เมื่อมีโอกาสพิสูจน์ความสามารถ สุรเชษฐ์ สุนทรทวีทรัพย์ นักวิจัยหนุ่มไฟแรงจึงต่อยอดงานวิจัยของตนเองด้วยการก่อตั้งบริษัท ควอนตัม ไบโอเทค จำกัด ร่วมกับพันธมิตรภาคเอกชน ที่ร่วมกันมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาในสาขาของเทคโนโลยีชีวภาพ โดยเฉพาะด้านสุขภาพ และการแพทย์ จากวัตถุดิบที่สรรหาได้ในประเทศเน้นความยั่งยืนแก่งานนวัตกรรม ทั้งยังลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
คุณบูม–สุรเชษฐ์ สุนทรทวีทรัพย์ นักวิจัยหนุ่มเกียรตินิยมอันดับ 1 ด้านเคมีอุตสาหกรรม จากสถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าลาดกระบัง ปัจจุบันกำลังศึกษาด้านระบบพลังงานที่ยั่งยืนในระดับปริญญาเอก ที่บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้เล่าถึงเส้นทางการทำงานว่า หลังจากจบปริญญาตรีได้รับโอกาสเข้าทำงานที่ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ในปี 2558 ซึ่งได้รับโอกาสให้พัฒนาทักษะด้านงานวิจัย และต่อยอดงานวิจัยเป็นผลิตภัณฑ์ในเชิงพาณิชย์ และในปี 2564 ไบโอเทคได้มีกลไก Start up ให้นักวิจัยภายในศูนย์ฯได้ต่อยอดงานวิจัยของตัวเองร่วมกับภาคเอกชน ตนเริ่มต้น ธุรกิจของตัวเอง ด้วยการก่อตั้ง “บริษัทควอนตัมไบโอเทค จำกัด” ร่วมกับพันธมิตรภาคเอกชน ที่เน้นการวิจัยและพัฒนาในสาขาของเทคโนโลยีชีวภาพ
...
“ความท้าทายในการทำงานของเราเป็นการพัฒนานวัตกรรมเพื่อแก้ไขและปรับปรุงคุณภาพชีวิต ซึ่งความท้าทายหลักในกระบวนการนี้คือการเลือกนวัตกรรมที่เหมาะสมจากเทคโนโลยีและวิธีการต่างๆ ที่มีอยู่มากมาย บางครั้งนวัตกรรมที่ดูดีที่สุดอาจไม่ใช่ทางออกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับปัญหาเฉพาะที่ลูกค้าเผชิญ การประเมินปัญหาอย่างถี่ถ้วนและเลือกใช้นวัตกรรมที่สามารถแก้ไขปัญหานั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนเป็นสิ่งที่จำเป็น นอกจากนี้การใช้นวัตกรรมที่มีอยู่ยังต้องพิจารณาถึงความยั่งยืนและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจ สิ่งแวด ล้อมและสังคม การหาสมดุลระหว่างการใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพกับการรักษาความยั่งยืน เป็นความท้าทายที่ไม่ควรมองข้ามอีกด้วยครับ”
เมื่อต้องทำงานเกี่ยวข้องกับทางวิชาการ ผู้บริหาร หนุ่มไฟแรงคนนี้ จึงมีหลักการทำงาน โดยบอกว่า การพัฒนาความยั่งยืนผ่านนวัตกรรมเป็นหลักการที่ตนนั้นยึดมาโดยตลอดนั้นคือ การสร้างนวัตกรรมที่ทำให้ธุรกิจเติบโตพร้อมกับการมีผลกระทบที่ดีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งมุ่งหวังให้เกิดนวัตกรรมที่ลดการสิ้นเปลืองและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังรวมถึงการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้เพื่อลดการใช้พลังงาน นอกจากนี้ความยั่งยืนผ่านนวัตกรรมไม่ใช่เป้าหมายที่สำเร็จได้ในครั้งเดียว แต่เป็นกระบวนการที่ต้องการการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และต้องการการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการให้มีความยั่งยืนมากขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ดังนั้นหลักการนี้จึงไม่เพียงแต่นำไปสู่การเติบโตของธุรกิจเท่านั้น แต่ยังช่วยส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย...นี่เป็นปณิธานอันแรงกล้าของผู้บริหาร เก่งคนนี้.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่