เปิดประวัติ หม่อมราชวงศ์สดศรี ปันยารชุน ภริยาอดีตนายกฯ อานันท์

อาลัยสตรีอันเป็นที่รักผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของอดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 18 อานันท์ ปันยารชุน ภายหลัง ม.ร.ว.สดศรี ปันยารชุน ถึงแก่อนิจกรรมอย่างสงบในวัย 87 ปี 4 เดือน 

ประวัติโดยย่อ หม่อมราชวงศ์สดศรี ปันยารชุน

หม่อมราชวงศ์สดศรี ปันยารชุน เป็นลื่อในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระปนัดดาในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี กรมพระจักรพรรดิพงษ์ และเป็นพระนัดดาในพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตรจาตุรนต์

หม่อมราชวงศ์สดศรี มีชื่อเดิมว่า หม่อมราชวงศ์สดศรีสุริยา จักรพันธุ์ ธิดาของพลโท หม่อมเจ้าคัสตาวัส จักรพันธุ์ พระโอรสในพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตรจาตุรนต์ กับหม่อมหวน จักรพันธุ์ ณ อยุธยา กับหม่อมเจ้าทิตยาทรงกลด รพีพัฒน์ พระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ กับหม่อมอ่อน รพีพัฒน์ ณ อยุธยา 

หม่อมราชวงศ์สดศรี ปันยารชุน เกิดเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2479 มีพี่น้องร่วมบิดา-มารดา คือ หม่อมราชวงศ์กทลี สุนทรสิงคาล และ หม่อมราชวงศ์ตราจักร จักรพันธุ์

หม่อมราชวงศ์สดศรี ปันยารชุน สมรสกับ นายอานันท์ ปันยารชุน มีบุตรี 2 คน คือ นางนัดดา ไกรฤกษ์ และ นางดารณี เจริญรัชต์ภาคย์

ด้านการศึกษา หม่อมราชวงศ์สดศรี เริ่มต้นการศึกษาที่โรงเรียนมาแตร์เดอี, โรงเรียนอเมริกัน ณ กรุงปารีส และได้ศึกษาที่ประเทศอังกฤษ ในวิชาเลขานุการ ที่วิทยาลัยควีนส์ คอลเลจ ในกรุงลอนดอน ได้พบรักกับ นายอานันท์ ปันยารชุน หนุ่มนักศึกษาไทยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และได้สมรสปี พ.ศ. 2499 

ทั้งนี้ ในวัยเยาว์ได้ติดตามท่านพ่อ ขณะที่ทรงดำรงตำแหน่งผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบกประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ที่ประเทศฝรั่งเศส จึงทำให้มีโอกาสได้เรียนและพูดภาษาอังกฤษตั้งแต่เล็ก และกลายเป็นคุณสมบัติติดตัวและเป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิตในฐานะภริยานักการทูต และผู้นำของประเทศ

กำหนดการ พิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และพิธีสวดพระอภิธรรม

กำหนดการพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และพิธีสวดพระอภิธรรม บำเพ็ญกุศล หม่อมราชวงศ์สดศรี ปันยารชุน ม.ว.ม., ป.ช., ต.จ., ภ.ป.ร.4 ณ ศาลาร้อยปีฯ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ในวันที่ 22-24 ธันวาคม พ.ศ. 2566

วันพุธที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เวลา 15.30 น. มีพิธีรดน้ำศพ จากนั้น  17.00 น. พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม ในเวลา 18.00 น.

สำหรับกำหนดการวันที่ 23-24 พฤศจิกายน 2566 พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม ในเวลา 18.30 น. และตั้งแต่วันที่ 25-28 พฤศจิกายน 2566 วันที่ 3, 10, 17, 24 ธันวาคม 2566 สวดพระอภิธรรม ในเวลา 18.30 น.