เดินหน้าทำงานเต็มที่ “มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ” กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในฐานะทูตองค์การยูนิเซฟ ประจำประเทศไทย ได้ลงพื้นที่ร่วมทำงานกับยูนิเซฟ เพื่อขับเคลื่อนประเด็นการขยายเงินอุดหนุนเด็กเล็กเป็นแบบถ้วนหน้า เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีเด็กที่อายุน้อยกว่า 6 ปี คนใดในประเทศไทยต้องตกหล่นจากสวัสดิการเงินอุดหนุนนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตและการพัฒนาของพวกเขา

โดยล่าสุดได้ลงพื้นที่เยี่ยมชุมชนเสือใหญ่ในกรุงเทพฯ เพื่อพบกับครอบครัวที่ได้รับประโยชน์จากเงินอุดหนุนเด็กเล็ก โดยได้รับฟังเรื่องราวเกี่ยวกับปัญหาทางเศรษฐกิจของแต่ละครอบครัว และประโยชน์ของเงินอุดหนุนที่ช่วยให้พวกเขาสามารถซื้อสิ่งของจำเป็นให้แก่ลูกๆได้ ซึ่ง “มาดามแป้ง” กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ นับเป็นประสบการณ์ที่เปิดโลกของแป้งให้กว้างขึ้น ต้องขอขอบคุณทั้ง 2 ครอบครัวจากใจ ที่เปิดบ้านให้แป้งได้เข้าไปพูดคุย ทำความเข้าใจ และทำให้แป้งได้เห็นจริงๆว่าเงินอุดหนุนรายเดือนนี้ สามารถสร้างความแตกต่างให้กับครอบครัวที่มีลูกเล็กได้ โดยเฉพาะครอบครัวที่กำลังเดือดร้อนและยากลำบาก เพราะเงินจำนวนนี้หมายถึงอาหารที่มีประโยชน์ ของเล่น ของจำเป็นเพื่อการเรียนรู้ของลูก ซึ่งเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระและบรรเทาความเครียดของพ่อแม่ที่กำลังดิ้นรนเพื่อลูกๆของตนเอง สิ่งเหล่านี้ล้วนจำเป็นต่อพัฒนาการของเด็กโดยเฉพาะในช่วงขวบปีแรกๆ ซึ่งเป็นรากฐานของการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพตลอดช่วงชีวิต ทำให้เด็กทุกคนในประเทศสามารถเข้าถึงเงินอุดหนุนนี้ และให้แน่ใจว่าจะไม่มีเด็กคนใด โดยเฉพาะเด็กจากครอบครัวที่ยากจน ต้องตกหล่นจากสวัสดิการนี้ จึงเป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญและทำให้เกิดขึ้นจริง เพื่ออนาคตของเด็กทุกคนและของประเทศไทย

...

โครงการเงินอุดหนุนเด็กเล็กถือเป็นการคุ้มครองทางสังคมขั้นต่ำสำหรับเด็กเล็ก เริ่มในปี 2558 ปัจจุบันมีเด็กแรกเกิดถึง 6 ปี จำนวน 2.3 ล้านคน ได้รับเงินอุดหนุนเดือนละ 600 บาท โดยเป็นกลุ่มที่มีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนไม่เกิน 1 แสนบาทต่อคนต่อปี อย่างไรก็ตามสวัสดิการนี้ยังไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างทั่วถึง โดยเข้าถึงเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น อีกทั้งเด็กยากจนจำนวนมากที่อยู่ในเกณฑ์ได้รับเงินอุดหนุนก็ยังคงตกหล่นจากสวัสดิการนี้เนื่องจากข้อบกพร่องในกระบวนการคัดกรองและการลงทะเบียน ที่ผ่านมายูนิเซฟและภาคีเครือข่ายได้เรียกร้องให้รัฐบาลไทยขยายเงินอุดหนุนเด็กเล็กให้เป็นแบบถ้วนหน้า เพื่อไม่ให้มีเด็กคนใดต้องตกหล่นจากสวัสดิการนี้ นอกจากนี้ ยังเสนอให้ปรับเพิ่มจำนวนเงินเพื่อสะท้อนค่าใช้จ่ายในการดูแลเด็กในปัจจุบัน เนื่องจากไม่ได้ปรับมาตั้งแต่ปี 2559

ด้าน ซาร่าห์ ชาห์ย่า หัวหน้าฝ่ายนโยบายสังคม องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า ประสบการณ์จากหลายประเทศได้พิสูจน์ให้เห็นว่า การขยายเงินอุดหนุนเด็กเล็กให้เป็นแบบถ้วนหน้า สามารถช่วยลดความยากจนในทุกกลุ่มประชากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยข้อมูลจากประเทศกลุ่มรายได้ปานกลางชี้ว่า สวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็กแบบถ้วนหน้า ซึ่งใช้งบประมาณเพียงร้อยละ 1 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ สามารถ ลดอัตราความยากจนของทุกกลุ่มประชากรได้ถึงร้อยละ 20 ทั้งนี้ เราไม่ควรเลือกระหว่างการกระจายรายได้ การลดความเหลื่อมล้ำและการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพราะทั้งหมดนี้ต้องทำควบคู่กันไป.

...

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่