วงการการ์ดสะสมโดยเฉพาะการ์ดนักฟุตบอล เป็นของสะสมที่ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ แม้เป็นความจริงอยู่ว่า การ์ดนักฟุตบอลเคยได้รับความนิยมอย่างสูง ก่อนที่จะร่วงตกลงสู่จุดต่ำที่สุดในช่วงที่ประเทศไทยประสบกับวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540
แต่ทุกอย่างบนโลกเมื่อมีขึ้นก็ต้องมีลงเป็นดั่งวัฏจักร การ์ดสะสม การ์ดนักฟุตบอล เริ่มกลับมาอยู่ในกระแสความนิยมอีกครั้ง หลังจากที่เริ่มก้าวผ่านวิกฤติในปี 40 มาได้สักระยะ จนกระทั่งเวลาเดินทางมาถึงปี 2560 หรือเมื่อ 5 ปีก่อน ที่ทำให้วงการการ์ดกีฬากลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง
สาเหตุสำคัญที่เป็นเช่นนั้น เพราะว่านักฟุตบอลในดวงใจของใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นคริสเตียโน โรนัลโด และลิโอเนล เมสซี กำลังนับถอยหลังถึงวันอำลาสนาม อำลาชีวิตนักกีฬาอาชีพ ส่งผลให้ผู้คนจำนวนมากเกิดความรู้สึกว่า จำเป็นต้องมีไอเทม หรือมีคอลเลกชันอะไรสักอย่างที่ชวนให้นึกถึงวันวานของ “ฮีโร่ในดวงใจ” จึงทำให้ผู้คนเริ่มหันมาให้ความสนใจการ์ดนักกีฬาอีกครั้งหนึ่ง
ในปี 2565 วงการการ์ดสะสมไม่ได้มีแค่นักสะสมเท่านั้น ด้วยความที่ของสะสมชนิดนี้ เปรียบดั่งสินทรัพย์ที่ผู้คนสามารถจับต้องได้ มันถูกแปรสภาพกลายเป็นโอกาสทองฝังเพชรของนักลงทุน ไม่ต่างจากสินค้าที่เรารู้จักกันดีอย่างนาฬิกา สนีกเกอร์ หรือกระเป๋าสะพายแบรนด์เนมสุดหรู โดยเฉพาะถ้าหากคุณเป็นเจ้าของการ์ดกระดาษที่มีรูปภาพพร้อมลายเซ็น ไปจนถึงชิ้นส่วนเสื้อของผู้เล่นอย่างคริสเตียโน โรนัลโด, ลิโอเนล เมสซี, เลอบรอน เจมส์ และดาวรุ่งอย่างคิเลียน เอ็มบัปเป กระดาษธรรมดาๆ จะแปรเปลี่ยนเป็นสินทรัพย์ที่ไม่อาจประเมินค่าได้ทันที
...
ประจวบเหมาะกับในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ กำลังจะเริ่มต้นขึ้นพอดี ไทยรัฐออนไลน์ มีโอกาสได้พูดคุยกับ สุทธี ยอดแก้ว กรรมการผู้จัดการ บ.เดอะ การ์ดแซด จำกัด ตัวแทนจำหน่ายการ์ดและสติกเกอร์ฟุตบอลโลก 2022 ของค่ายพานินี (Panini) เบอร์ใหญ่ในวงการของสะสมของโลก
ตลาดโตขึ้นตามวัยของผู้ซื้อ
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ งวดเข้ามาทุกขณะ สุทธี ในฐานะตัวแทนจำหน่ายสินค้าการ์ดสะสมฟุตบอลโลก 2022 เปิดเผยว่า กระแสของฟุตบอลโลก 2022 มีกระแสที่ดีกว่าฟุตบอลโลก 2018 เมื่อ 4 ปีที่แล้วเป็นอย่างมาก โดยมีเหตุปัจจัยมาจากการที่คนที่ชื่นชอบในกีฬาฟุตบอลเติบโตขึ้น มีอายุมากขึ้น จนมีกำลังทรัพย์ที่พร้อมจะตามหา “ฮีโร่” นักฟุตบอลในดวงใจของพวกเขาแล้ว
ในเวลาเดียวกัน ฟุตบอลโลก 2022 ยังเป็นการแข่งขันระดับนานาชาติครั้งสุดท้ายของทั้งคริสเตียโน โรนัลโด และลิโอเนล เมสซี จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่ทำให้นักสะสมทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ อยากที่จะโจนทะยานเข้ามาร่วมสะสมสินค้าที่ระลึกถึงนักเตะเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นใบธรรมดา ใบระดับแรร์ ล้วนมีค่าต่อจิตใจทั้งหมด
“New Comer ในวงการการ์ดนักฟุตบอลก่อตัวและเติบโตเหมือนกันทั้งโลก ไม่ใช่เฉพาะแค่ในประเทศไทย ผมคิดว่ามันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจทีเดียว” สุทธี กล่าว
ทั้งนี้ ฟุตบอลโลก มันเป็นการแข่งขันฟุตบอลที่มีเสน่ห์ในตัวเอง กล่าวคือ ฟุตบอลโลกมันเป็นทัวร์นาเมนต์สำคัญ ต้องใช้เวลารอคอยนานถึง 4 ปีจะมีสักครั้งหนึ่ง ไม่ว่าสถานการณ์ของโลกจะเป็นอย่างไร กระแสของฟุตบอลโลกสามารถจุดติดได้อย่างง่ายดาย
สุทธี กล่าวต่อไปว่า จนถึงตอนนี้กระแสฟุตบอลโลก 2022 ดูจะยังไม่คึกคัก กระแสและการพูดถึงก็ยังเบาบาง ธรรมดาไม่มีอะไรโดดเด่น ซึ่งก็คล้ายกับฟุตบอลโลก 2018 แต่ไม่กี่วันก่อนที่การแข่งขันคู่แรกจะเริ่มต้นขึ้นระหว่างเจ้าภาพรัสเซีย และซาอุดีอาระเบีย ถึงตอนนั้นทุกคนก็พูดถึงฟุตบอลโลกกันหมด
“ทุกชีวิตหายใจเป็นฟุตบอล นัดต่อนัด คืนต่อคืน วันต่อวัน ทุกคนพูดถึงแต่ฟุตบอลโลก แม้แต่คนที่ไม่ได้ดูฟุตบอลมาก่อนก็ตาม”
...
จากของสะสมสู่สินทรัพย์
ถ้าหากพูดถึงเฉพาะการ์ดสะสมที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลโลก สุทธี ระบุว่า คอลเลกชันสำหรับฟุตบอลโลก ไม่ได้มีให้ซื้อหาเป็นเจ้าของทุกปี แต่มันจะมีเฉพาะปีที่มีการแข่งขันฟุตบอลโลกเท่านั้น
“ตามปกติแล้ว พานินี ซึ่งได้รับลิขสิทธิ์ถูกต้องอย่างเป็นทางการของฟีฟ่า จะวางจำหน่ายชุดการ์ดสะสมของฟุตบอลโลกได้เฉพาะช่วงเวลาดังกล่าวเท่านั้น กล่าวคือมันมี Time period ที่ชัดเจน”
ดังนั้นแล้ว คอลเลกชันที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลโลก 2022 จะยิ่งมีราคาค่างวดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ฟุตบอลโลกรูดม่านปิดฉากลง หรือวันที่เราได้เห็นซุปเปอร์สตาร์ดวงใหม่ และทีมแชมป์ทีมล่าสุด นั่นเป็นเพราะว่าของเหล่านี้ “ไม่ผลิต” อีกแล้ว นักสะสมที่ซื้อไม่ทันในช่วงราคาป้าย เตรียมทำใจสถานเดียวเลยว่า อาจต้องซื้อของในราคาที่แพงกว่าปกติ
“บรรดานักเตะหน้าใหม่ หรือรุกกี้ (Rookies) ผมคิดว่าน่าสนใจที่สุดนะ เพราะหาง่าย แล้วถ้าเกิดทำผลงานได้ดี การ์ดรุกกี้แบบนี้จะยิ่งมีราคาแพงขึ้น และหายากด้วย” สุทธี กล่าวต่อไปว่า การ์ดของนักฟุตบอลกับตัวนักฟุตบอลมีการแปรผันตรงกัน ถ้านักฟุตบอลมีฝีเท้าดีขึ้นเรื่อยๆ ราคาของการ์ดนักเตะคนนั้นก็จะมีราคาแพงตามไปด้วย จนนักสะสมที่มีการ์ดรุกกี้คนนั้นอยู่ ก็เลือกที่จะไม่ปล่อยของกันง่ายๆ เพราะมันกลายเป็นสินค้าล้ำค่าไปแล้ว ถ้าหากอยากได้จริงๆ ก็ต้องจ่ายหนักสักหน่อย
...
อย่างไรก็ตาม ตลาดการ์ดนักฟุตบอลได้แพร่กระจายไปทั่วโลก จากเดิมที่เคยเป็นของสะสม แปรสภาพกลายเป็น “สินทรัพย์” ที่เปิดโอกาสให้เกิดการลงทุน
“จากนักสะสมทั่วไป ก็จะเริ่มมีนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร ซึ่งทำให้ตลาดการ์ดนักฟุตบอลโตขึ้น เพราะมันไม่ได้มีแค่คนที่ชื่นชอบในกีฬาฟุตบอลอย่างเดียวอีกแล้ว”
สุทธี บอกว่า การเข้ามาของนักลงทุนก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะจากเดิมที่การ์ดนักฟุตบอลเป็นของสะสม ก็กลายเป็นของมีราคา การแลกเปลี่ยน (Trade) ทำได้ยากขึ้น เพราะมีเรื่องของราคาเป็นตัวตั้ง “การพูดคุย” ก็ยากขึ้น
“สมมติว่า คุณเชียร์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดได้การ์ด ‘เบราส์ เออร์ลิง ฮาแลนด์’ ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สมัยก่อนคุณสามารถเอาการ์ดฮาแลนด์ไปแลกกับเพื่อนที่เชียร์แมนฯ ซิตี้ ได้เลย แล้วก็เอาการ์ดนักเตะแมนฯ ยูฯ กลับคืนมา แต่พอมีเรื่องของราคาและการลงทุนเข้ามาแล้ว ไม่ว่ายังไงการเทรดไม่มีทางเกิดขึ้นง่ายๆ ต้องเปลี่ยนไปเป็น ‘การซื้อขายแทน’ เพราะการ์ดนักฟุตบอล ถือเป็นสินทรัพย์ไปแล้ว”
...
ฟุตบอลโลกร้อนแรงสวนกระแสเศรษฐกิจโลก
ในเวลาเดียวกัน เมื่อตลาดโตขึ้น จึงได้เกิดการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ ยกตัวอย่างเช่น ชุดการ์ดสะสมฟุตบอลโลก 2022 แบบ Unbox (ไม่แกะซีล ไม่แกะกล่อง) เพราะรูปแบบนี้ขายง่าย ไม่ต้องการผ่านการตรวจสอบเยอะ เพราะมันอยู่ในแพ็กเกจอยู่แล้ว ถ้าหากมีโลโก้ มีบาร์โค้ดชัดเจน ไม่ต้องส่งให้หน่วยงานที่ได้รับการการันตีตรวจสอบเรื่องการ์ดจริง-การ์ดปลอมให้ยุ่งยาก
ประการต่อมา การขายแบบ Unbox มันสามารถปั่นราคาได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะการที่ขายแบบไม่แกะกล่อง ชวนให้ผู้ซื้อได้ลุ้นว่าของที่อยู่ข้างในกล่องจะเต็มไปด้วยสุดยอดนักเตะคนไหน ถ้าหากเปิดได้ลิโอเนล เมสซี, คริสเตียโน โรนัลโด, คิเลียน เอ็มบัปเป การันตีกำไรเอาไว้ได้เลย แต่ถ้าไม่ได้อะไร หรือศัพท์ในวงการที่เรียกว่า “เกลือ” ก็ต้องทำใจ
“ผมเองก็มีกล่องการ์ดฟุตบอลโลก 2018 แบบที่ยังไม่แกะ ผมจำได้ว่าราคาป้ายถูกตั้งขายที่ 4,500 บาท แต่หลังจบฟุตบอลโลก กล่องนั้นกล่องเดียว ราคากลางสูงถึง 180,000 บาท จากระยะเวลาเพียง 4 ปีเท่านั้น ดังนั้นไม่แปลกที่นักลงทุนจะก้าวเข้ามาสู่โลกของสะสมของวงการฟุตบอล เพราะมันถือเป็นการลงทุนที่ใช้เงินไม่เยอะมาก แต่โอกาสทำกำไรมีสูง”
สิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง สำหรับมุมมองของตัวแทนจำหน่ายการ์ดฟุตบอลโลก 2022 นั่นคือเรื่องของสภาพเศรษฐกิจที่สามารถพูดได้ว่าไม่ดีนัก จนเกิดความกังวลว่า ผู้บริโภคจะมีกำลังซื้อหรือไม่
“เอาเข้าจริง จากเดิมที่คิดว่ากำลังซื้อคงไม่เยอะ แต่กลายเป็นว่าผมประเมินผิดไปเหมือนกัน ตอนแรกผมประเมินว่า คอลเลกชันของสะสมฟุตบอลโลก ไม่น่าจะขายดีมากนัก แต่ตรงกันข้ามผลตอบรับของฟุตบอลโลก 2022 กลับแรงกว่าฟุตบอลโลก 2018 ด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะมีนักลงทุนเข้ามาสู่ตลาดนี้เต็มตัวเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้ สัดส่วนระหว่างนักลงทุนกับนักสะสมน่าจะอยู่ที่ 50:50”
ท้ายที่สุด สุทธี ได้ฝากคำแนะนำถึงผู้ที่สนใจอยากเข้าวงการการ์ดนักฟุตบอลว่า อยากให้มองที่ตัวเองก่อนว่าชอบอะไร มีงบเท่าไร เพราะอันที่จริงแล้ว ของสะสมมันมีคุณค่าในตัวเอง ไม่จำเป็นต้องมีราคาสูง ถึงจะเป็นของดี ของที่มีราคาไม่แพงก็สามารถมีราคาสูงได้
“ขึ้นอยู่กับความรัก ความชอบของเรา ถ้าเรารักและเราชอบมากพอ ของเหล่านี้ก็จะมีคุณค่ามากที่สุด” สุทธี กล่าวปิดท้าย