ที่สุดของการเดินทาง ไม่ใช่ว่าไกลหรือลำบาก แต่ที่ทรมานจนเกินบรรยาย นั่นหมายถึง เหตุการณ์ที่เราไม่คาดฝัน เหตุการณ์ที่เราควบคุมไม่ได้ หรือยากเกินกว่าจะบอกใคร จนเป็นที่มาของคำว่า "ประสบการณ์สุดยี้"...

ยิ่งถ้าต้องเดินทางกับบริการสาธารณะยิ่งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ รถไฟฟ้า รถใต้ดิน หรือรถตู้ รถทัวร์ ก็ผู้คนมากมายก่ายกอง แล้วจะให้ทำเช่นไร? ถ้าเป็นคุณๆ จะทำอย่างไรดี เพราะหลายเหตุการณ์ เราก็ทำได้แค่ทำใจ ทนอับอายขายขี้หน้ากันไป (ฮา)

เราไปดูตัวอย่างประสบการณ์สุดยี้บนบริการสาธารณะของแต่ละคน และวิธีรับมือแบบง่ายๆ ที่เชื่อว่า...หลายคนอาจได้ไอเดียไปประยุกต์ อย่างน้อย...ฉันก็ต้องรอดไปให้ได้

1. ตดดังป้าด

พุธโธ่พุธถัง กาละมังตั้งเด่ ถ้าตดของคุณๆ มีแค่เสียง มันก็ไม่เท่าไร แต่ถ้ามีกลิ่นแถมมาด้วยนี่สิ ไม่อยากจะนึกภาพตาม ได้แต่ปิดตาร้องยี้ ก่อนจะกลั้นหายใจนานๆ ไม่ใช่อะไร...มันจะขมคอ

วิธีเอาตัวรอด : ถ้ารู้ว่าอั้นไม่อยู่ ก็ปล่อยสบายๆ สไตล์ไหลๆ แค่ระหว่างนั้นต้องทำเสียงกลบ แก้ปัญหาเรื่องเสียงก่อน (กลิ่นเอาไว้ทีหลัง) ด้วยการทำเสียงข่ม เช่น ค้นหาของในกระเป๋าให้เสียงมันดังก่อกแก่ก หรือจะทำอะไรให้เกิดเสียงก็ได้ มาถึงเรื่องของกลิ่น วิธีการเดียวเลยที่ทำให้คนอื่นไม่รู้ว่าเป็นคุณตด คือ เอามือมาปิดจมูก หรือขยับตัวเล็กน้อย พร้อมกับชำเลืองมองไปที่คนอื่น แค่นั้นแหละ....คุณรอด แต่เค้าไม่รอด! (ฮา)

...

2. ปวดท้อง ท้องเสีย

โอ๊ย...ขนลุก ไม่ใช่แต่แขนนะ ขนหัวก็ลุก เอาไงดี? งานเข้าแบบใหญ่โตมโหฬารมากๆ ท้องไส้เจ้ากรรมมาปวดอะไรตอนนี้ ไม่รู้จักเวล่ำเวลาเลย บ่นไปไม่เกิดประโยชน์ ทำอย่างไรดีล่ะ เพื่อจะผ่านเหตุการณ์แบบนี้ไปได้

วิธีเอาตัวรอด : หนทางเดียวเลย! ไม่ต้องคิดเยอะ หรือเข้าข้างตัวเองว่ามันจะหายไปเอง (คุณอาจคิดผิดก็ได้) จงหาห้องน้ำเข้าบัดเดี๋ยวนี้! อย่าช้า อย่ารีรอ โดยหวังว่ามันจะจากไป เข้างานสาย ไปนัดช้า หรืออะไรก็ตามแต่ จงลงจากรถสาธารณะ แล้วมุ่งตรงไปห้องน้ำ สถานีไหนก็ได้ ไม่รู้ให้สอบถาม เพื่อง่ายแก่การควบคุมหูรูด เวลานี้ไม่ต้องเคอะเขินกันแล้ว ไม่งั้นมีเละ จะเสียงานเสียการเสียเวลาไปกันใหญ่ เชื่อพี่เถอะ!

3. ดราม่า 'น้ำมูกน้ำตา' ก็มา

อยู่ดีๆ ก็เป็นอะไรไม่รู้ คิดมากจนนอยด์ น้ำมูกน้ำตาไหล ระหว่างอยู่บนรถสาธารณะ ถ้าเป็นรถเมล์แล้วนั่งเบาะใครเบาะมันก็ยังโอเค แต่ถ้าเป็นบีทีเอส หรือรถไฟใต้ดิน มันใกล้ชิดกันอย่างจริงจัง ยิ่งเวลาพีคๆ ช่วงเช้าหรือช่วงเย็นที่คนเยอะๆ แก้มนี่แทบจะหอมกันแล้ว แล้วจะกลั้นน้ำตาได้อย่างไร หรือจะผ่านจากสถานการณ์นั้นอย่างไรดี

วิธีเอาตัวรอด : อันดับแรก จริงๆ แทบไม่ต้องแนะนำ คือหยิบกระดาษทิชชู่ ผ้าเช็ดหน้า มาช่วยซับน้ำตาและน้ำมูก เพราะเป็นสิ่งของช่วยอำพรางความเจ็บช้ำในใจให้คุณได้ แต่ถ้าไม่มีล่ะ! ทำอย่างไรดี? ก็หาจุดโฟกัสใหม่นะบัดนาว เปลี่ยนความสนใจตัวเองไปทำอย่างอื่นโดยด่วน ไม่ว่าจะเล่นเกม ดูรีวิวอาหาร หรือส่องไอจีดารา ชมแฟชั่นหน้าผม หรือจะหันไปดูวิวข้างทาง ก็น่าจะช่วยคุณรอดไปได้ ข้อนี้สำคัญที่ต้อง “ใจแข็ง” แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น คุณเองก็ไม่โป๊ะแตกจนเกินงาม

4. รองเท้าขาด ส้นหัก

ฮา...มันเวรกรรมอะไรนี่ ทำไมถึงมาขาด มาหักวันนี้ ถ้าเป็นช่วงขากลับบ้าน ก็ยังจะอับอายน้อยหน่อย แต่ถ้ากำลังจะไปทำงานนี่สิ จะทำยังไงดี

...

วิธีเอาตัวรอด : อันนี้รอดยากขอบอก เพราะมันไม่สามารถเสแสร้งเล่นละครได้เลย หนทางจะรอด คือ ทำตัวเป็นสาวมั่น หนุ่มมั่น ด้วยการเดินกะเผลก หรือเดินเท้าเปล่ามันไปแบบนั้น ก่อนจะหาร้านรองเท้า หรือร้านสะดวกซื้อ คีบอีแตะไปก่อน เพื่อให้รอดไปพลาง

5. ซิปแตก กระดุมขาด

บ่อยมั้ย? กับคุณผู้ชาย คุณอายสินะ...เพราะบางทีใส่กางเกงสแล็ก เสื้อเชิ้ตทับใน ก็เห็นกันจะๆ ไปเลย ถ้ารู้ตัวก็ดีไป แต่ถ้าไม่รู้ตัวนี่สิ งูเงี้ยวเขี้ยวขอ ออกมาวิ่งเล่นเป็นแน่แท้ บางคนกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เพื่อนร่วมงานมาทักนี่แหละ ส่วนสาวๆ ก็เช่นกัน กระดุมหลุด เห็นยันผิวพุง หน้าอก ทำไงดีล่ะ

วิธีเอาตัวรอด : ปิดบังอำพราง ด้วยการดึงชายเสื้อออกมา แค่นั้นก็รอด เราก็แก้ไขปัญหาได้อย่างง่าย แต่ถ้าเสื้อมันสั้นล่ะ ครั้นจะหาเสื้อแจ็กเก็ตมาคุมทับ ก็ดันทิ้งไว้ที่ออฟฟิศ งานนี้ก็ต้องสิ่งของ กระปงกระเป๋าหามาปิดด่วนๆ เลยจ้า

ขำขันกันไป กับประสบการณ์ส่วนตัวสุดยี้ ใครเคยทุลักทุเลกว่านี้ ไหนลองบอกมาสิ ว่าต้องไปเจอศึกหนักอย่างไรบ้าง แถมบอกวิธีเอาตัวรอดมาได้ยิ่งดี เผื่อคนอื่นจะได้ไปทำตาม อย่างนี้ก็ได้บุญนะจ๊ะ

...

แต่ทางที่ดี...อย่าเกิดกับใครดีที่สุด!