สุรา เบียร์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องไปกับวัตถุดิบถิ่นไทย หนึ่งในการต่อยอดของคนรุ่นใหม่ นำพามาซึ่งเศรษฐกิจ วัฒนธรรม ชื่อเสียงของประเทศไทย ที่มีศักยภาพ สามารถเดินทางไปไกลได้ระดับโลก

วัตถุดิบ ของดีในเขตแดนสยาม ประเทศไทย มีอยู่มากมายทั่วทุกพื้นที่ และสามารถนำไปแปรรูปได้อย่างหลากหลาย ซึ่งมีให้เห็นอยู่มากมาย ในบางประเภทมีการส่งออก ต่อยอดเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้แก่เกษตรไทยมาหลายชั่วอายุคน

หนึ่งผลผลิตแปรรูปอย่าง “สุรา เบียร์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พื้นถิ่นชนิดต่างๆ” กำลังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเศรษฐกิจใหม่ ที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่เกษตรกรรุ่นใหม่ ณ ปัจจุบัน ที่กำลังรณรงค์ และเป็นที่พูดถึง โดยพวกเขาเชื่อว่า “ประเทศไทย มีของดี และสามารถแปรรูปนำพาเศรษฐกิจเข้าสู่ชุมชน พื้นที่ และประเทศได้อย่างหลากหลายมากมายกว่าที่คิด”

โดยสุรา เป็นศาสตร์หนึ่งที่สามารถจำแนกออกมาได้หลากหลายประเภท ตามวัตถุดิบ และกระบวนการผลิต โดยเสน่ห์ของเครื่องดื่มนี้ คือ วัฒนธรรม เรื่องเล่า วัตถุดิบ กระบวนการ และการนำเสนอ ที่เป็นเอกลักษณ์จากการกลั่นเหล้าของพื้นที่นั้นๆ โดยสิ่งนี้ถูกเรียกว่า “สุราชุมชน” หรือ “สุราพื้นบ้าน”

...

แน่นอนว่า แนวคิดนี้ สุราพื้นถิ่น สุราชุมชน สุราพื้นบ้านนี้มีมาอย่างเนิ่นนาน และเชื่อว่าทุกๆ คนเคยเห็น และรู้จักกันมาบ้างในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น โซจู สาเก แซงเกรีย ไซเดอร์ วอดก้า เบอร์เบิน วิสกี้ จิน และอีกมากมาย

โดยทั้งหมดที่กล่าวมา มีความคล้ายกัน คือ เป็นสุรา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และน้ำเมา แต่ต่างกันตรงที่วัตถุดิบ กรรมวิธี วัฒนธรรม การดื่ม ขนบธรรมเนียม และประวัติความเป็นมา โดยชื่อที่กล่าวมาทั้งหมด สามารถนำมาแตกแขนง สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับเกษตรกร ในประเทศต่างๆ มาแล้วทั่วโลก

มองกลับมาที่ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีศักยภาพในด้านวัตถุดิบ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม และอีกมากมาย จนเกิดเป็น สาโท เหล้าขาว เหล้าอุ เหล้าตอง ยาดอง แต่น่าเสียดายที่ผลผลิตเหล่านี้ไม่ถูกเป็นที่พูดถึงมากนัก

แน่นอนว่าชื่อสุราพื้นถิ่น และแอลกอฮอล์พื้นบ้าน ที่กล่าวมาข้างต้น มีศักยภาพเป็นอย่างมาก หากผ่านกรรมวิธีที่ดี มีเอกลักษณ์ ถูกนำเสนออย่างถูกต้อง และชูวัตถุดิบอย่างมีคุณค่า

ดังนั้น ไทยรัฐออนไลน์ จะพาไป “ส่องวัตถุดิบของดี” ผลผลิตจากอุตสาหกรรมเกษตรไทย ที่สามารถต่อยอดมูลค่า "สุราไทย" ให้มีชื่อเสียงไกลระดับโลก

  • ข้าว

หนึ่งในการแปรรูปของอุตสาหกรรมข้าว เป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างมากในอนาคต เป็นวัตถุดิบหลักของสุราพื้นถิ่นหลากหลายประเภท ในอดีตเคยเป็นกระแส และมีคนสนใจเป็นอย่างมาก

ข้อดีของพันธุ์ข้าวในประเทศไทย คือ มีเอกลักษณ์ และรสชาติที่ชัดเจน ของแต่ละสายพันธุ์ตามท้องถิ่นที่แตกต่างกันออกไป ทำให้การกลั่น หรือบ่ม อย่างถูกวิธี โดยผู้มีฝีมืออาจเพิ่มมิติของรสชาติ และชูเอกลักษณ์ของพื้นที่ และจังหวัดนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี อาจเป็นหนึ่งในวัตถุดิบหลัก ในการนำพาสุราท้องถิ่นระดับจังหวัด ไปสู่ระดับประเทศได้เลยทีเดียว

...

  • ข้าวโพด

ข้าวโพด เป็นเกษตรพื้นถิ่นที่ทำกันอยู่ทั่วทุกภูมิภาค หนึ่งในวัตถุดิบที่ถูกนำมาทำเหล้ามาอย่างเนิ่นนาน เพราะสามารถนำมาหมักทำยีสต์ ที่เป็นวัตถุดิบในการหมักเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้อย่างดี

ข้าวโพดจึงเป็นวัตถุดิบที่น่าสนใจ เพราะว่ามีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ มีความหอมหวาน กลมกล่อม และหลากหลายประเภทที่นักกลั่นสามารถหยิบจับมารังสรรค์กันได้อย่างหลากหลาย

  • อ้อย

อ้อย เป็นหนึ่งในธัญพืชที่สามารถโตในประเทศไทยได้อย่างดี เป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่สามารถนำมาแปรรูปได้อย่างหลากหลาย

สุรา ก็เช่นกัน สามารถนำมาทำเป็นเหล้าขาว เหล้ารัม ไวน์ขาวได้ด้วย นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในผลผลิตที่สามารถนำมาแปรรูปได้ทุกส่วนโดยไม่เกิดขยะที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ดังนั้นไม่แปลกที่อ้อยจะเข้ามาเป็นวัตถุดิบหลักในกระบวนการผลิตสุราพื้นถิ่นอย่างไม่ต้องสงสัย

...

  • ผลไม้นานาพันธุ์

เชื่อหรือไม่ว่าผลไม้ ที่เติบโตได้ดีในประเทศไทย หลายๆ ชนิดสามารถไม่ว่าจะเป็น ส้ม ส้มโอ แอปเปิล พีช ลิ้นจี่ บ๊วย สตรอว์เบอร์รี มะพร้าว กล้วย รวมถึงผลไม้ตระกูลเชอร์รี่ สามารถนำแปรรูปได้อย่างหลากหลาย

การทำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็เช่นกัน นักกลั่น สามารถประยุกต์ใช้ความเอกลักษณ์ของผลไม้นานาพรรณที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ในไทย มาสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นให้แก่สุราเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี

ตัวอย่างเช่น การนำผิวผลไม้มาสร้างกลิ่นอะโรม่าให้แก่เครื่องดื่ม การนำผลไม้ต่างๆ มาดองจนเกิดเป็นรสชาติ และการกลั่น หมักโดยใช้ผลไม้ เป็นต้น

แน่นอนว่าวัตถุดิบเหล่านี้ เป็นต้นตอที่ทำให้ในปัจจุบันเริ่มมี “สุราชุมชน” หรือ “สุราพื้นบ้าน” ที่เป็นเอกลักษณ์ เกิดขึ้นในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น และบางแบรนด์มีชื่อเสียงไกลระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น ออนซอน, สุดสยาม, อัสดง, เทพนม, จันเป๋ง, โกษาปาน, ข้าวหอม และอีกมากมาย

ความน่าเสียดายที่ องค์ประกอบเหล่านี้ ยังไม่ถูกมองเห็นอย่างแน่ชัด ทำให้เกิดงาน “เมรัยไทยแลนด์” งานมหกรรมสุราชุมชนและคราฟต์เบียร์ทั่วประเทศไทย ที่จะมาให้ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องสุรา

โดยงานจะจัดขึ้นตลอด 7 วัน 7 คืน หากใครที่สนใจงานที่เชิดชูอัตลักษณ์ของการหมัก และการกลั่นแอลกอฮอล์พื้นบ้าน งานที่จะยกระดับความคราฟต์ ขับเคลื่อนความเจ๋งของสุราเมรัยไทย พร้อมกิจกรรมมากมาย ที่จะทำให้คุณได้มีเรื่องเม้า เรื่องเล่ากับมิติใหม่ๆ ของสุราไทย และที่พิเศษกว่าก็คือ ทุกคนสามารถเข้างานได้ฟรี