เคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมขนม เครื่องดื่ม และของอร่อยๆ อย่างเช่น ชานมไข่มุก เค้ก ขนมกรุบกรอบ หรือเฟรนช์ฟรายส์ จึงมักเป็นของกินที่ดีต่อใจ ทำให้กินได้อย่างเพลิดเพลิน แม้หลายๆ คนจะรู้ว่าหากกินมากเกินไป อาจส่งผลต่อสุขภาพร่างกายและทำให้อ้วนได้ แต่บางครั้งก็อดที่จะห้ามใจตัวเองไม่ได้ ทำให้รู้สึกผิดหลังจากกินของอร่อยเหล่านี้ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพหากกินในปริมาณที่ไม่เหมาะสม หรือกินบ่อยเกินไป

แต่จริงๆ แล้วมีเทคนิคที่สามารถจับคู่ของกินแล้วไม่อ้วน แถมยังอร่อยดีต่อใจ และช่วยเพิ่มประโยชน์ได้ง่ายๆ ไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปทำความรู้จักเคล็ดลับสุขภาพดี ‘บวก แบ่ง แพลน’ จากบริษัทเนสท์เล่ พร้อมด้วยวิธีจับคู่อาหารและเครื่องดื่มให้แฮปปี้อิ่มอร่อยแบบไม่ทำร้ายสุขภาพมาฝากกัน

“ของกินอร่อย” ไม่ใช่แค่อิ่มท้อง แต่ยังช่วยเยียวยาความรู้สึก

สมองและร่างกายบอกว่าใช่...ขนมจึงดีต่อใจ ไม่ใช่จิตปรุงแต่ง เพราะพฤติกรรมการกินนั้นเชื่อมโยงกับสถานการณ์และความรู้สึกของผู้คนในแต่ละช่วงเวลา การกินอาหารของคนเราไม่ใช่เพียงแค่เพื่อให้ร่างกายอิ่มเท่านั้น แต่อาหารยังมีบทบาทในเรื่องของการเยียวยาในเชิงความรู้สึก หรือใช้ในการเข้าสังคม ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวหรือเพื่อนฝูง โดยอาหารว่างแบบหวาน จะมีน้ำตาลกลูโคสซึ่งเป็นแหล่งพลังงานเดียวของสมอง ช่วยกระตุ้นสารแห่งความสุขหรือโดพามีน ส่วนอาหารว่างแบบคาว ของทอด ของเค็ม จะทำให้เพลิดเพลินกับรสชาติและเท็กซ์เจอร์ ทำให้รู้สึกฟินและคลายความเครียดลงได้

...

อย่างไรก็ตาม อาหารว่าง หรือขนมยอดฮิตส่วนใหญ่ มักมาพร้อมกับปริมาณแคลอรี น้ำตาล ไขมัน หรือโซเดียมที่สูง หากกินเป็นประจำ หรือกินปริมาณมากๆ อาจทำให้เกิดการสะสมพลังงานมากเกินไป ส่งผลต่อน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น หรือการเกิดโรคติดต่อไม่เรื้อรังได้ เช่น โรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เป็นต้น 

แต่จริงๆ แล้วอาหารไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้อ้วน แต่ขึ้นอยู่กับนิสัยและวิธีการกินของแต่ละคนด้วย ดังนั้นเราจึงมีเทคนิคจับคู่เพิ่มประโยชน์ให้การกินของว่างต่างๆ ดีต่อสุขภาพเรามากยิ่งขึ้น ที่สำคัญ… ยังคงอร่อยอยู่เหมือนเดิม

“ขนมดีต่อใจ” กินได้ แค่ปรับให้บาลานซ์

ปฏิเสธไม่ได้ว่า “ของอร่อย” สามารถช่วยฮีลใจได้ และผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ยืนยันว่า อาหารที่ดีมีผลต่อสภาพจิตใจเราจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นหากปรับหรือเปลี่ยนให้อาหารที่กินให้มีโภชนาการที่ดีขึ้น สารอาหารเหล่านั้นจะช่วยบำรุงจิตใจและสมองได้อีกด้วย มาดูวิธีรับมือกับความอยากกินของอร่อย พร้อมเคล็ดลับสุขภาพดี ที่เริ่มได้ด้วยการ ‘บวก แบ่ง แพลน’ ที่ปรับเพียงนิดหน่อย แต่ยังกินของอร่อยที่ชอบได้เหมือนเดิม

บวก - การกินให้ดีด้วยการเพิ่มประโยชน์ให้เมนูนั้นๆ โดยไม่ต้องบังคับตัดอะไรออกเสมอไป เช่น เมื่อกินของว่างที่เป็นลูกชิ้น ไส้กรอกทอด เฟรนช์ฟรายส์ ที่มีเนื้อสัตว์หรือแป้งมากกว่า 50% ให้ทานผักเคียงเสริมเข้าไปเพื่อให้ได้สารอาหารที่หลากหลาย หรือเมื่อกินขนมหวานอย่าง ไอศกรีม หรือเค้ก ที่มีน้ำตาลและไขมัน แล้วเสริมผลไม้กลุ่มวิตามินเอ ดี อี เค เช่น ส้ม มะม่วง กีวี ถือเป็นการเสริมทั้งใยอาหารเพื่อดูดซับน้ำตาลส่วนเกิน และร่างกายยังสามารถดูดซึมวิตามินเหล่านี้ที่ละลายในไขมันได้ดีขึ้นอีกด้วย เรียกว่าเป็นการจับคู่สารอาหารที่ช่วยเสริมประโยชน์ซึ่งกันและกัน 

แบ่ง - สายคาเฟ่ที่ชอบไปแฮงก์เอาต์กับเพื่อน แนะนำให้สั่งขนมหรือเครื่องดื่มมาแชร์กัน นอกจากจะช่วยกันแชร์แคลอรีและกินในปริมาณไม่มากเกินไปแล้ว ยังได้กินหลากหลาย และสนุกกับการกินร่วมกันอีกด้วย หรือใครที่มักซื้อขนมหรือเครื่องดื่มมาตุนไว้เป็นมื้อว่าง ก็ควรเลือกเป็นแพ็กเล็ก หรือแบ่งกินได้หลายๆ ครั้ง โดยสามารถดูคำแนะนำการแบ่งกินตามฉลากโภชนาการแบบจีดีเอ (GDA : Guideline Daily Amounts) หรือสังเกตสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพ เพื่อมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีปริมาณน้ำตาล ไขมัน โซเดียม ผ่านเกณฑ์โภชนาการที่เหมาะสม

แพลน - ในชีวิตประจำวัน เราไม่สามารถกินอาหารที่ถูกหลักโภชนาการได้ทุกมื้อ แต่เราสามารถเพิ่มความยืดหยุ่นให้ตัวเองได้ด้วยการวางแผนให้อาหารในหนึ่งวันมีความสมดุล แพลนอาหารมื้อหนักหรือเบาสลับกันไปได้ เช่น มื้อนี้อยากกินของหวานที่ชอบ กินเค้กสักชิ้นแล้ว มื้อต่อไปก็ควรลดปริมาณของหวานลง เน้นเสริมสารอาหารอื่นๆ เช่น โปรตีน หรือผักให้มากขึ้น  

แนะนำ 5 คู่หู เครื่องดื่ม-ขนมยอดฮิต จับคู่เพิ่มประโยชน์ให้มื้อว่าง ฮีลใจได้สมดุล

...

ขนมสุดโปรดของเราจะไม่เป็นอุปสรรคต่อสุขภาพอีกต่อไป เพราะนี่คือเทคนิคการจับคู่ให้ 5 ของว่างยอดฮิตที่จะช่วยให้เรายังคงแฮปปี้กับความอร่อย กินแล้วไม่อ้วน แถมยังช่วยบาลานซ์ประโยชน์เพื่อสุขภาพไปด้วย มาเตรียมขนมเหล่านี้ติดบ้าน หรือติดโต๊ะทำงานได้เลย!

1. ชานมไข่มุก จับคู่กับ แครกเกอร์ธัญพืช

ชานมไข่มุก เครื่องดื่มฮีลใจสุดฮิต อันดับแรกที่จะบาลานซ์เมนูนี้ให้ดีขึ้นคือ การสั่งไซส์เล็กและสั่งหวานน้อย เพื่อลดการดูดซึมน้ำตาล สามารถจับคู่กับอาหารที่มีใยอาหารสูง ตัวอย่างขนมกินแล้วไม่อ้วน เช่น แครกเกอร์ธัญพืช หรือเมล็ดธัญพืชเต็มเมล็ด เช่น เมล็ดฟักทอง งาดำ งาขาว หรือลูกเดือยอบแห้ง แค่นี้ก็ได้ฮีลใจด้วยชานมไข่มุกแก้วโปรด และเพิ่มประโยชน์ให้มื้อว่างได้ฟินๆ แล้ว 

2. เค้ก จับคู่กับ ชาร้อน

สำหรับสายคาเฟ่ที่ชอบสั่งเค้กคู่เครื่องดื่มแบบจัดเต็ม แนะนำการจับคู่แบบอร่อยและดีต่อสุขภาพ เพราะเค้กมีทั้งไขมันและน้ำตาล เมื่อจับคู่กับเครื่องดื่ม เช่น ชาร้อน ชาเขียว ชาเอิร์ลเกรย์ หรือชาที่ชอบโดยไม่มีการใส่น้ำตาลเพิ่ม นอกจากจะช่วยบาลานซ์ปริมาณได้แล้ว ชายังมีส่วนช่วยลดความดันเลือดและคอเลสเตอรอลอีกด้วย จับคู่เพิ่มประโยชน์พร้อมความอร่อย แถมได้บรรยากาศ afternoon tea แบบชาวอังกฤษอีก หรือหากอยากดื่มกาแฟ ก็สามารถเปลี่ยนจากชาเป็นอเมริกาโน่เย็นก็ได้เช่นกัน

...

3. ช็อกโกแลต จับคู่กับ อัลมอนด์

ขนมหวานอย่างช็อกโกแลตสักชิ้น ก็ช่วยเติมพลัง เติมความสุข แก้เครียดระหว่างวันได้ ถึงแม้ว่าช็อกโกแลตจะขึ้นชื่อว่าเป็นของหวานที่ให้พลังงาน แต่เราสามารถปรับให้สมดุล มีประโยชน์ขึ้นได้ ด้วยการเลือกชนิดที่เป็นดาร์กช็อกโกแลต (โกโก้ 70% ขึ้นไป) และจับคู่กับอัลมอนด์ (ไม่เกิน 1-2 หยิบมือ) กินเป็นของว่างในปริมาณที่เหมาะสม ทำให้รู้สึกดีและคลายเครียดได้ เพราะในช็อกโกแลตมีสารฟลาโวนอยด์ มีส่วนช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ส่งผลให้ออกซิเจนและเลือดลำเลียงไปสู่สมองได้ดีอีกด้วย

4. ไอศกรีม จับคู่กับ ผลไม้หวานน้อย

ไอศกรีมไร้ไขมันก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งขนมที่กินแล้วไม่อ้วน หากเรารู้จักกินในปริมาณที่เหมาะสม และเมื่อได้จับคู่ไอศกรีมรสโปรดกับผลไม้หวานน้อยต่างๆ เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ส้ม หรือสับปะรด ก็ได้ทั้งความหวาน ความอร่อยและสดชื่น อีกทั้งช่วยเพิ่มใยอาหาร ช่วยลดการดูดซึมไขมันและน้ำตาลได้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามอย่าลืมสังเกตซองหรือฉลาก โดยเลือกไอศกรีมที่ให้พลังงานไม่เกิน 250 แคลอรีต่อแท่ง หรือต่อการบริโภค 1 ครั้ง หรือเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพด้วยก็จะดีที่สุด 

5. ลูกชิ้นทอด จับคู่กับ น้ำมะพร้าว

เวลาซื้อลูกชิ้นทอด ของทอด มักมีการแถมผักเคียง เช่น แตงกวา กะหล่ำปลี ผักชี หรือผักกาดหอม ซึ่งควรกินคู่กันเพื่อให้ใยอาหารช่วยลดการดูดซึมไขมันจากของทอด หรืออาจเสริมการจับคู่ลูกชิ้นทอด หรือของที่มีรสเค็ม ซึ่งมีโซเดียมสูงกับน้ำมะพร้าว เพราะเป็นแหล่งของโพแทสเซียมที่ดี โดยเมื่อกินคู่กับอาหารที่มีโซเดียมสูง โพแทสเซียมในน้ำมะพร้าวก็จะช่วยลดการดูดซึมโซเดียมและช่วยขับโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกายได้นั่นเอง

...

จะเห็นได้ว่าของว่างทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว และสามารถนำมาจับคู่กับขนมหรือเครื่องดื่มยอดฮิต ให้กลายมาเป็นมื้อว่างขนมกินแล้วไม่อ้วนได้ พร้อมได้ทั้งความอร่อย และคุณประโยชน์ที่เสริมกันมากขึ้นด้วย 

ดังนั้นการกินขนมและของอร่อยเพื่อแก้หิว หรือฮีลใจ สามารถปรับเปลี่ยนด้วยเคล็ดลับการจับคู่เพียงเล็กน้อย ก็จะส่งผลดีต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น เพราะของกินอร่อยไม่จำเป็นว่ากินแล้วต้องอ้วน หรือส่งผลเสียต่อสุขภาพเสมอไป หากเลือกกินในปริมาณที่เหมาะสม หรือเพียงแค่รู้จักกินอย่างมีประโยชน์ ก็จะสามารถช่วยบาลานซ์ระหว่างความอร่อยและสุขภาพได้แล้ว.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม