หากพูดถึงหนึ่งในเทศกาลดนตรีประจำปีสุดยิ่งใหญ่ของเอเชีย เชื่อว่าต้องมีชื่อของ "Summer Sonic" ติดลิสต์อันดับต้นๆ แน่นอน เฟสติวัลนี้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนได้ราวปีละ 350,000 คน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวมูลค่ามหาศาลให้ประเทศญี่ปุ่น โดยเริ่มจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2000 ปัจจุบันจัดเป็นงาน 2 วัน ทั้งที่เมืองชิบะและโอซากา ซึ่งมีระบบขนส่งสาธารณะที่เชื่อมต่อรองรับการเดินทางระหว่างนักท่องเที่ยวทั้งสองพิกัด
"นาโอกิ ชิมิสึ" (Naoki Shimizu) คือชายผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Summer Sonic ในฐานะผู้ก่อตั้งเฟสติวัลนี้ เขายังเป็นซีอีโอแห่งบริษัท Creativeman Production ผู้หลงใหลและคลั่งไคล้ในดนตรี จนเดินทางไปชมเทศกาลดนตรีต่างๆ มาแล้วทั่วโลก เขาฝันอยากให้ Summer Sonic เป็นพื้นที่รองรับความสนใจดนตรีตะวันตกที่มีเพิ่มขึ้นในญี่ปุ่น รวมถึงเปิดโอกาสให้ศิลปินหน้าใหม่ได้มาพิสูจน์ความสามารถอีกด้วย
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน Summer Sonic คว้าตัวศิลปินชื่อดังระดับโลกให้มายืนอยู่บนเวทีแห่งนี้แล้วมากมาย เช่น Green Day, Marilyn Manson, Slipknot, Guns N' Roses, Blur, Oasis, Radiohead, Daft Punk, Metallica, Linkin Park, Beyoncé, Rihanna, Avril Lavigne, Red Hot Chili Peppers, Coldplay เป็นต้น รวมไปถึงการขยายแนวดนตรีให้ครอบคลุม EDM, ฮิปฮอป และวงดนตรีไอดอล
ความพิเศษที่สร้างเซอร์ไพรส์ให้คอดนตรีในปีนี้ก็คือ จะเป็นอีกครั้งที่เทศกาลดนตรี Summer Sonic ได้ประกาศจัดงานนอกประเทศญี่ปุ่น เลือกปักหมุดที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย ภายใต้ชื่อ "Summer Sonic Bangkok 2024" โดยมีผู้จัดไทยอย่าง BANGKOK CONNECT โดยคุณภัทรทิพย์ ศรีประเสริฐ กรรมการบริษัท เป็นโปรโมเตอร์การจัดงานครั้งนี้
...
นับเป็นการประสานความร่วมมืออันดีระหว่างรัฐบาลญี่ปุ่นและรัฐบาลไทย โดยนายกรัฐมนตรีไทย คุณเศรษฐา ทวีสิน ประกาศชูนโยบาย Soft Power เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนการท่องเที่ยว อีกทั้งเปิดโอกาสให้ศิลปินไทยได้ร่วมขึ้นเวทีแสดง มีเป้าหมายเพื่อพิสูจน์ศักยภาพ และผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นเมืองหลวงดนตรีระดับโลก
ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐออนไลน์ มีโอกาสพูดคุยกับ คุณนาโอกิ ชิมิสึ (Naoki Shimizu) ชาวญี่ปุ่นผู้ก่อตั้งเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียอย่าง Summer Sonic ถึงแนวคิดที่ได้เปิดให้เฟสติวัลนี้ได้จัดนอกญี่ปุ่น รวมไปถึงมุมมองเกี่ยวกับการวิธีรับมือกับอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้น กลยุทธ์การเลือกไลน์อัปศิลปิน และความคาดหวังที่จะเกิดขึ้นใน Summer Sonic Bangkok 2024
สัมภาษณ์คุณนาโอกิ ชิมิสึ (Naoki Shimizu) ชายผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเทศกาลดนตรี Summer Sonic
รู้สึกอย่างไรที่รัฐบาลไทยมีความสนใจในการจัดเทศกาลดนตรี Summer Sonic Bangkok 2024 ขึ้นเป็นครั้งแรก
...
คุณนาโอกิ ชิมิสึ : ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าตกใจมากครับ เพราะในวันแถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาล ผมไม่คิดว่าจะมีสื่อมาร่วมงานเยอะขนาดนี้ ปกติที่ญี่ปุ่นหากเป็นมิวสิกเฟสติวัล ก็จะไม่ได้มีนักข่าวมาร่วมงานเยอะขนาดนี้ และนายกรัฐมนตรีก็คงไม่มาร่วมงานด้วยอย่างแน่นอน ทำให้ผมมองเห็นประเทศไทยค่อนข้างมีความสนใจในเรื่องดนตรี มีการสนับสนุนด้านดนตรี อีกทั้งยังรู้สึกได้ถึงความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นระหว่างไทยกับญี่ปุ่นครับ
Summer Sonic ในญี่ปุ่นเป็นเฟสติวัลที่สาวกดนตรีมีความรอยัลตี้สูงมากอยู่แล้ว กังวลไหมเมื่อมี Summer Sonic Bangkok 2024 ที่จัดนอกญี่ปุ่น ได้วางกลยุทธ์ที่จะสร้างฐานแฟนๆ ในโลเกชันใหม่อย่างไร
คุณนาโอกิ ชิมิสึ : ผมมองว่า Summer Sonic เป็นเฟสติวัลที่ไม่ว่าจะคนไทยหรือแฟนเพลงชาติอื่นๆ ในเอเชีย ก็ล้วนรู้จักและมีความรอยัลตี้มากอยู่แล้ว เมื่อได้มาจัดในประเทศไทยก็ถือเป็นการสร้างโอกาสในการนำศิลปินเอเชียมาแสดงเพื่อให้แฟนๆ รู้จักเพิ่มมากขึ้น ซึ่ง Summer Sonic Bangkok 2024 อาจจะลองทำในรูปแบบที่แตกต่างจากในญี่ปุ่นสักเล็กน้อย
มีการวางแผนนำศิลปินญี่ปุ่นมาแสดงภายในงาน Summer Sonic Bangkok 2024 มากน้อยแค่ไหน
คุณนาโอกิ ชิมิสึ : พวกเรามีความตั้งใจที่จะจัด Summer Sonic ในประเทศไทยอยู่แล้ว ซึ่งใช้ชื่อว่า "Summer Sonic Bangkok 2024" แน่นอนว่ามีการพูดคุยกันตั้งแต่เริ่มแรกว่าอย่างน้อยเราอยากให้มีศิลปินชาวญี่ปุ่นสัก 2-4 วงที่มาแสดงในไทย หรือถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะเพิ่มจำนวนให้มากกว่านั้น แต่ก็ไม่ได้เป็นฝั่งผมอย่างเดียวที่จะตัดสินใจเรื่องนี้ ขึ้นอยู่กับทางไทยและญี่ปุ่นต้องหารือกันอีกครั้งครับ
...
อย่างการประกาศไลน์อัปเฟสแรก ที่จะนำศิลปินญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า YOASOBI มาแสดง ก็ถือเป็นสิ่งที่ไทยและญี่ปุ่นได้ปรึกษาหารือและมีความเห็นตรงกันแล้วว่าเป็นศิลปินที่มีความเหมาะสม ส่วนที่เหลือก็ต้องรอติดตามกันต่อไป
หากนึกย้อนไปถึงช่วงแรกที่เริ่มก่อตั้งเทศกาลดนตรี Summer Sonic เมื่อปี 2000 มีอุปสรรคและปัญหาอะไรที่ต้องรับมือบ้าง และคิดว่าอะไรคือเคล็ดลับที่ทำให้ Summer Sonic ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้
คุณนาโอกิ ชิมิสึ : เรื่องแรกที่ผมนึกถึงก็คือปี 2000 ซึ่งเป็นปีแรกที่ได้จัดงาน Summer Sonic ในญี่ปุ่น ตอนนั้นเลือกศิลปิน James Brown มาแสดง (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) เขาต้องขึ้นเล่นก่อนเฮดไลเนอร์ แต่ปรากฏว่าเขาเล่นเกินเวลาไป ซึ่งตารางมันกำหนดไว้ที่ 1 ชั่วโมง ที่ญี่ปุ่นค่อนข้างซีเรียสเรื่องการตรงต่อเวลา เพราะอาจกระทบต่อตารางขึ้นเล่นของศิลปินคนอื่นๆ ผมว่าการควบคุมเรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่ยากมาก การจัดเวลาอาจจะเป็นอุปสรรคในช่วงแรกๆ ที่เรายังทำไม่สำเร็จ
แต่สุดท้ายแล้วการที่ Summer Sonic ประสบความสำเร็จอย่างที่เห็นในทุกวันนี้ ผมมองว่ามันไม่ได้เกิดขึ้นจากแก้ปัญหาสำเร็จแค่ครั้งเดียว แต่มันเกิดขึ้นจากการเรียนรู้ การเปลี่ยนแปลง และการรู้จักปรับปรุงในทุกๆ ครั้ง
ยกตัวอย่างเช่น เราเคยลองเปลี่ยนเฮดไลเนอร์ให้เป็นศิลปินหญิงดูบ้าง ปีนั้นได้ Beyoncé มาแสดง หรือเมื่อมีโอกาสเราก็เพิ่มไลน์อัปศิลปิน K-POP เข้าไป ผมมองว่าการที่ Summer Sonic ประสบความสำเร็จมันเริ่มจากการค่อยๆ เรียนรู้และเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ครับ
...
คุณมีวิธีการคัดเลือกศิลปินที่มาแสดงอย่างไร เพราะที่ผ่านมา Summer Sonic เต็มไปด้วยไลน์อัปศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับสากล เป็นเวทีที่เล่นดนตรีครบทุกแนว
คุณนาโอกิ ชิมิสึ : ผมรู้สึกขอบคุณทุกคนมากๆ เมื่อได้ยินมาว่าส่วนใหญ่คนที่เคยมา Summer Sonic แล้ว ก็จะหาโอกาสกลับมาอีกหลายๆ ครั้ง ผมมองว่าปัจจัยที่ทำให้เฟสติวัลนี้โด่งดังขึ้นมาได้ อยู่ที่การเลือกใช้ศิลปินด้วย เราจัดไลน์อัปโดยอาศัยชื่อศิลปินที่มีพลังดึงดูดแฟนๆ ในญี่ปุ่นเองมีการแชร์ศิลปินระหว่างสองเมือง (โตเกียวและโอซากา) เราเลือกใช้ศิลปินร่วมกัน ซึ่งประเทศไทยก็เป็นอีกหนึ่งเมืองที่น่าสนใจ เผื่อว่าในอนาคตเราอาจสามารถเพิ่มการแชร์ศิลปินใน 3 เมืองได้ ซึ่งก็รวมกรุงเทพฯ อยู่ในนั้นด้วย นี่อาจจะกลายเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ Summer Sonic ในอนาคต
ส่วนหลักการในคัดเลือกศิลปินนั้น อย่างแรกเลยต้องบอกว่าผมเป็นคนที่เดินทางไปชมเฟสติวัลเยอะมาก ผมไปทั่วโลกเลยครับ ไปชมและเรียนรู้ด้วยตัวเอง ไปดูว่าแต่ละที่ดนตรีเขาเป็นอย่างไร ทำให้ผมสามารถเลือกแนวศิลปินที่สนใจได้
แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็มีเครือข่ายของเอเจนต์ผู้จัดการศิลปินจำนวนมากด้วย บางที่อาจมีศิลปินเยอะถึง 50 รายชื่อ ผมก็จะไปดูว่าศิลปินคนนั้นมีความน่าสนใจอย่างไร เอเจนต์ของเราไม่ใช่แค่ในเอเชีย แต่มีการผูกเครือข่ายศิลปินทั่วโลก มีทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรปด้วย ทำให้ผมรู้จักศิลปินมากขึ้น และการติดต่อประสานงานก็ทำได้ง่ายและรวดเร็ว ก็น่าจะเป็นเทคนิคที่ทำให้ Summer Sonic คัดเลือกศิลปินได้ง่ายขึ้นด้วย
เมื่อพูดถึง Summer Sonic ที่ญี่ปุ่นจะชวนนึกถึงบรรยากาศกลางแจ้งในฤดูร้อน แต่เมื่อจัดในไทย Summer Sonic Bangkok 2024 สถานที่จัดเป็นที่ร่ม (อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ฮอลล์) คิดว่าจะชูความเป็น "ซัมเมอร์" ได้อย่างไรบ้าง
คุณนาโอกิ ชิมิสึ : ผมคิดว่าเรื่องนี้ค่อนข้างท้าทายทีเดียวครับ เพราะในไทยเราต้องจัดแบบอินดอร์ ได้ยินมาว่าอากาศเดือนสิงหาคมของประเทศไทยค่อนข้างร้อนมาก เลยทำให้ต้องเลือกแบบนี้ แต่ต่อไปหลังจากนี้ก็ต้องดูความเหมาะสมอีกทีว่าจะเป็นอย่างไร เพราะหากจะจัดกลางแจ้งหรือเอาต์ดอร์จริงๆ ก็ต้องมาดูเหตุผลกันว่าสถานที่ไหนที่จะสามารถจัดได้บ้าง และต้องคำถึงสภาพอากาศด้วย อาจจะไม่ได้จัดในเดือนสิงหาคมแล้วก็ได้ อาจเป็นฤดูอื่น โดยต้องคำนึงถึงศิลปินที่เราจะต้องแชร์กันระหว่าง 3 เมืองด้วย เช่น หากดีลให้มาแสดงที่ประเทศไทยแล้ว เขาต้องไปเล่น Summer Sonic ที่ญี่ปุ่นต่อ ช่วงเวลาจะเหมาะสมไหม ก็ต้องปรึกษาหารือและทดลองกันดูก่อนครับ
แผนเรื่องการจัดผังเวทีใน Summer Sonic Bangkok 2024 ให้มีมาตรฐานใกล้เคียงกับใน Summer Sonic ของประเทศญี่ปุ่น
คุณนาโอกิ ชิมิสึ : ปกติที่ญี่ปุ่นจะมีการจัดตารางมาให้อยู่แล้ว เราอยากให้เวทีอยู่ใกล้กัน แต่พอต้องมาจัดที่ต่างประเทศ ก็จะมีเรื่องที่ท้าทายและยากมากๆ ก็คือการวางแผนและจัดการตารางเวลานี่แหละครับ เพราะอาจมีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น ไม่อยากให้เวลาขึ้นแสดงของศิลปินซ้อนทับกัน อยากให้วงเล็กเล่นก่อน วงใหญ่ไว้ทีหลัง ถือเป็นสิ่งที่เราต้องจัดการว่าจะทำอย่างไรให้ออกมาเหมาะสมที่สุด
ย้อนกลับไปที่งาน Summer Sonic ปี 2005 ก็เคยมีปัญหานี้เกิดขึ้นเหมือนกันครับ ปีนั้นวง Oasis และ The Black Crowes เคยเล่นเวลาเดียวกันที่โอซากาในรอบค่ำ แม้ว่ากระแสความโด่งดังของเขามันจะเท่าๆ กัน แต่คนมาดู Oasis เยอะมาก จนทำให้ The Black Crowes คนดูน้อยแค่ไม่กี่พันคน ผู้ชมเลยไม่ค่อยพอใจ เพราะเวลามันซ้อนทับกัน พอดูวงนี้ ทำให้ไปดูอีกวงไม่ทัน เพราะแฟนๆ ก็อยากดูทั้งสองวง พออีกวันมาเล่นที่โตเกียว เราเลยต้องจัดการเวลาใหม่ ต้องยอมให้งานจบช้าไปกว่าเดิม เพื่อขยับเวลาของ The Black Crowes ออกไปอีกหน่อย ท้ายที่สุดแล้วคนดูก็จะได้ดูทั้งสองวงแบบเต็มๆ นี่ก็เป็นตัวอย่างของการแก้ปัญหาในตอนนั้นครับ
สำหรับ Summer Sonic Bangkok 2024 ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นปีแรก มีการตั้งเป้าหมายความสำเร็จไว้หรือเปล่า
คุณนาโอกิ ชิมิสึ : จริงๆ ก็อยากให้คนมาชมเยอะๆ อยากให้ขายบัตรได้ แต่ด้วยความที่ประเทศไทยจัดขึ้นเป็นปีแรก ยังไม่มีผลงาน หรือไม่มีตัวคะแนนชี้วัดให้เห็น บางคนอาจยังไม่แน่ใจว่าจะมาดีหรือเปล่า เพราะไม่รู้ว่างานจะออกมาเป็นอย่างไร เรื่องการดึงตัวศิลปินมาแสดงในงานก็ยังเป็นสิ่งที่ผู้คนคาดหวังอยู่
สำหรับผมปีแรกเลยยังไม่ได้คาดหวังเรื่องปริมาณผู้ชม แต่จะไปเน้นที่การสร้างชื่อเสียงและสร้างผลงานไว้ให้เกิดความน่าเชื่อถือก่อนครับ เพื่อที่ปีต่อไปคนจะมาเยอะขึ้น แล้วเราก็จะสามารถนำผลงานนี้ไปคว้าตัวศิลปินในระดับสูงๆ ให้มาร่วมแสดงในงานได้อีกด้วย
ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวราว 350,000 คน ที่เดินทางมางาน Summer Sonic ที่ประเทศญี่ปุ่น คุณมองว่าเทศกาลดนตรีมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้ประเทศอย่างไรบ้าง
คุณนาโอกิ ชิมิสึ : ผมคิดว่า Summer Sonic มีผลทางเศรษฐกิจค่อนข้างมากครับ เพราะทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาที่ญี่ปุ่นเยอะมากในทุกๆ ปี ตอนนี้รัฐบาลญี่ปุ่นเองก็เริ่มหันมาสนใจ Summer Sonic มากขึ้น ซึ่งในประเทศไทยเอง ผมก็หวังเหมือนกันว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวจากประเทศใกล้เคียง หรือนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยมากขึ้นไปด้วย ซึ่งจะเป็นผลพลอยได้จากงาน Summer Sonic Bangkok 2024
ส่วนในมุมมองด้านดนตรี การที่มีนักท่องเที่ยว 350,000 คนเดินทางมาร่วมงาน จริงๆ อาจไม่ใช่เพราะ Summer Sonic เพียงอย่างเดียว เพราะตั้งแต่ฮอกไกโดถึงโอกินาวาทั่วทุกเมืองในประเทศญี่ปุ่น จะมีการจัดเฟสติวัลท้องถิ่นอยู่แล้ว ใช้ศิลปินในประเทศแสดง และชาวญี่ปุ่นก็จะเดินทางมาชมเป็นประจำอยู่แล้ว ผมเลยมองว่าพวกเทศกาลดนตรีทั้งหลายเป็นสิ่งที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้มากทีเดียวครับ
Summer Sonic เป็นเทศกาลดนตรีที่มีศิลปินเฮดไลเนอร์ระดับเอลิสต์ (A-list) มาโดยตลอด ในฐานะผู้จัดงานที่มีประสบการณ์กว่า 24 ปี คุณยังมี "เฮดไลเนอร์ในฝัน" ที่ยังไม่มีโอกาสดึงตัวมาแสดงอีกไหม
คุณนาโอกิ ชิมิสึ : ผมทำหน้าที่ตรงนี้มามากกว่า 20 ปี ก็มีหลายเรื่องราว มีศิลปินจำนวนมากที่ได้มาแสดงที่ Summer Sonic แล้ว แต่ก็ยังมีศิลปินที่ผมชอบมากๆ อีกหลายคน ที่ยังไม่มีโอกาสคว้าตัวมาได้ เช่น Bruce Springsteen, Stevie Wonder หรือ Prince รวมไปถึงวงดนตรีระดับตำนานอย่าง Queen ซึ่งที่จริงตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็มีหลายวงเลยครับ ผมอยากให้คนนั้นคนนี้มาแสดง แต่ก็มีหลายสาเหตุเกิดขึ้นระหว่างนั้น บางคนยังไม่สามารถมาได้ บางคนก็เสียชีวิตไปก่อนที่จะได้มา Summer Sonic เรื่องแบบนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมาเลยครับ
เปิดไลน์อัป Summer Sonic Bangkok 2024 เฟสแรกมีใครบ้าง?
- LAUV
- YOASOBI
- LAUFEY
- AURORA
- BODYSLAM (special guests BABYMETAL & F. HERO)
- NOTHING BUT THIEVES
- BRIGHT
- HENRY MOODIE
- VIOLETTE WAUTIER
หมายเหตุ : จะมีการประกาศไลน์อัปรายชื่อศิลปินที่จะมาร่วมงานเพิ่มเติมอีกในภายหลัง
Summer Sonic Bangkok 2024 จัดวันไหน ที่ไหน?
วันจัดงาน : วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 24-25 สิงหาคม 2567
สถานที่ : อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี
เวลาแสดง : 15.00-22.00 น.
Summer Sonic Bangkok 2024 ราคาบัตรเท่าไร?
ราคาบัตร : ราคา PRE-SALE (บัตรมีจำนวนจำกัด) สำหรับ 2-DAYS ราคา 5,500 บาท (Silver) 6,000 บาท (Gold) 7,500 บาท (Platinum) และ 20,000 บาท (VIP)
ซื้อบัตรได้ที่ : www.thaiticketmajor.com
รายละเอียดเพิ่มเติม : Summersonicbangkok
เรื่อง : Tatiya Kaewchan
ภาพ : ธนัท ชยพันธฤทธี