แม้ว่าการแช่น้ำแข็ง (Ice Baths) ซาวน่า และกินวิตามินจะเป็นที่นิยมในปี 2567 แต่เมื่อเข้าสู่ปี 2568 เทรนด์ด้านสุขภาพใหม่ๆ กำลังจะเกิดขึ้น และตามความเห็นของลิเวีย หวัง ผู้ประกอบการหลายธุรกิจและผู้ก่อตั้ง Access Corporate และ Wellness Adventures เทรนด์เหล่านี้กำลังถูกกำหนดโดยระดับผู้บริหาร
"ซีอีโอมีอายุเฉลี่ย 50-55 ปี และหลังจากที่พวกเขาต่อสู้อย่างหนักเพื่อให้ได้มาอยู่ในตำแหน่งนี้ พวกเขาเริ่มประสบปัญหาต่างๆ เช่น โรคหวาดระแวง ความวิตกกังวล ปัญหาการนอน ปัญหาสุขภาพจิต ซึ่งยังไม่นับรวมภาวะวัยทอง ซึ่งผู้หญิงในวัยนี้ต้องเผชิญ" หวังกล่าว
ทฤษฎีของหวังได้รับการสนับสนุนจากการศึกษาล่าสุด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความเหนื่อยล้าของผู้นำเป็นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น
- ข้อมูลจากรายงาน Global Leadership Forecast ปี 2564 พบว่า 60% ของผู้นำบอกว่ารู้สึก "หมดแรง" เมื่อสิ้นสุดวันทำงาน
- ในปี 2566 มีซีอีโอลาออกจากตำแหน่งเป็นจำนวนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
- การศึกษาของ Deloitte พบว่า 75% ของผู้บริหารระดับสูงกำลังพิจารณาที่จะลาออกจากงานอย่างจริงจัง เพื่อหางานที่สนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของพวกเขามากกว่า
- มีซีอีโออย่างน้อย 19 คนเสียชีวิตขณะทำงานในปีเดียวกัน
...
"มันเป็นการต่อสู้ที่ว่า ฉันต้องการให้ทีมทำงานหนักขึ้น ดังนั้นฉันต้องทำงานหนักขึ้นด้วย" หวังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการต่อสู้นี้ ผู้บริหารจะเริ่มมองหาทางออกด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ส่งผลให้เกิดเทรนด์สำคัญ 6 ประการ
1. การมีอายุยืน (Longevity)
หวังกล่าวว่าเทรนด์หลักในปี 2568 จะเป็นเรื่องการมีอายุยืน แม้ว่าผู้บริหารที่แสวงหาคุณภาพชีวิตในวัยที่มากขึ้นจะเป็นแรงผลักดันสำคัญเบื้องหลังเทรนด์นี้ แต่มันก็เป็นผลพวงตามธรรมชาติของประชากรที่มีอายุมากขึ้น คาดการณ์ว่าภายในปี 2593 หนึ่งในหกของประชากรโลกจะมีอายุมากกว่า 65 ปี เพิ่มขึ้นจากหนึ่งในสิบเอ็ดในปี 2562
"กระแสผู้สูงวัย" นี้สร้างต้นทุนที่สูงขึ้นให้กับรัฐบาล ดังนั้นบริษัทที่มุ่งเน้นเรื่องการมีอายุยืนจึงได้รับการลงทุนอย่างมาก ในปี 2565 เพียงปีเดียว มีการลงทุนเกือบ 5.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในบริษัทที่มุ่งเน้นเรื่องการมีอายุยืน ตามรายงานของ J.P. Morgan Private Bank และสถาบัน Milken Institute คาดว่าตลาดการมีอายุยืนทั่วโลกจะมีมูลค่าถึง 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2568
"ผู้คนกลัวความตาย" หวังกล่าว "พวกเขาต้องการมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น ดังนั้นพวกเขาจะสวมอุปกรณ์ที่ติดตามข้อมูลการนอนหลับหรือรับประทานอาหารเสริมเพื่อปรับปรุงอายุของเซลล์"
การตรวจ DNA สามารถช่วยประเมินกระบวนการแก่ตัวอย่างครอบคลุมและช่วยระบุพื้นที่สำหรับการแทรกแซงที่เฉพาะเจาะจงก็อยู่ในหมวดหมู่นี้ด้วย
การปรับเปลี่ยนร่างกายและจิตใจของตนเอง (biohacking) เพื่อการมีอายุยืนกลายเป็นกระแสหลัก ก็อาจส่งผลต่อความสนใจในผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถช่วยให้ผู้คนมีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดีขึ้น
2. การมีความสุข (Happiness)
นอกจากการมีอายุยืนยาวแล้ว การมีอายุยืนและมีความสุขไปพร้อมกันคือสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้น การแสวงหาความสุขโดยไม่ต้องพึ่งพาทางออกระยะสั้น เช่น ยาเสพติดและแอลกอฮอล์ จะกลายเป็นจุดสนใจสำคัญสำหรับผู้บริหารและคนอื่นๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น ผู้คนจะมองหาชุดความสุขทั้ง 4 คือ สุขภาพ หัวใจ จิตใจ และจิตวิญญาณ
...
"เมื่อ 'ชุด' ทั้งสี่นี้ทำงานร่วมกันได้ดี ผู้คนจึงจะสามารถมีความสุขที่ยั่งยืนได้อย่างแท้จริง" หวังกล่าว
สอดคล้องกับข้อมูลจาก Global Wellness Institute คาดการณ์ว่าการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพมีมูลค่าประมาณ 651 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี และมีการคาดการณ์การเติบโตของค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อปีที่ 16.6% จนถึงปี 2570
3. วัยทอง (Menopause)
ผู้หญิงในตำแหน่งผู้นำจะไม่นิ่งเฉยต่อผลกระทบจากภาวะวัยทองหรือถูกผลักดันให้เกษียณก่อนกำหนดอีกต่อไป หวังกล่าวว่าการสนทนาเกี่ยวกับวัยทองจะเริ่มเข้าสู่จุดศูนย์กลางในที่ทำงานและที่อื่นๆ และเป็นผลให้เกิดทางออกสำหรับผู้หญิง
และเทรนด์นี้กำลังเติบโตแล้ว: การดูแลวัยทองได้รับเงินทุนจากผู้ถือหุ้น 230 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566 เพิ่มขึ้น 22% จากปี 2565 ตามรายงานของ CBI Insights
"ปัจจุบัน ไม่มีการสนับสนุนและมีการวิจัยน้อยมาก" หวังกล่าว "มันเหมือนกับการศึกษาเรื่องเพศในสมัยก่อน ผู้คนกลัวที่จะพูดถึงมัน มันเป็นเรื่องต้องห้าม แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว และเมื่อผู้นำหญิงขึ้นเวที พวกเขาจะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง"
...
4. การกลับมาเชื่อมโยงกันใหม่ในระดับสากล (Re-globalisation)
แม้ว่าการระบาดใหญ่อาจนำไปสู่การชะลอตัวของการค้าระหว่างประเทศและการถอยห่างจากความร่วมมือระดับโลก ในขณะที่สงครามยูเครน-รัสเซียและอิสราเอล-ปาเลสไตน์-เลบานอนได้ทำลายห่วงโซ่อุปทาน อย่างไรก็ตาม หวังกล่าวว่าการบูรณาการทางเศรษฐกิจที่มากขึ้นและการกลับมาเชื่อมโยงกันใหม่ในระดับสากล (Re-globalisation) กำลังจะมาถึง
หวังคาดว่าการกลับมาเชื่อมโยงกันใหม่ในระดับสากล (Re-globalisation) จะนำไปสู่ทางออกด้านสุขภาพที่ดีขึ้น เพราะเกิดการร่วมมือกันแก้ไขปัญหาสุขภาพและส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีให้กับผู้คนทั่วโลก โดยอาศัยความรู้ เทคโนโลยี และทรัพยากรที่มีอยู่ร่วมกัน เช่น
- การพัฒนาวัคซีน: การร่วมมือกันพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อ เช่น โควิด-19 เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการ Re-globalisation ด้านสุขภาพ
- การแบ่งปันข้อมูลทางการแพทย์: การสร้างฐานข้อมูลสุขภาพร่วมกันช่วยให้นักวิจัยสามารถค้นพบวิธีการรักษาโรคใหม่ๆ ได้เร็วขึ้น
- การสนับสนุนโครงการสาธารณสุข: องค์กรระหว่างประเทศและรัฐบาลต่างๆ ร่วมมือกันสนับสนุนโครงการสาธารณสุขในประเทศกำลังพัฒนา
- การส่งเสริมวิถีชีวิตที่ดี: การรณรงค์ให้ผู้คนทั่วโลกตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพและการป้องกันโรค
5. การออกแบบเฉพาะบุคคล (Personalisation)
ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ออกแบบเพื่อให้สามารถใช้ได้กับทุกคน หรือ One size fits all ไม่ตอบโจทย์กับเรื่องสุขภาพ และไม่ใช่คำตอบในปี 2568
โภชนาการที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคล (Personalisation) เป็นอีกด้านหนึ่งที่หวังคาดว่าจะดำเนินไปอย่างเต็มที่ในปี 2568 เนื่องจากผู้คนต้องการโซลูชันที่ปรับแต่งเองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสุขภาพมากขึ้น
...
ตามที่ NX-Food ระบุว่า อุตสาหกรรมโภชนาการส่วนบุคคลมีมูลค่าสูงสุดที่ 8.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าเป็น 19.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2570 ในอนาคตคาดว่าภาพรวมตลาดจะสูงถึง 64 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2593
เทรนด์นี้ยังรวมถึงอุปกรณ์สวมใส่ เช่น นาฬิกาอัจฉริยะและเครื่องติดตามสุขภาพ ซึ่งให้คำแนะนำและข้อมูลแบบเรียลไทม์ที่ปรับแต่งตามความต้องการของผู้ใช้
"โดยการทำความเข้าใจโครงสร้างทางพันธุกรรมที่ไม่เหมือนใครของแต่ละบุคคล ผู้ให้บริการด้านสุขภาพและแบรนด์โภชนาการสามารถพัฒนาคำแนะนำที่ตรงเป้าหมายเพื่อช่วยป้องกันโรคเรื้อรัง ส่งเสริมการแก่ตัวอย่างมีสุขภาพดี และเพิ่มพลังชีวิตโดยรวม" หวังกล่าว
6. ทางเลือกจากพืช (Plant-based solutions)
สิ่งที่หวังหลงใหลเป็นการส่วนตัวในฐานะผู้บริโภค Plant-based เป็นหลักคือการถือกำเนิดของทางเลือกจากพืช
"ผลิตภัณฑ์จากพืชไม่เพียงแต่ปกป้องสัตว์เท่านั้น แต่ยังปกป้องร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ของเราด้วย และฉันไม่ได้พูดถึงการเปลี่ยนไปใช้อาหารมังสวิรัติที่ผ่านการแปรรูปมากเกินไป ฉันกำลังพูดถึงแนวทางการรับประทานอาหารที่สะอาดด้วยส่วนผสมจากพืช"
เมื่อปีที่แล้ว หวังเปลี่ยนไปใช้ไลฟ์สไตล์แบบ Plant-based เป็นหลัก โดยเลิกบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์และแอลกอฮอล์ ซึ่งเธอพูดว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อร่างกายและจิตใจของเธอด้วยระดับพลังงานที่เพิ่มขึ้น ความคมชัดทางจิตใจที่ดียิ่งขึ้น และสุขภาพโดยรวมที่ดียิ่งขึ้น
ด้าน Science Direct มีหลักฐานสนับสนุนบทบาทของอาหารจากพืชในการป้องกันโรคเมตาบอลิซึมของหัวใจและหลอดเลือดและการตายก่อนวัยอันควร ผลไม้และผักอุดมไปด้วยเส้นใย สารต้านอนุมูลอิสระ และสารอาหารต่างๆ และมีความสัมพันธ์แบบผกผันกับความเสี่ยงของโรคเรื้อรังและการตาย
โดยรวมแล้ว ปี 2568 จะเห็นการเปลี่ยนโฟกัสกลับไปที่สุขภาพภายใน
"ไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ผู้คนก็เริ่มตระหนักว่าพวกเขาเป็นมนุษย์ ไม่ใช่เครื่องจักร และจะเริ่มให้ความสำคัญกับแนวโน้มเหล่านี้เพื่อนำไปสู่วิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี" หวังกล่าว
ที่มา Forbes