Pride Month หรือเดือนแห่งการเฉลิมฉลองของเพศทางเลือกได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1-30 มิถุนายนของทุกปี แน่นอนว่าทั้งภาครัฐ เอกชน รวมไปถึงหน่วยงานอื่นๆ ก็ได้ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลสำคัญเหล่านี้ อย่างที่จะได้เห็นกันอยู่บ่อยผ่านการร่วมกันเปลี่ยนโปรไฟล์บัญชีโซเชียลมีเดียเป็นสีรุ้ง การเดินขบวนพาเหรดด้วยเสื้อผ้าสีสันสดใส การโพสต์ข้อความแสดงจุดยืน รวมไปถึงการจัดงานเพื่อสนับสนุนทุกความหลากหลายทางเพศผ่านแคมเปญการตลาด

เช่นเดียวกับในวงการเกมที่จะมีการจัดกิจกรรมที่แสดงถึงจุดยืนร่วมด้วย เช่น การแจกไอเทม การจัดกิจกรรมในเกม ในขณะเดียวกันบางเกมก็นำเสนอตัวละครที่เป็นตัวแทนของความหลากหลายทางเพศ ซึ่งก็สร้างความน่าสนใจและส่งอิทธิพลต่อเยาวชนและสังคมไทยได้ไม่น้อย ในบทความนี้ ไทยรัฐออนไลน์ชวนทุกคนสัมผัสเรื่องราวความรักเกี่ยวกับ LGBTQ+ ผ่านเกมน่าเล่นในเดือนแห่งการเฉลิมฉลอง Pride Month

รู้จักที่มาของ Pride Month เดือนแห่งการเฉลิมฉลอง

แม้ว่าในช่วงเดือนแห่งการเฉลิมฉลองจะเต็มไปด้วยความสดใสของสีรุ้ง แต่ประวัติศาสตร์และที่มาของเดือนนี้เริ่มจากการใช้ความรุนแรงและการปฏิเสธกลุ่มคนที่รักเพศเดียวกัน รวมไปถึงกลุ่มคนการแต่งกายที่ผิดแปลกไปจากเพศกำเนิด ซึ่ง ณ ช่วงเวลานั้นเป็นเรื่องที่สังคมยังไม่ยอมรับ กระทั่งเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 1969 ตำรวจก็ได้บุกจับกุมผู้ใช้งานในบาร์เกย์ จนเกิดเหตุการณ์จลาจลสโตนวอลล์ (Stonewall Riots) บนหน้าประวัติศาสตร์โลก

เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้กลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ได้ออกมาเรียกร้องสิทธิของตนเอง และแม้ว่าจะถูกปราบปรามอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นชนวนสำคัญที่ทำให้ทุกคนรวมตัวกันออกมาเดินขบวนในปี ค.ศ. 1970 เพื่อเคลื่อนไหว เรียกร้องสิทธิของตนเอง รำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญ และเพื่อสื่อถึงไพรด์ หรือความภาคภูมิใจ

...

ในช่วงแรกการเดินขบวนเริ่มจากเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์ก ลอสแอนเจลิส ซานฟรานซิสโก และชิคาโก แต่ต่อมาก็ได้แพร่ขยายไปยังรัฐอื่นๆ และกินเวลาจาก 1 สัปดาห์ สู่การเรียกร้องสิทธิตลอดเดือนมิถุนายนของทุกๆ ปี

วงการเกมกับความหลากหลายทางเพศ

นอกจากการเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศในวงกาารต่างๆ แล้ว ในวงการเกมก็ได้มีการสนับสนุนเรื่องนี้กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมเล็กๆ อย่างการแจกไอเทมฟรี ร่วมสนับสนุนในเดือน Pride Month ตลอดจนการจัดงาน Gayming Awards งานประกาศรางวัลเกมที่สนับสนุนความหลากหลายทางเพศ เช่น รางวัลตัวละคร LGBTQ, รางวัลสตรีมเมอร์ LGBTQ ยอดเยี่ยม หรือแพลตฟอร์ม Steam ที่ก็มีการเพิ่มหมวดหมู่สำหรับเกม LGBTQ+ โดยเฉพาะ

อย่างไรก็ดี นอกจากการเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศแล้ว ในขณะเดียวกันเหล่าผู้สร้างสรรค์และพัฒนาเกมหลายๆ ทีมตระหนักถึงความสำคัญและเล็งเห็นถึงความเท่าเทียมไม่ว่าจะเพศใด จึงได้มีการถ่ายทอดเรื่องราวความรักหรือความหลากหลายทางเพศผ่านตัวละครในเกมด้วยเช่นกัน แน่นอนว่ามุมมองหรือเรื่องราวที่ในแต่ละเกมก็มีความน่าสนใจต่างกันออกไป รอให้ผู้เล่นได้มาสัมผัสด้วยตนเอง

แนะนำ 10 เกมน่าเล่น สัมผัสเรื่องราว LGBTQ+ ผ่านตัวละครในเดือนแห่งการเฉลิมฉลอง Pride Month 

1. The Sims

The Sims เป็นเกมจำลองชีวิตเสมือนจริง (Life-Simulator) ที่วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2000 ปัจจุบันมีถึง 4 ภาคให้ได้เลือกเล่นกัน จุดเด่นของเกมนี้ ความอิสระที่ผู้เล่นสามารถเลือกสร้างตัวละคร เสื้อผ้า หน้า ผม หรือแม้แต่ลักษณะนิสัยได้ตามชอบ อีกทั้งยังสามารถกำหนดแนวทางการเรียนและอาชีพของตนเองได้ กลายเป็นเกมที่เป็นมิตรต่อเด็ก ครอบครัว และผู้เล่นหลายกลุ่ม

หากจะพูดถึงเกมที่สนับสนุนความหลากหลายทางเพศมาเป็นระยะเวลานาน The Sims ก็คงเป็นหนึ่งเกมที่ติดโผอยู่ในรายชื่อ เพราะตัวเกมไม่มีข้อจำกัดเรื่องการแต่งกายที่จะต้องอยู่ภายใต้เพศสภาพ โดยเฉพาะใน The Sims 4 ภาคล่าสุด ตัวเกมก็ยังคงยึดมั่นในจุดยืน เปิดกว้างเรื่องความหลากหลายทางเพศมากขึ้น ผู้เล่นสามารถสร้างตัวละครได้อย่างหลากหลาย และสามารถพัฒนาความสัมพันธ์ได้ตามชอบ เพราะไม่ว่าจะตัวละครเพศใดก็สามารถมีความสุขและมีความรักที่ดีได้ 

ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงปี 2022 ทางผู้พัฒนาก็ได้ออกมาแนะนำฟีเจอร์ “Customizable Pronouns” ที่สามารถปรับแต่งสรรพนามระหว่าง He/Him, She/Her และ They/Them หรือจะตั้งสรรพนามขึ้นเองก็ได้ ผู้เล่นสามารถเลือกรสนิยมทางเพศ อีกทั้งยังเลือก “มีลูกด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์” สำหรับให้ตัวละครเพศเดียวกันได้สร้างครอบครัวที่อบอุ่น หรือแม้แต่ในภาคเสริม The Sims 4: Cats and Dogs ตัวเกมก็ได้เพิ่มตัวละคร NPC (Non-player Character) คู่รัก LGBTQ+ อย่าง Brent และ Brant ในละแวกบ้านอีกด้วย กลายเป็นอีกหนึ่งกิมมิกเล็กๆ น้อยๆ ที่แสดงออกให้เห็นการใส่ใจในความหลากหลายทางเพศด้วยเช่นกัน

แพลตฟอร์ม : PC, PS2, PS3, PS4, Xbox, Xbox 360 และ Xbox One 

...

2. Final Fantasy XVI 

“Final Fantasy” เป็นอีกหนึ่งเกมในตำนาน ระดับมหากาพย์ที่เชื่อว่าคอเกม หรือหลายๆ คนจะต้องคุ้นชื่อกันบ้าง เพราะเกมนี้วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1987 จนถึงปัจจุบันเข้าสู่ภาค 16 หรือ Final Fantasy XVI ที่ภาคนี้มาพร้อมกับเรื่องราวของดินแดนสาลิสเธียที่เต็มไปด้วยสงคราม ทั้งนี้ก็เพื่อแย่งชิงพลังของคริสตัล มารดา ผู้เล่นจะได้สวมบทบาทเป็น ไคลฟ์ รอสฟีลด์ ร่างสถิตของอิฟรีท

แน่นอนว่า ส่วนใหญ่ตัวละครที่โดดเด่นและถูกจับตามองก็มักจะเป็นตัวละครเอกที่มาพร้อมกับความสามารถ รูปร่าง หรือหน้าตาที่สมบูรณ์แบบ แต่สำหรับ Final Fantasy XVI อีกหนึ่งตัวละครที่เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย ได้แก่ “Dion Lesage” หรือ ดิออน เลอเซจ เจ้าชายของจักรวรรดิศักดิ์ ซันเบรก ซึ่งเป็นตัวละครตัวแทนของความหลากหลายทางเพศ

การนำเสนอเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศผ่านตัวละครของเกม AAA ระดับตำนานสร้างเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย อีกทั้งตัวละครยังรับบทบาทสำคัญอย่างเจ้าชายของจักรวรรดิ แม้เรื่องราวหรือความสัมพันธ์ของเจ้าชายกับมือขวาคนสำคัญอย่าง “Terence” จะไม่ได้หวือหวามากนัก แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงความเสียสละของตัวละครดังกล่าว ที่พร้อมจะทิ้งความปรารถนาส่วนตัว และมองเห็นถึงปัญหาสงคราม อำนาจ หรือแม้แต่เกียรติยศของทั้งสองไว้แทน

อย่างไรก็ตาม ในบางประเทศที่ยังไม่ยอมรับกลุ่มคนหรือความหลากหลายทางเพศก็ได้ออกมาประกาศแบนเกมดังกล่าวในทันที เนื่องด้วยประเด็นของเนื้อหาที่สื่อไปในทาง LGBTQ+, คราบเลือด, ความรุนแรง และอื่นๆ ซึ่งในท้ายที่สุดแฟนเกมบางคนที่อยู่ในภูมิภาคนั้นๆ ก็ยังคงยืนหยัดในจุดยืน และเลือกที่จะเล่น Final Fantasy XVI เช่นเดิม

...

แพลตฟอร์ม : PS5

3. The Witcher 3: Wild Hunt 

เริ่มแรก The Witcher เป็นเพียงนิยายว่าด้วยเรื่องราวของเอลฟ์ทำสงครามกับคนแคระ เพื่อสร้างถิ่นฐาน จนกระทั่งมนุษย์เข้ามาร่วมสงครามด้วย และเป็นฝ่ายชนะ ต่อมาทางทีมพัฒนาเกม CD Projekt Red ได้นำเรื่องราวไปสร้างต่อ เกิดเป็นเกมน่าเล่นที่ปล่อยภาคแรกครั้งแรกปี ค.ศ. 2009 และได้มีการต่อยอดสร้างภาคอื่นๆ ตามมา และสร้างเป็นซีรีส์ชื่อดังจาก Netflix อีกด้วย

หนึ่งในภาคที่ได้รับความนิยมคือ The Witcher 3: Wild Hunt โดยเมื่อปี ค.ศ. 2023 ทางทีมพัฒนาเกม CD Projekt Red ได้ออกมาระบุว่า ในภาคนี้วางจำหน่ายเมื่อปี 2015 และกวาดยอดขายได้มากกว่า 50 ล้านชุด เรียกเสียงฮือฮาในวงการเกมได้ไม่น้อย

นอกจากเนื้อเรื่อง กราฟิก หรือระบบเกมเพลย์แล้ว การนำเสนอตัวละครที่มีความหลากหลายทางเพศก็มีส่วนในการสร้างความน่าสนใจและกระตุ้นยอดขายได้ ยกตัวอย่างเช่น ตัวละคร Ciri ที่แม้ไม่ได้มีการระบุถึงความชอบหรือความสัมพันธ์ของเธอไว้อย่างชัดเจน แต่แฟนๆ เกมหลายคนก็ต่างพากันเดาได้ไม่ยาก เพราะในนิยายต้นฉบับมีการระบุไว้ชัดเจนว่าเธอคบหาดูใจกับแฟนสาวอยู่ 

...

แพลตฟอร์ม : PC, PS4, PS5, Xbox One, Xbox Series X|S และ Switch

4. The Last of Us

อีกหนึ่งซีรีส์เกมดัง “The Last of Us” พัฒนาตั้งแต่ปี 2009 ว่าด้วยเรื่องราวของ “โจเอล” ผู้สูญเสียลูกสาวอันเป็นที่รัก และ “เอลลี่” เด็กหญิงที่กำพร้าพ่อแม่ ด้วยความสิ้นหวังภายใต้โลกที่แหลกสลายและเต็มไปด้วยผู้ที่ติดเชื้อ ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นคู่หูกันและกันโดยปริยาย และด้วยความน่ารักที่ซ่อนความซุกซนของเอลลี่ ทำให้หลายๆ คนชื่นชอบและจับตาดูตัวละครตั้งแต่เด็กจนโตเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ดี ในภาคหลักของเกมนั้นถ่ายทอดเรื่องราวของทั้งคู่ได้ไว้อย่างน่าสนใจในเรื่องความสัมพันธ์ที่อบอุ่น นอกจากนี้ใน DLC ส่วนเสริม "The Last of Us: Left Behind” ที่มีการเปิดเผยว่าตัวละครเอลลี่นั้นเป็นตัวแทนของความหลากหลายทางเพศ

เธอมีใจให้กับเพื่อนสาวคนสนิทที่รู้จักกัน โดยในระยะเวลาต่อมาความรู้สึกระหว่างเธอทั้งคู่เริ่มก่อตัวขึ้นกลายเป็นความรัก และแม้จะดูเป็นเรื่องความรักของวัยใส แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้าใจและก้าวข้ามความรู้สึกของตนเองได้ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคู่ที่แฟนๆ ลุ้น และยินดีกับฉากรักหวานชื่นไปตามๆ กัน เพิ่มสีสันให้กับตัวเกมได้เป็นอย่างดี

แพลตฟอร์ม : PC, PS3, PS4 และ PS5 

5. Life is Strange : Before the Storm

Life is Strange เกมประเภทตอบคำถาม โดยคำตอบเหล่านั้นจะส่งผลต่อการกระทำ เรื่องราวภายในอนาคต และรวมถึงตอนจบของเกม เช่นเดียวกับ Butterfly Effect หรือทฤษฎีปีกผีเสื้อขยับผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Chole สาวมาดเท่ที่สูญเสียคุณพ่ออันเป็นที่รัก และกำลังตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก จนกระทั่งบังเอิญได้รู้จักกับ Rachel Amber ตัวละครสาวสวยคนดังประจำโรงเรียนด้วยความบังเอิญ และกลายเป็นคนสนิทที่เข้าใจซึ่งกันและกันอย่างดี

แม้การนำเสนอความหลากหลายทางเพศผ่านตัวละครทั้งสองจะดูเป็นเรื่องราวที่เดาได้ไม่ยาก แต่ด้วยปัญหาทางภายในโรงเรียน เพื่อน หรือครอบครัว ตลอดจนความรู้สึกของตัวละคร เพราะหนึ่งในฉากของเกม ผู้เล่นสามารถเลือกตอบคำถามได้ว่า จะยอมรับหรือปฏิเสธว่าทั้งคู่เป็นแฟนกันหรือไม่ และถึงแม้ว่าจะกดยอมรับ แต่ก็เป็นการยอมรับในทางอ้อม แสดงถึงความสัมพันธ์ที่อาจจะยังไม่ชัดเจนมากนัก เฉกเช่นเดียวกับชีวิตจริงของใครหลายๆ คน

ทั้งนี้ เนื่องด้วยตัวเกมเป็นเกมตอบคำถาม เพื่อเลือกผลของการกระทำ ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนจะเป็นแค่เพื่อน มากกว่าเพื่อน หรือมีเรื่องราวอะไรซ่อนอยู่บ้าง ผู้เล่นเป็นคนตัดสินใจได้เอง กลายเป็นเกม LGBTQ+ ที่น่าสนใจอีกเกมหนึ่ง

แพลตฟอร์ม : PC, PS3, PS4, Xbox 360 และ Xbox One 

6. Dragon Age: Inquisition

เกม Dragon Age: Inquisition คือ เกมประเภทสวมบทบาทในโลกแฟนตาซีแบบโอเพ่น เวิลด์ ที่จะต้องร่วมต่อสู้และกอบกู้โลก วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2014 ซึ่งในปีเดียวกันนั้นเกมนี้ก็ได้คว้ารางวัล เดอะเกมอวอร์ดส์ สาขาเกมแห่งปี เดอะเกมอวอร์ดส์ สาขาเกมสวมบทบาทยอดเยี่ยม และได้รับรางวัล แกลด มีเดีย อวอร์ด สาขารางวัลพิเศษ ในปี 2015 การันตีความสนุกจากค่าย BioWare การันตีถึงความสำเร็จของตัวเกมอีกด้วย

แม้เรื่องราวจะเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ หรือการกอบกู้โลก แต่ก็สอดแทรกเรื่องราวที่น่าสนใจผ่านตัวละคร Cremisius Aclassi เด็กหญิงที่เติบโตมาในครอบครัวช่างเสื้อ และรู้ว่าตนเองนั้นต่างจากเด็กผู้หญิงทั่วไป ซึ่งเมื่อโตขึ้น Cremisius Aclassi ก็ตัดสินใจเลือกปิดบังเพศของตนเอง และเลือกทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ ก่อนจะพบรักกับ Dorian Pavus

อย่างไรก็ดี การนำเสนอเรื่องราวของความหลากหลายทางเพศจึงนับว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแปลกใหม่ เพราะตัวละคร Cremisius Aclassi เป็น Trans Man หรือแปลงเป็นเพศตรงข้ามกับเพศกำเนิดของตนเอง ก่อนจะตกหลุมรักอีกฝ่ายด้วยความเข้าอกเข้าใจกันและกัน แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้พบเห็นได้ไม่บ่อยมากนัก เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความพิเศษที่สร้างความแปลกใหม่ได้ไม่มากก็น้อย

แพลตฟอร์ม : PC, PS4, Xbox One และ Xbox Series X|S

ขอบคุณภาพจาก gaymingmag
ขอบคุณภาพจาก gaymingmag

7. Dream Daddy

Dream Daddy เกม Dating Simulator เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ลองรับบทบาทเป็นพ่อม่ายสุดหล่อที่ต้องตามจีบหนุ่มๆ ในละแวกบ้านของตนเองทั้งหมด 7 คน เริ่มแรกเกมจะให้ผู้เล่นได้เลือกสร้างตัวละครตามชอบ จากนั้นก็จะเริ่มเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวของตนเอง โดยตัวเกมจะเป็นแบบการเลือกตอบ เพื่อเลือกผลของการกระทำ นอกจากนี้ภายในตัวเกมจะมีมินิเกมอื่นๆ สอดแทรกอยู่ด้วย 

จุดเด่นของเกมนี้ นอกจากจะสนับสนุนความหลากหลายทางเพศแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว ความเอาใจใส่เล็กๆ น้อยๆ โดยเฉพาะการสนับสนุนในสิ่งที่คนในครอบครัวเป็น เนื่องจากภายในเกม ไม่ว่าคุณพ่อจะชื่นชอบหรือออกเดตกับใคร ลูกสาววัย 18 ปีก็จะคอยสนับสนุนคุณพ่ออยู่ห่างๆ ซึ่งให้ข้อคิดและสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์และความเปิดกว้างได้เป็นอย่างดี 

แพลตฟอร์ม : PC, PS4, iOS และ Android

8. Stardew Valley

Stardew Valley เป็นเกมจำลองการใช้ชีวิต ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ และทำฟาร์ม โดยผู้เล่นจะได้รับบทเป็นชาวไร่คนใหม่ เนื่องจากได้รับมรดกเป็นฟาร์มของคุณปู่ ทำให้ต้องย้ายกลับจากเมืองหลวงมายังเมือง Pelican แห่งนี้ เพื่อเริ่มทำฟาร์ม สร้างสัมพันธ์ที่ดีกับคนในเมือง รวมถึงตามหาคนรู้ใจเพื่อสร้างครอบครัวที่อบอุ่น

ตัวเกมเปิดให้ผู้เล่นเลือกสร้างตัวละครเป็นเพศหญิงหรือชายก็ได้ ในขณะเดียวกันเมื่อเข้าสู่เกมก็ไม่ได้มีการกำหนดว่าจะต้องจีบหรือสร้างสัมพันธ์กับตัวละครเพศตรงข้ามเท่านั้น โดยภายในเกมมีตัวละครที่มีสถานะโสด ทั้งหมด 12 คน แบ่งเป็นชาย 6 คน และหญิง 6 คน

ผู้เล่นจะต้องสร้างสัมพันธ์ที่ดีโดยการมอบของขวัญและสร้างความประทับใจเรื่อยๆ จนครบกำหนด ก่อนที่จะแต่งงานและสร้างครอบครัวของตนเอง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่ให้อิสระในด้านการสร้างสัมพันธ์และความหลากหลายทางเพศ

9. Baldur’s Gate 3 

Baldur’s Gate 3 ภาคใหม่ล่าสุดจากซีรีส์เกมของ Baldur’s Gate ที่วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1998 ด้วยระบบเกมเพลย์และตัวละครที่น่าสนใจ ทำให้ Baldur’s Gate 3 กลายเป็นเกมที่มียอดผู้เล่นกว่า 9 แสนคนบนแพลตฟอร์ม Steam 

หนึ่งในจุดเด่นที่น่าสนใจของเกมนี้คงหนีไม่พ้นกับการสร้างตัวละครหลักของตนเอง โดยผู้เล่นสามารถเลือกคลาสหลักได้ถึง 12 คลาส 46 คลาสย่อย 11 เผ่าพันธุ์ และอีก 31 เผ่าพันธุ์ย่อย ผู้เล่นสามารถสร้างตัวละครได้อย่างอิสระ สามารถเลือกเพศทางเลือกได้ เลือกใช้คำสรรพนามแบบไม่ระบุเจาะจงถึงเพศสภาพก็ได้เช่นกัน

ด้วยเหตุผลนี้เองจึงทำให้ Baldur’s Gate 3 เป็นหนึ่งในเกมที่เปิดกว้าง สนับสนุนถึงความหลากหลายทางเพศหรือความชอบ ส่งผลให้เกมนี้มีฉากจบกว่า 17,000 แบบ และเป็นเกมที่ครองใจใครหลายๆ คนไปโดยปริยาย

แพลตฟอร์ม : PC, PS5 และ Xbox Series X|S

10. Coral Island

ปิดท้ายด้วยเกมอินดี้จากค่าย Humble Games ที่จะให้ผู้เล่นได้ปลูกผัก ทำสวน ตกปลา ลงเหมือง ตามหาทรัพยากรเพื่อพัฒนาฟาร์มของตนเอง เปลี่ยนเกาะ Coral Island ให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น และสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับชาวเมือง รวมถึงตามหาคนรู้ใจ เพื่อสร้างครอบครัวสุดอบอุ่นบนเกาะแห่งนี้

แน่นอนว่าในส่วนของการสร้างความสัมพันธ์กับคนในเมืองนั้นค่อนข้างอิสระ ตัวละครหลักสามารถเลือกสร้างความสัมพันธ์กับตัวละครใดก็ได้โดยไร้ข้อจำกัดทางเพศ อาชีพ หรือความชอบ อีกทั้งรูปแบบการนำเสนอความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครก็จะแตกต่างกันออกไปตามการตัดสินใจของผู้เล่น

ด้วยความอิสระ ความเพลิดเพลิน และการถ่ายทอดเรื่องราวความรักโดยไร้ข้อจำกัดทางเพศ ทำให้เกมนี้กลายเป็นหนึ่งเกมที่ได้รับรางวัล Best LGBTQ Indie Game เกมอินดี้ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของ LGBTQ+ จากงาน Gayming Awards 2024 อีกด้วย

แพลตฟอร์ม : PC, PS5 และ Xbox Series X|S

10 เกมน่าเล่นที่ทางไทยรัฐออนไลน์คัดเลือกมาในข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ในปัจจุบันทางทีมหรือค่ายเกมอีกหลายๆ แห่งที่สร้างและพัฒนาเกมอย่างเปิดกว้าง แสดงจุดยืนในการสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ สอดแทรก รวมถึงถ่ายทอดเรื่องราวของความสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในวงการเกม และสร้างความตระหนักถึงความเท่าเทียมทางเพศได้ไม่มากก็น้อย

เรื่อง : สตรีรัตน์ ฤกษ์บางพลัด

อ้างอิงข้อมูล : หอสมุดรัฐสภาอเมริกัน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง