"อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา" ผู้สร้างปาฏิหาริย์จากความตั้งใจจริง

ไอน์สไตน์เคยกล่าวว่า มีสองวิธีในการใช้ชีวิต ทางหนึ่งคือใช้ชีวิตเสมือนไม่มีปาฏิหาริย์ หรืออีกทางคือใช้ชีวิตเสมือนทุกอย่างเป็นปาฏิหาริย์!! สำหรับ “ต๊อบ-อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ซีอีโอผู้มุ่งมั่นแห่งกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เขาเชื่อมั่นอย่างสุดใจว่า “ไม่มีปาฏิหาริย์ใดเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้ามีความตั้งใจจริง” เพราะนี่คือคาถาชีวิตที่บิดาผู้ล่วงลับ “เจ้าสัววิชัย ศรีวัฒนประภา” ฝากไว้ให้เป็นพลังใจ โดยเฉพาะในยามที่ต้องฟันฝ่าเศรษฐกิจนำพาธุรกิจให้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ เมื่อโควิด-19 แพร่ระบาดไปทั่วโลกตั้งแต่ต้นปี 2020 การเดินทางและการท่องเที่ยวต้องหยุดชะงักทันที หลายประเทศรวมถึงประเทศไทย ประกาศล็อกดาวน์ปิดสนามบินข้ามปี เหลือไว้แต่แอร์พอร์ต และร้านค้าปลอดภาษีที่ร้างผู้คน

ช่วงต้นปี 2020 แผนการรีแบรนด์ใหญ่เพื่อพัฒนาธุรกิจดิวตี้ฟรี และการรุกระบบการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ถูกเร่งนำมาใช้เร็วขึ้นกว่าเดิม เพื่อหาวิธีให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ โดยมีเดิมพันสำคัญเป็นชีวิตของพนักงานกว่าหมื่นคน

“ปี 2020 เป็นปีที่เราต้องพึ่งปาฏิหาริย์มากที่สุด เป็นปีแห่งความท้าทายจากวิกฤติโควิด–19 เป็นบททดสอบสำคัญที่เตือนเราว่าต้องไม่หยุดอยู่กับที่ อะไรที่เคยทำ เราจะทำแบบเดิมไม่ได้ ต้องมองไปข้างหน้า และทบทวนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อหาทางออกให้กับปัญหาตลอดจนลงมือทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย”

ในครั้งนั้น เขาพลิกเกมธุรกิจเพื่อสู้กับวิกฤติโควิด-19 โดยรวมพลังพนักงานสร้างเครือข่ายขายสินค้าออนไลน์ ภายใต้โครงการ “KING POWER TEAM POWER” เราขายด้วยกัน เราได้ด้วยกัน เพื่อปลุกพลังให้เกิดความร่วมมือร่วมใจกันภายในองค์กร แม้จะไม่สามารถสร้างยอดขายชดเชยของเดิมได้ 100% แต่ก็ทำให้เหล่าพนักงานได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆในการขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ และวางรากฐานให้ธุรกิจยุคใหม่มาจนถึงปัจจุบัน

“ในช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิด-19 ความร่วมมือร่วมใจของพนักงานทุกระดับเป็นพลังใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวผ่านมาได้ ทำให้เกิดแนวคิด “WE are powerful than I” นำมาต่อยอดเป็น Brand Idea ขององค์กร ซึ่งก่อเกิดจากความมีส่วนร่วมของพนักงานทุกคนในการสร้างพลังแห่งความเป็นไปได้ และกลายเป็นหัวใจหลักในการปรับทัพใหม่ของคิง เพาเวอร์ ภายใต้แนวคิด “THE POWER OF POSSIBILITIES” ชีวิตไม่หยุดค้นหาความเป็นไปได้ โดย คิง เพาเวอร์ มุ่งเน้นที่จะค้นหาและสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ในการเดินทางเพื่อผู้คนทั่วโลก”

เพื่อรองรับการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบในปี 2023 กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ยังได้เตรียมเปิดดิวตี้ ฟรีใหม่อีกสองแห่งคือ อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite Building) รองรับผู้โดยสารได้ราว 151,000 รายต่อวัน และ King Power Downtown Duty Free บนทำเลธุรกิจใจกลาง CBD รวมพื้นที่เชิงพาณิชย์ร่วม 10,000 ตารางเมตร มีมูลค่าการลงทุนกว่าสามพันล้านบาท ตั้งเป้ารองรับนักท่องเที่ยวราว 50,000 คนต่อวัน นับเป็นอีกก้าวสำคัญในรอบ 3 ทศวรรษ ของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์

ภายใต้แนวคิดสำคัญ “THE POWER OF POSSIBILITIES” ชีวิตไม่หยุดค้นหาความเป็นไปได้ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จะยืนหยัดขับเคลื่อนธุรกิจคนไทยให้ก้าวสู่มิติใหม่ระดับสากล ผ่านกลยุทธ์ 4Es คือ 1. Enable ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยนำเทคโนโลยีและวัฒนธรรมใหม่ๆของโลกดิจิทัลมาบริการ 2. Encourage ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ มุมมองล้ำสมัยของบุคลากร และพันธมิตรทางธุรกิจ 3. Explore ส่งมอบความเป็นไปได้ใหม่ๆ ของประสบการณ์การเดินทางและการใช้ชีวิตให้กับผู้บริโภค และ 4. Empower จุดประกายให้ผู้คนทั่วโลกได้ออกมาใช้ชีวิตในทุกวันให้พิเศษกว่าเดิม พร้อมติดอาวุธใหม่ “Digital Transformation” ให้บริการด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรมสินค้าที่ทันสมัย และเซอร์วิสโซลูชั่นใหม่ๆ ทั้งในสนามบิน และใจกลางเมือง

งานนี้ “เดอะต๊อบ-อัยยวัฒน์” เขย่าโครงสร้างธุรกิจใหม่จากเดิม 4 เป็น 8 แกนหลัก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงาน ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจสินค้าปลอดอากร (Travel Retail), กลุ่มธุรกิจค้าปลีก (Retail), กลุ่มธุรกิจอาหาร (Dining), กลุ่มธุรกิจโรงแรม (Hospitality), กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคและบริโภค (Consumer Products), กลุ่มธุรกิจสร้างสรรค์ประสบการณ์ (Travel Experiences), กลุ่มธุรกิจกีฬา (Sports) และกลุ่มกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ๆอย่างรวดเร็วและครบครัน ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวและช็อปปิ้ง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เติมเต็มทุกความต้องการของชีวิตที่หลากหลายให้แก่ผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ในปีที่ผ่านมายังมีการปรับโฉมพื้นที่ภายในสนามบินสุวรรณภูมิครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 12 ปี เพื่อให้เป็น “World Junction” ที่รวมแบรนด์ชั้นนำระดับโลกมากกว่า 20 แบรนด์ไว้ในที่เดียว เพื่อสร้างปรากฏการณ์ “ดิวตี้ ฟรี เวิลด์คลาส ช็อปปิ้ง เดสติเนชัน” ให้สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาค พร้อมเปิดตัว “คิง เพาเวอร์ มหานคร” เต็มรูปแบบ ภายใต้คอนเซปต์ “THE MAHANAKHON OF LIVES มหานคร หนึ่งเดียวของทุกคน” โดยมีโรงแรมเดอะสแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร เป็นแม่เหล็กสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

ล่าสุด “เดอะต๊อบ-อัยยวัฒน์” ยังสั่งลุยให้ปรับทัพ “E–Commerce Ecosystem” ทั้งระบบ พร้อมเผยโฉมใหม่ KINGPOWER.COM ภายใต้คอนเซปต์ “SHOP ALL POSSIBILITIES IN ONE CLICK!” คลิกเดียวจบ ช็อปครบทุกความเป็นไปได้ ผนวกแอปพลิเคชัน FIRSTER.COM เข้ามาอยู่ใน KINGPOWER.COM มีสินค้าบนแพลตฟอร์มรวมกว่า 250,000 รายการ เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และส่งมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งกว่าให้นักช็อปทุกคน ทั้งที่มีไฟลท์บินและไม่มีไฟลท์บิน โดยได้สีสันจากอินฟลูเอนเซอร์รุ่นใหม่อย่าง เจเจ, ต้าเหนิง, 4EVE และเจฟ ซาเตอร์
มารับหน้าที่เป็น “THE POSSIBILITIES MAKERS” ตัวแทนแคมเปญการตลาดจับใจคนรุ่นใหม่ เพื่อส่งต่อแนวคิดชีวิตไม่หยุดค้นหาความเป็นไปได้

“2–3 ปีที่ผ่านมา คิง เพาเวอร์ ได้ก้าวผ่านวิกฤติโควิด–19 ที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อสังคมและเศรษฐกิจโลก ทั้งในภาคของธุรกิจ ผู้ประกอบการ และประชาชน เราต้องพลิกกลยุทธ์ลุกขึ้นมาปรับรูปแบบธุรกิจรับศึกโควิด–19 ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยการผนึกพันธมิตรและพนักงาน เปิดตัวโครงการเฉพาะกิจทางออนไลน์หลายแคมเปญเพื่อความอยู่รอด อาทิ “SHOP SAVE STAY SAFE” ไม่มีไฟลท์บินก็ช็อปได้, “KING POWER TEAM POWER” ที่เปลี่ยนพนักงานกว่า 12,000 คน สู่นักขายออนไลน์มืออาชีพ และโครงการ “THAILAND SMILES WITH YOU” #ยิ้มให้โลกให้โลกยิ้ม ส่งกำลังใจให้ผู้คนทั่วโลกด้วยรอยยิ้มของคนไทยทุกคนผ่านสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ นอกจากนี้ ยังเตรียมความพร้อมรับการกลับมาของการท่องเที่ยวในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนรีโนเวทพื้นที่ดิวตี้ฟรีและปรับปรุงตกแต่งร้านค้าภายในสนามบินสุวรรณภูมิครั้งใหญ่, ขยายธุรกิจรับเทรนด์ช็อปปิ้งออนไลน์และพฤติกรรมนักช็อปรุ่นใหม่ ด้วยการเปิดตัว “FIRSTER” มัลติแพลตฟอร์มแห่งการช็อปปิ้งสายบิวตี้และไลฟ์สไตล์ในรูปแบบ O2O ทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ตามด้วย “FIRSTER” แฟล็กชิปสโตร์ ณ คิง เพาเวอร์ มหานคร และสยามสแควร์ เรายังถือโอกาสนี้เปิดตัว “คิง เพาเวอร์ มหานคร” เต็มรูปแบบ เพื่อให้เป็นแลนด์มาร์กการท่องเที่ยวใจกลางกรุงเทพฯ โดยมีโรงแรมเดอะสแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร เป็นแม่เหล็กสำคัญ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนงานธุรกิจเพื่อกระตุ้นบรรยากาศการท่องเที่ยว ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในอนาคต และส่งต่อพลังแห่งความเป็นไปได้ให้คนไทยทุกคน”.

ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ