ค้นหาความต้องการของตัวเองจนเจอ สิทธิภูมิ ลีสวัสดิ์ตระกูล ผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรงที่ก้าวข้ามงานวิศวกรมาสู่นักการตลาด ด้วยใจที่ชื่นชอบงานสร้างสรรค์ที่ไม่อยู่ในกรอบ จึงได้มุ่งเดินตามฝันด้วยความตั้งใจ
คุณบิ๊ก-สิทธิภูมิ ลีสวัสดิ์ตระกูล ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารบริษัท โทริ เอเจนซี่ จำกัด มาร์เกตติ้งเอเจนซีอนาคตไกล ที่คุณบิ๊ก ตั้งใจปั้นให้เป็นที่รู้จักของทุกคน เล่าถึงเส้นทางการทำงานว่า ก่อนหน้าที่จะมาตั้งบริษัท เคยทำงานในสายวิศวะที่ตัวเองเรียนมา โดยหลัง จากจบวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขาอุตสาหการ ได้มาทำงาน ที่ดิ เอ็มควอเทียร์ ช่วงกำลังก่อสร้างอยู่เกือบ 2 ปี จากนั้นก็ออกมาช่วยงานธุรกิจที่บ้านพักหนึ่ง แล้วมาทำงานเป็น Account Executive ที่บริษัทเอเจนซีแห่งหนึ่ง ซึ่งพอมาจับงานด้านนี้ก็รู้สึกชอบ สุดท้ายก็ได้มาตั้งบริษัทเอเจนซีของตัวเองในชื่อโทริ เอเจนซี่
“ผมชอบงานมาร์เกตติ้ง เพราะรู้สึกว่าสนุก ผมชอบทำงานที่มีเนื้อหา เป็นความคิดสร้างสรรค์ มีการออกไอเดียเป็นการตลาดที่โดนใจคือ งานไม่มีคำว่าถูก ไม่มีคำว่าผิด ผิดกับงานวิศวะที่เราต้องคำนวณโครงสร้างให้ถูกหมด แต่งานมาร์เกตติ้งเป็นการคิดที่อิสระ โจทย์ก็คือ จะทำให้ลูกค้าเห็นเรามากที่สุดอย่างไร จะทำให้ลูกค้าประทับใจเรามากที่สุดอะไรแบบนี้ ซึ่งมันมีทางเลือกหลากหลายมาก ไม่มีถูกไม่มีผิด มีแต่ความว่า อันนี้ไอเดียเจ๋งมาก อันนี้แปลกใหม่ ดูน่าสนุก ซึ่งการที่ลูกค้าตอบเราว่า อันนี้ดูน่าสนุก หรือเวลาที่ไปทำอีเวนต์ลูกค้าบอกประทับใจ ผมจะรู้สึกที่ดีมาก ที่ทำงานแล้วรู้สึกมี
คุณค่าเลยรู้สึกเอนจอยกับการทำงานแบบนี้ครับ” ผู้บริหารไฟแรง โทริ เอเจนซี่บอกถึงงานที่ตัวเองรัก
...
ในการทำงานธุรกิจสายนี้ ผู้บริหารคนเก่งคนนี้บอกว่า งานมาร์เกตติ้งเอเจนซี เป็นธุรกิจที่มีคู่แข่งเยอะ ใครๆก็อยากทำและมีแบรนด์ใหญ่ๆ บริษัทใหญ่ๆทำอยู่แล้ว สิ่งที่เราจะต้องทำ คือเราต้องหาจุดเด่นของตัวเอง ซึ่งเราเด่นในเรื่องออฟไลน์ และอีเวนต์ จึงต้องพยายามสร้างบริษัทให้เป็นที่รู้จัก อยากจะเป็นบริษัทออฟไลน์ที่ใหญ่ทุกคนต้องรู้จักบริษัทนี้นี่คือภาพที่มองไว้
“ในการทำงานผมไม่มีคติประจำใจเท่ๆเหมือนคนอื่น สิ่งที่ผมพยายามทำ คือผมพยายามทำทุกงานให้ดีที่สุด เพราะว่าเราไม่ใช่บริษัทใหญ่ เราต้องดิ้นรนในตลาด ที่ต้องแย่งมาร์เกตติ้งแชร์ ผมรู้สึกว่า ผมต้องทำให้ดีที่สุด ให้ลูกค้าที่เขาจ้างเรารู้สึกว่าคุ้มมาก ทำไมเราไม่รู้จักเจ้านี้มาตั้งแต่แรก หรือให้รู้สึกว่าคุ้มมาก ใช้อีกดีกว่า ให้เขาเติบโตไปกับเรา เวลาทำงานผมจึงลุยมาก ไปหน้างานทุกงานที่สามารถไปได้ ลงรายละเอียดเอง ซึ่งก็ติดนิสัยจากการเป็นวิศวะ เลยค่อนข้างละเอียด มีการวางแผนเป็นสเต็ป 1 2 3 4 เป็นขั้นเป็นตอนที่เอาหลักคิดแบบวิศวะมาทำงานการตลาดครับ”...นี่คือ ความมุ่งมั่นในการทำงานของผู้บริหารไฟแรงคนนี้.