้นไม่แห้งได้ง่าย โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุควรใช้เป็นสูตรอ่อนโยนต่อผิว หรือสูตรเด็กจะมีประสิทธิภาพที่ดี
- ระบบไหลเวียนเลือด
จากสภาพอากาศที่เย็นขึ้น ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานมากกว่าปกติเพื่อปรับสมดุลในร่างกาย หากผู้สูงอายุทานอาหารที่มีไขมันสูง และไม่ออกกำลังกายด้วย อาจส่งผลให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานหนักกว่าเก่า และอันตรายต่อผู้ที่เป็นโรคหัวใจ โรคความดัน ส่งผลให้เกิดโรคเกี่ยวกับเลือดได้ง่ายขึ้น เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง เส้นเลือดตีบตัน
การป้องกัน คือ หมั่นทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ออกกำลังกาย และทำให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามหากโรคประจำตัวมีอาการรุนแรงขึ้นจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินอาการอย่างใกล้ชิด
- อุณหภูมิในร่างกายมีความผิดปกติ
อุณหภูมิในร่างกายเกิดความผิดปกติ มักจะเกิดได้บ่อยกับผู้สูงอายุ และผู้ที่อยู่ในบริเวณสภาพอากาศที่เย็นจัด โดยจะมีอาการ เช่น มีความรู้สึกชาในบริเวณผิวหนังในเวลาที่อากาศหนาวมากๆ รู้สึกขยับเขยื้อนร่างกายได้ช้าลง และไม่ตอบสนอง ส่วนใหญ่เกิดมาจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ ที่เกิดจากอุณหภูมิในร่างกายไม่สามารถปรับสภาพได้ ยิ่งในผู้สูงอายุจะสามารถปรับตัวได้ช้ากว่าวัยอื่นๆ และโรคประจำตัวผู้สูงอายุที่อาจส่งผลต่อการปรับตัวในร่างกายประกอบด้วย โรคไทรอยด์ ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ หรือการทานยาประจำตัว
หากมีอาการเหล่านี้ให้ควรรักษาสภาพร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ ด้วยการห่มผ้าหนาๆ และดื่มน้ำเยอะๆ อย่างไรก็ตามควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากมีอาการที่รุนแรงขึ้นควรปรึกษาแพทย์
- โรคประจำตัว
สภาพอากาศที่หนาวเย็น อาจเป็นฉนวนในการทำให้โรคประจำตัวต่างๆ ที่มีอยู่สามารถกำเริบได้ และทวีความรุนแรงได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากการทำงานของสภาพร่างกายที่เปลี่ยนแปลงตามวัย และสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ยิ่งในช่วงฤดูหนาวอาจจะส่งผลในโรคเกี่ยวกับข้อ และกระดูก ที่เกิดได้บ่อยจากผู้สูงอายุในช่วงฤดูหนาวนี้
ผู้สูงอายุ และผู้ดูแลควรเฝ้าระวัง และหมั่นตรวจสุขภาพของตนเองในทุกวัน หากเกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ให้ควรพบแพทย์เพื่อติดตามอาการ และดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อที่จะป้องกันโรคต่างๆ และใช้ชีวิตในช่วงฤดูหนาวให้มีความสุข

การดูแลสุขภาพสำหรับ ‘ผู้สูงอายุ’ ในช่วงฤดูหนาว
- หมั่นสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย เช่น การสวมเสื้อผ้าหนา และถุงเท้า
- ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ
- ผู้สูงอายุควรรับประทานอาหารให้มีประโยชน์ ลดอาหารไขมันสูง และอาหารเสริมในส่วนของกระดูก ระบบเลือด และภูมิคุ้มกัน เนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นสามารถส่งผลกระทบได้โดยตรง
- ผู้สูงอายุควรรับประทานยาประจำตัวอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการกำเริบของโรคประจำตัว
- หลีกเลี่ยงการเดินทางไปสถานที่ที่มีอากาศหนาวจัด
- หลีกเลี่ยงการเดินทางไปสถานที่ที่มีความแออัด และอากาศไม่สามารถถ่ายเทได้ดี อาจก่อให้เกิดโรคได้
- หมั่นล้างมือบ่อยๆ และใส่หน้ากากอนามัยเพื่อลดการติดเชื้อโรค
- หากพบความผิดปกติในร่างกายควรพบแพทย์ทันที
...
ข้อมูล : โรงพยาบาลศิริราช, กระทรวงสาธารณสุข
ภาพ : istock