เมื่อโลกหมุนไปข้างหน้า สิ่งที่ตามมาพร้อมกันก็คือความเปลี่ยนแปลงในหลากหลายมิติ โดยหนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจนที่สุดก็คือองค์กร ห้างร้านและผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ ที่ต่างต้องรับมือกระแสแห่งวันเวลาและเทรนด์ใหม่ๆ อยู่เสมอ จนกลายเป็นเรื่องยากที่จะยืนหยัดอยู่ได้อย่างยาวนานและมั่นคง

เหตุนี้การครบรอบ 111 ปีของ “เอสซีจี” จึงนับเป็นตัวเลขที่ไม่ธรรมดา สิ่งนี้สะท้อนชัดถึงความแข็งแกร่งที่มากกว่าแค่ในแง่มุมธุรกิจ แต่ยังรวมถึงความสามารถในการเผชิญหน้าความเปลี่ยนแปลง พร้อมรับมือและยกระดับแนวทางการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับยุคสมัยที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

และล่าสุดในปี 2567 นี้ เป็นอีกครั้งที่เอสซีจีได้มีการปรับเปลี่ยนนโยบายเพื่อโน้มรับความเปลี่ยนแปลงของโลก นั่นคือการ “ปรับสวัสดิการวันลาเพื่อให้ตอบโจทย์คนทุกกลุ่ม” ซึ่งนับเป็นองค์กรชั้นนำลำดับต้นๆ ของไทยที่ได้มีการประกาศสนับสนุนสังคมแห่งความหลากหลายอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม

โอบรับทุกความต่าง เปิดโอกาสให้ทุกความเชื่อ

ในช่วงหลายขวบปีหลังมานี้ หนึ่งในแนวทางสร้างการเติบโตทางธุรกิจที่เอสซีจีนำเสนออย่างเด่นชัดเสมอมาคือการมุ่งมั่นเป็น “องค์กรแห่งโอกาส” (Organization of Possibilities) ผ่านการสนับสนุนคนมีไฟ ให้ก้าวออกมาทำอย่างที่ใจฝัน ซึ่งสิ่งนี้ก่อให้เกิดเป็นนวัตกรรมจำนวนมากที่มาจากไอเดียคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง

และล่าสุดการเป็นองค์กรแห่งโอกาสตามแบบฉบับเอสซีจีก็ไม่ได้หยุดแค่การเปิดพื้นที่ในการคิดค้นสร้างสรรค์ แต่ยังครอบคลุมไปถึงสิ่งที่อยู่นอกเหนือโต๊ะทำงาน ผ่านการปรับปรุงสวัสดิการวันลาเพื่อให้ตอบโจทย์ยุคสมัยแห่งความหลากหลาย โดย นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ได้เผยที่มาของการปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญนี้ให้เราฟังว่า

“ที่เอสซีจี เราเชื่อมั่นในศักยภาพของพนักงานว่าถ้าเขาเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ทำงานอย่างมีแพสชัน จะสามารถปลดปล่อยพลัง และดึงศักยภาพที่มีอย่างไร้ขีดจำกัด ซึ่งพลังดังกล่าวสามารถจะนำไปสู่การต่อยอดพัฒนาสร้างสรรค์สิ่งใหม่จนเกิดเป็นนวัตกรรม สินค้า บริการ โซลูชัน และธุรกิจใหม่เพื่อตอบความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายได้อย่างทันท่วงที”

คำกล่าวของหัวเรือใหญ่เอสซีจีนับได้ว่าทรงพลังและสะท้อนภาพอย่างชัดเจนว่าที่เอสซีจีแห่งนี้มีพื้นที่ให้สำหรับทุกคน ทุกไลฟ์สไตล์ และทุกความเชื่ออย่างแท้จริง สมดังแนวคิด “Reach Your Possibilities, Embrace Diversity” ขององค์กรที่มุ่งหวัง ส่งเสริมและสนับสนุนความหลากหลาย (Diversity) ความเท่าเทียม (Equity) และการยอมรับความแตกต่างของบุคคล (Inclusion)

สวัสดิการที่เข้าใจสังคมแห่งความหลากหลาย

เมื่อสอบถามถึงรายละเอียดของวันลาที่ออกแบบใหม่ นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม ได้เล่าให้เราฟังเพิ่มเติมว่า บริษัทได้ปรับปรุงรูปแบบวันลาโดยยึดถือพนักงานเป็นหัวใจสำคัญ มุ่งส่งมอบสวัสดิการที่ตอบโจทย์สังคมแห่งความหลากหลาย และครอบคลุมความต้องการที่แท้จริงของทุกๆ คน สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของทุกเพศทุกวัย โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้

ลาเพื่อปฏิบัติศาสนกิจ

ปรับเปลี่ยนให้ครอบคลุมศาสนาต่างๆ มากขึ้น โดยนอกเหนือจากวันลาสำหรับลาอุปสมบทที่มีอยู่แล้ว พนักงานยังสามารถลาเพื่อประกอบพิธีฮัจญ์ บวชชี หรือลาปฏิบัติธรรม ได้เช่นกัน

ลาเพื่อผ่าตัดแปลงเพศ

สามารถลาได้ตามระยะเวลาที่แพทย์กำหนด สูงสุดถึง 30 วัน

ลากิจเพื่อดูแลการเจ็บป่วย งานฌาปนกิจ และจัดการงานศพ

มีการปรับปรุงให้สิทธิครอบคลุมไปถึงคู่ชีวิตของพนักงาน โดยไม่จำกัดเพศ และรวมถึงบุคคลใกล้ชิดของพนักงาน ตามที่บริษัทเห็นสมควรอีกด้วย

จากความเชื่อของเอสซีจีที่แปรเปลี่ยนมาสู่นโยบายที่เป็นรูปธรรมนี้ ตอกย้ำอย่างชัดเจนถึงวิสัยทัศน์ที่มองไปข้างหน้าซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทก้าวข้ามปีที่ 111 อย่างมั่นคงและยั่งยืน ซึ่งหากเราลองถอดรหัสความสำเร็จออกมาอาจกล่าวได้ว่าความแข็งแกร่งของเอสซีจีนั้นเกิดจากความ “เชื่อมั่นในพลังของทรัพยากรบุคคล” จึงมีการออกแบบนโยบายใหม่ๆ ที่ช่วยสนับสนุนให้พนักงานสามารถแสดงศักยภาพได้เต็มที่มาโดยตลอด ไม่ว่าจะการหยิบยื่นโอกาส สนับสนุนการแสดงออกที่สร้างสรรค์ ไปจนถึงแนวทางล่าสุดอย่างการปรับสวัสดิการเพื่อให้ครอบคลุมวิถีชีวิตที่แตกต่างและหลากหลาย เรื่องราวนี้จึงนับเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ในแง่มุมของการยกระดับองค์กรเพื่อให้สอดคล้องไปกับโลกยุคใหม่ที่ความเป็นไปได้ไร้ขีดจำกัดเกิดจากการรวมพลังของเหล่าผู้คนที่หลากหลายและภูมิใจในความเป็นตัวเอง