เข้ามารับช่วงต่อยอดธุรกิจของครอบครัวที่ดำเนินกิจการมากว่า 80 ปี โนร่า-อนณ ชลาวานิช ผู้บริหาร รุ่นที่ 3 ของ “JACOB” (ยาค้อบ) ผู้นำด้านงานผลิตเครื่องหนังที่มีคุณภาพแข็งแรง ทนทาน และสวยงาม โดยเฉพาะกระเป๋านักเรียนที่โด่งดัง ซึ่งพร้อมที่จะนำพาธุรกิจก้าวสู่ยุคใหม่

สองผู้บริหาร โนร่า-อนณ ชลาวานิช เล่าถึงธุรกิจว่า ยาค้อบ (JACOB) ก่อตั้งขึ้นในปี 2482 โดย จุดเริ่มต้นจากคุณสุทิน เทพชาตรี ผู้ริเริ่มและก่อตั้งแบรนด์ยาค้อบ ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของ บริษัท ศรีภัณฑ์ยาค้อบ จำกัด ยาค้อบได้รับการยอมรับตั้งแต่สมัยรุ่นบุกเบิก และคุณสุทินได้รับการกล่าวขานเป็นปูชนียบุคคลของวงการเครื่องหนังไทย โดยเริ่มต้นจากการเป็นโรงงานผลิต จัดจำหน่ายเนกไท โดยภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เปลี่ยนมาผลิตและจำหน่ายเครื่องหนังในภายหลัง ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานแบรนด์เครื่องหนังไทยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยยาค้อบยังได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำด้านงานผลิตเครื่องหนังที่มีคุณภาพแข็งแรง ทนทาน และสวยงาม โดยเฉพาะกระเป๋านักเรียนของยาค้อบที่ถูกพัฒนาไปควบคู่กันกับผลิตภัณฑ์อื่นๆในแบรนด์ ครบครันทั้งในด้านดีไซน์ การสรรหาวัตถุดิบ ประโยชน์ใช้สอยและคุณภาพของหนังและวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตและผู้บริหารทั้งสองคนได้นำประสบการณ์การทำงานจากภายนอกนำมาใช้ในธุรกิจบทใหม่ของยาค้อบให้เติบโตในฐานะทายาทรุ่นสามของบริษัท

...

โดยในส่วนของ “คุณโนร่า” หลังจากสำเร็จการศึกษาด้านการบริหารผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายจากมหาวิทยาลัย Indiana University Bloominton สหรัฐฯ ก็ได้ทำงานด้านวิจัยตลาดและบริหารแบรนด์จากนีลเส็น

ส่วน “คุณอนณ” เมื่อสำเร็จการศึกษาสาขาสื่อสารวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Ohio University สหรัฐฯ แล้วได้เริ่มงานที่ลาซาด้า ก่อนจะศึกษาต่อที่ Royal Melbourne Institute of Technology เพื่อกลับมาพัฒนางานด้านอีคอมเมิร์ซ และโครงสร้างพื้นฐาน ให้กับบริษัท ศรี ภัณฑ์ยาค้อบ จำกัด

“การเข้ามาบริหารยาค้อบ เราเจนฯ 3 เริ่มแบ่งงานเพื่อเรียนรู้งานรายละเอียดต่างๆจากเจนฯ 2 และมีการเพิ่มงานในบางสายงาน โดยโนร่าเริ่มเข้าไปช่วยดูแลการผลิต การออกแบบ และการขาย ซึ่งได้มีผู้บริหารเจนฯ 2 สอนงานและให้คำแนะนำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อต่อยอดงาน โดยมีการจัดตั้งแผนกใหม่เพื่อปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งได้คุณอนณมาเสริมด้าน E-commerce และ Data analysis เรามองว่า ยาค้อบ เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในวงการเครื่องหนังอยู่ เราจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ เราอยากจะเป็นชื่อแรกที่ลูกค้านึกถึงเมื่อต้องการซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง นอกจากนั้นแล้ว เราอยากเสริมสร้าง sustainabi lity ให้กับบริษัท ตอนนี้พยายามโดยการนำหนังที่เหลือจากการผลิตกลับมาใช้ใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้วัตถุดิบ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมการใช้ทรัพยากรอย่างมีความรับ ผิดชอบ ซึ่งเป็นอีกด้านหนึ่งที่เรากำลังพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นด้วย นอก จากนี้การบริหารต้องมีการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา เพื่อให้ตรงมาตรฐานและเสริมสร้างการเดินงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น”

ความตั้งใจในการนำพาองค์กรของสองผู้บริหารรุ่นใหม่ของยาค้อบ.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่