ด้วยบุคลิกหนุ่มทันสมัยสายเอนเตอร์เทนของคุณเป๊ก สัณณ์ชัย เองตระกูล ใครจะเชื่อว่าเขาเป็นคนหนึ่งที่สนใจเรื่องการทำอาหาร และยังมีฝีไม้ลายมือการปรุงอันยอดเยี่ยม ส่วนเคล็ดลับที่ทำให้รสมือการทำอาหารของคุณเป๊กนั้นเข้าขั้นเชฟมืออาชีพ นั้นคุณเป๊กเล่าว่า “เบสิกการทำอาหารนั้นมีอยู่แล้ว เพราะตอนเด็กๆ อยู่กับคุณย่า แล้วคุณย่าเป็นคนทำอาหารไทยเก่งมาก ก็เลยซึมซับและสืบทอดการทำอาหารมา ประกอบกับคุณพ่อและคุณแม่ก็ชอบทำอาหารเหมือนกัน จนกระทั่งไปเรียนที่สหรัฐอเมริกา ก็ได้ทำอาหารให้น้องๆ และเพื่อนฝูงรับประทานด้วย เรียกได้ว่า ชีวิตผูกพันกับการทำอาหารมาโดยตลอด”

“Moon Shadow คือ การถ่ายทอดจินตนาการของผมทางด้านอาหาร ที่ตอนแรกคิดว่าจะทำเล่นๆ แต่ผลตอบรับดีมากจึงต้องเริ่มจริงจัง ส่วนชื่อ Moon Shadow นี้ จริงๆ เป็นชื่อร้านโปรดของผมที่ มาลิบู แคลิฟอร์เนีย ผมจะแวะไปร้านอาหารนี้ทุกครั้งที่มีโอกาสไปแคลิฟอร์เนีย ทีนี้เราก็พยายามมองหาว่า เอ...บ้านเรามีมุมไหนมองเห็นพระจันทร์บ้างมั้ย (หัวเราะ)”

คุณเป๊ก สัณณ์ชัย เล่าต่อถึงความเป็นมาในการเปิดคฤหาสน์แบบเอ็กซ์คลูซีฟแห่งนี้ว่า “Moon Shadow เริ่มต้นจากที่ เราอยากให้คนอื่นมาลองชิมฝีมือของเรา จากตอนวิกฤตการณ์โควิด-19 คนที่บ้านเราเยอะ ทั้งพ่อครัว แม่ครัว แล้วหลายๆ คนก็มีฝีมือด้านอาหาร แล้วก็มาลองดูพื้นที่ในบ้านเราว่าเพียงพอที่จะสามารถรองรับลูกค้าได้ ทำครัวได้ อีกอย่างก็เป็นการทำเพื่อหารายได้เสริม มาช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านเราด้วย เพราะทีมงานเราเยอะร่วม 20 คน ก็เลยตัดสินใจลองทำดู ซึ่งผลตอบรับก็ดีมาก หลังจากเปิดวันแรก 14 ก.พ. 2566 มาถึงตอนนี้ ก็มีจองมาเรื่อยๆ เรียกว่าเต็มเกือบทุกวันก็ได้”

Moon Shadow เสิร์ฟเมนูอาหารทั้งหมด 8 คอร์ส ตั้งแต่เมนูเรียกน้ำย่อย ซุป จานหลัก จานรอง ของหวานพร้อมน้ำแร่บริสุทธิ์ ซึ่งทุกเมนูล้วนผ่านการคิดและรังสรรค์จากฝีมือของคุณเป๊ก สัณณ์ชัย อย่างละเมียดละไม โดยจะเล่าคอนเซปต์ของแต่ละจานก่อนเสิร์ฟให้ทุกท่านได้สัมผัสประสบการณ์ความอร่อย “การเลือกวัตถุดิบนั้น เราก็เลือกสิ่งที่ดีที่สุด แต่ในการครีเอตเมนูต้องใช้เวลา และจินตนาการที่สูงมาก ผสมผสานเข้าไปว่าจะทำออกมาได้ไหม จะอร่อยไหม คิดต่อยอดไปเรื่อยว่า ถ้าอันนี้มาผสมกับอันไหน จะได้รสชาติอย่างไร ผ่านการทดลองมามาก รวมทั้งใช้ประสบการณ์จากการที่ไปรับประทานอาหารที่อื่น ทั้งต่างประเทศและในประเทศแล้วรู้สึกอร่อย ประทับใจกับวัตถุดิบหรือวิธีการนั้นๆ เราก็จะคิดว่า เอ๊ะ เราจะเอากลับมาปรับกับเมนูของเราได้ยังไง ให้ได้ทั้งความแปลกใหม่และถูกปากคนไทย”

จากความพิถีพิถันของคุณเป๊ก สัณณ์ชัย ที่ใช้เวลาครีเอทแต่ละเมนูกว่า 2 เดือน จนได้เมนูพร้อมเสิร์ฟในที่สุด ซึ่งหลังจากที่เมนูคอร์ส Chapter1 เป็นอาหารแนวฟิวชั่น อาทิ หอยเชลล์ฮอกไกโด อาราเบียต้า รับประทานคู่กับโครเกต์มันฝรั่งทรัฟเฟิล โทสต์ซี่โครงหมูซอสมาเฟียสไปซี่ กุ้งลายเสือย่างซัลซ่าปลากุเลาเค็ม สเต๊กปลาแบล็คค็อดจากอลาสก้ารับประทานคู่กับพีพูเร (Pea Puree) และสปาเกตตีทรัฟเฟิล ฯลฯ ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี วันนี้ Moon Shadow จึงมีเมนู Chapter2 เป็นอาหารไทยที่พิเศษตรงการนำวัตถุดิบและบางเมนูของอาหารต่างชาติเข้ามาผสมผสานอย่างลงตัว

“เราเอาอาหารไทยจากทุกภาคมารวมกัน แต่ว่าเอาวัตถุดิบของต่างประเทศมาร่วมด้วย เช่น ราวีโอลีน้ำยาปู ปานีปูรีน้ำพริกอ่อง มาผสมผสานโดยนำอาหารไทยไปใส่อยู่ในวัตถุดิบต่างชาติ กุ้งคั่วปลากุเลามาทำเป็นซูชิ ก็เลยต้องคิดเยอะ ครีเอทเยอะ พายมัสมั่น น้ำยาปู คนไทยก็จะมีความทรงจำหรือภาพจำว่า น้ำยาปูร้านนั้นอร่อยสุดแล้ว น้ำพริกอ่องต้องไปกินที่เชียงใหม่ร้านนั้นร้านนี้ กลับกัน ถ้าเราเอามาครีเอทให้เป็นเมนูฟิวชั่น คนก็ไม่เคยกินมาก่อนแล้ว ก็เหมือนเป็นการมารับประทานที่นี่ครั้งแรก จะได้ไม่ต้องไปเทียบกับร้านที่เขาทำอร่อยๆ ขึ้นชื่ออยู่แล้ว”

“นี่ Chapter3 ก็ไม่รู้จะครีเอทยังไงเลย เป็นการบ้านที่หนักครับ (หัวเราะ) จริงๆ ยากทุก Chapter นะ เพราะเราอยากให้คนที่มารับประทานอาหารที่นี่ได้รับประสบการณ์กับอาหารไปด้วย จะบอกชื่อเมนูให้ทุกท่านทราบก่อน แล้วพอทานหมดคำค่อยมาเฉลยว่าเป็นวัตถุดิบอะไร อย่างเมนูซุปอันดามันสตาร์ ใน Chapter2 ฟังดูเหมือนธรรมดานะ แต่ใครชิมแล้วก็รู้ว่าไม่นะ ไม่ธรรมดาเลย เพราะเราคัดเอาเปลือกหอย กระดูกปลาทะเล เปลือกกุ้ง มาต้มกับกระดูกหมูและโครงไก่ เคี่ยวนานถึง 6 ชม. ให้ได้รสชาติกลมกล่อมละเมียดละไมที่สุด เพื่อเป็นเบสของซุปและนำมาปรุงต่อ หรืออย่างน้ำพริกอ่อง เราก็ใช้มะเขือเทศจากฝรั่งเศสมาทำ รสชาติก็อาจจะไม่เป๊ะเหมือนน้ำพริกอ่องแบบดั้งเดิม แต่บอกเลยว่าอร่อย”

“ปกติที่ Moon Shadow จะเสิร์ฟเครื่องดื่มคู่ไวน์ หรือแชมเปญแล้วแต่ลูกค้าจะเลือก แต่สำหรับผมการที่เราอยากจะสัมผัสรสแท้ๆ ของอาหาร หรือวัตถุดิบ ควรรับประทานกับน้ำเปล่าหรือน้ำแร่ เพราะนั่นแหละ คือรสชาติ และรสสัมผัสของอาหารที่แท้จริงที่สุด อย่างที่ร้านก็เลือกเสิร์ฟน้ำแร่บริสุทธิ์ อย่างน้ำแร่ VAVA ที่มีแร่ธาตุกลางๆ รสชาติน้ำไม่ทำให้รสอาหารหลักเปลี่ยน ดื่มง่ายและเสริมรสชาติของอาหารให้ชัดเจนและอร่อยยิ่งขึ้น ทั้งดื่มกับเมนูอาหาร หรือดื่มสลับกับเครื่องดื่มอย่างไวน์หรือแชมเปญก็ดีครับ”

โดย VAVA นั้น เป็นน้ำแร่บริสุทธิ์ 100% จากเขาใหญ่ แถบจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งผืนป่า “เขาใหญ่” นั้นถูกจัดว่ามีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติที่สุดในประเทศไทยโดย Unesco World Heritage ซึ่งแหล่งกำเนิดของน้ำแร่นั้นอยู่ใต้ชั้นหินอายุหลายร้อยปี จึงให้แร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และที่สำคัญคือมีค่า pH ในช่วงระดับกลาง รสชาติจึงดื่มง่าย และให้ความสดชื่นทุกครั้งที่ดื่ม

ซึ่งรสชาติของน้ำแร่ VAVA นั้นการันตีด้วยรางวัล ‘รสชาติยอดเยี่ยม’ Superior Taste Award 2023 จากสถาบัน International Taste Institute ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม การจิบน้ำแร่จึงช่วยเสริมรสชาติความอร่อยให้กับทุกเมนูอาหาร ทั้งคาวและหวาน สร้างความชัดเจนของรสแท้ที่มีในทุกวัตถุดิบอาหาร ทั้งยังเหมาะกับการดื่มเพื่อเคลียร์พาเลทไวน์ขวดพิเศษอีกด้วย

น้ำแร่ VAVA ถูกเลือกมาเสิร์ฟพร้อมเซตอาหารของ Moon Shadow ที่เน้นประสบการณ์ของรสชาติอาหารแต่ละเมนู รวมถึงการเลือกสรรวัตถุดิบที่เป็นสุดยอด รับรองว่าถูกใจสายกินดื่มอย่างแน่นอน

จากการประสบความสำเร็จของ Moon Shadow ที่ถูกสำรองที่นั่งเต็มเกือบทุกวันตั้งแต่เปิดมา คุณเป๊ก สัณณ์ชัย จึงเริ่มคิดถึงแผนการเปิดเป็นร้านอาหารเต็มรูปแบบที่บริเวณสุขุมวิท ซอย 11 ประมาณต้นปี 2567 และยังมองไปถึงการคว้าดาวมิชลินมาประดับร้านอีกด้วย

สนใจร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษกับ Moon Shadow ที่เสิร์ฟอาหารเมนูรสเลิศพร้อมน้ำแร่บริสุทธิ์ VAVA สามารถติดต่อสำรองที่นั่ง Moon Shadow ได้ที่ Line : line.me/ti/p/vYB2Tvf8nG โทร. : 094 984 8888