แน่นอนว่าวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา เต็มไปด้วยความหวานชื่นใจ เป็นวันที่หลายคนกล้าที่จะเผยความรู้สึก บอกรัก หรือเริ่มต้นเดตเพื่อทำความรู้จักกัน แต่ความรักไม่ได้จบลงแค่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เพราะยังมีอีกวันที่ให้คุณได้ลุ้นระทึกกับ "คำตอบ" ที่รอคอย นั่นก็คือ "วันไวท์เดย์" วันแห่งการตอบ และเผยความในใจของความรักที่ชาวญี่ปุ่นและเกาหลีนิยมกัน

หลังจากวันวาเลนไทน์ที่ผ่านพ้นไป การได้บอกรัก เผยความในใจกับคนที่ชอบคงเป็นอะไรที่น่าประทับใจไม่น้อย แต่ก็ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่อยากจะรู้ว่าการบอกชอบ ได้ทดลองเดต หรือการได้ศึกษาดูใจกันจะสัมฤทธิผลหรือเปล่าในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา

ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดวันสำคัญอีกวันตามประเพณีของชาวเอเชียที่นิยมกันในประเทศญี่ปุ่น และประเทศเกาหลีที่ชื่อว่าวันไวท์เดย์ (White Day) หรือ “วันแห่งคำตอบ” นั่นเอง

วันไวท์เดย์ (White Day) จะตรงกับวันที่ 14 มีนาคมของทุกปี เป็นวันที่ผู้ที่ได้รับของขวัญในวันวาเลนไทน์จะตอบความรู้สึกในใจ ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะเป็นฝ่ายชาย ถ้ารู้สึกดี และอยากคบหาดูใจกันต่อก็มักจะมอบของขวัญให้ฝ่ายหญิงเพื่อตอบรับความรู้สึกนั้น

โดยไวท์เดย์ มีจุดเริ่มต้นมาจากปี 1978 ที่ประเทศญี่ปุ่น บริษัทขนมแห่งหนึ่งในเมืองฟุกุโอกะได้คิดค้นแผนการตลาดสุดสร้างสรรค์ โดยตั้งชื่อวันที่ 14 มีนาคมว่า "วันมาร์ชเมลโล" และโปรโมทให้มาร์ชเมลโลเป็นสัญลักษณ์ของความรักอันบริสุทธิ์ เพื่อไปใช้ในการตอบแทนคนที่มอบของขวัญให้กับเราในวันวาเลนไทน์จนเกิดเป็นไวรัล และผู้คนนั้นนิยมทำต่อๆ กันมาจนถึงปัจจุบัน

สิ่งที่คนนิยมทำกันในวันไวท์เดย์ ก็คือในทุกวันที่ 14 มีนาคมของทุกปี หรือหนึ่งเดือนหลังวันวาเลนไทน์ จะมีระยะเวลาในการตัดสินใจ ถามความรู้สึกตัวเอง ถ้าชอบ วันที่ 14 มีนาคมนี้ คนที่เราบอกชอบ หรือซื้อของให้ในวันวาเลนไทน์จะตอบแทนและให้คำตอบด้วยการซื้อของมาให้เพื่อตอบแทน (ส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายชาย ซื้อให้กับฝ่ายหญิง)

...

White Day จะมีธรรมเนียมอยู่ว่าของที่ต้องตอบแทนนั้นควรมีมูลค่ามากกว่าของที่ได้รับมา 3 เท่า ซึ่งของขวัญยอดนิยมมักจะเป็นของขวัญสีขาว ประกอบไปด้วย มาร์ชเมลโล ไวท์ช็อกโกแลต ขนมหวานต่างๆ ของขวัญแฮนด์เมด หรือของขวัญชิ้นใหญ่

โดยของขวัญแต่ละชนิดอาจแทนคำตอบได้ อย่างถ้าให้เป็น มาร์ชเมลโลว์ จะหมายถึง “คุณยังไม่ใช่คนที่ปลื้ม” หรือ คุกกี้ ที่หมายถึง “เราเป็นเพื่อนกันเถอะ” ส่วน ช็อกโกแลต หรือลูกกวาด จะมีความหมายว่า “ฉันก็ชอบคุณเหมือนกัน”

ส่วนสำหรับคนที่ไม่สมหวังในความรัก ถัดไปอีกหนึ่งเดือนจากวันไวท์เดย์ ซึ่งจะตรงกับวันที่ 14 เมษายน จะถือว่าเป็นวันที่คนโสด หรือคนที่อกหัก จะออกมาแต่งกายด้วยชุดสีดำ และรับประทานอาหารสีดำ เช่น จาจังมยอน เพื่อเป็นการให้กำลังใจตัวเองและประกาศว่าถึงแม้จะผิดหวังในความรักก็ยังพร้อมที่จะก้าวต่อไป โดยวันแบล็กเดย์เป็นที่นิยมในประเทศเกาหลีใต้

ทั้งวันไวท์เดย์ และวันแบล็กเดย์ เป็นวัฒนธรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในความรู้สึกและความสัมพันธ์ ซึ่งถือเป็นควันหลงน่ารักๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ที่น่าสนใจของวัฒนธรรมในเอเชีย

ภาพ : istock