สุราก้าวหน้า คืออะไร ประชาชนทั่วไปมีส่วนได้ส่วนเสียอย่างไรกับกฎหมายนี้บ้าง และทำไมจึงควรมี พ.ร.บ. นี้ เรารวมคำตอบมาให้แล้ว

สุราก้าวหน้าคืออะไร

สุราก้าวหน้า หรือ ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า คือ เงื่อนไขในการขออนุญาตผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2560 ตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ปี 2560 โดย พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ร่างกฎหมายฉบับนี้จะเป็นตัวกำหนดกฎเกณฑ์ที่จะช่วยกระจายรายได้ให้ครอบคลุมไปถึงผู้ประกอบการขนาดย่อยทุกราย และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการผูกขาดรายได้แก่กลุ่มนายทุนใหญ่เพียงกลุ่มเดียว

ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ‘สุรา’ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภทถูกผูกขาดการผลิตอยู่กับทุนรายใหญ่ เนื่องจากพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 กำหนดให้เพียงผู้ที่มีกำลังการผลิตปริมาณมากเท่านั้นที่จะสามารถขออนุญาตผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ โดยเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2565 ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติผ่านวาระแรกของ “ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า” ที่นำเสนอโดย ส.ส.เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่พยายามเปิดช่องให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถขออนุญาตผลิตและจำหน่ายสุราได้

...

ขณะเดียวกันการผลักดัน พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ไม่เพียงแค่ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยเท่านั้น แต่ยังกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยในด้านต่างๆ ที่ประชาชนทั่วไปก็ได้รับผลประโยชน์นี้ด้วย ซึ่งพรรคก้าวไกลได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผลพลอยได้ที่จะได้รับจากกฎหมายสุราก้าวหน้าไว้ดังนี้

ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจาก พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า

1. เพิ่มรายได้เกษตรกร

เบียร์-สุราหมักจากข้าว ไวน์ หมักจากพืชพรรณผลไม้ต่างๆ กฎหมายสุราก้าวหน้าจะทำให้เราสามารถเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร พิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล เคยกล่าวไว้ว่า “ข้าวเก็บไว้ในโกดังมีแต่ราคาลด แต่ถ้าเก็บในไหในขวดบ่มเป็นสุราคุณภาพดี ราคามีแต่ขึ้น”

การมีกฎหมายสุราก้าวหน้าจะช่วยให้เราปลดปล่อยศักยภาพและความสร้างสรรค์ ให้นักปรุงสุราจากพื้นที่ต่างๆ สามารถคิดค้นวิธีการของตัวเองในการสร้างสรรค์สินค้าเกษตรให้เป็นสินค้ามูลค่าสูงให้ผู้บริโภคได้ลิ้มลอง ทำให้เกษตรกรต้นน้ำลืมตาอ้าปากได้

2. กระตุ้นการท่องเที่ยว

ไม่ใช่แค่รายได้จากสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้น สุราก้าวหน้ายังช่วยให้แต่ละท้องถิ่นดึงเอกลักษณ์ของตัวเองออกมา สุราก้าวหน้าสามารถสร้างเรื่องราวเพื่อเปิดประตูให้เราไปเรียนรู้และทำความรู้จักท้องถิ่นเหล่านี้ กระจายความน่าค้นหาของประเทศไทยไปสู่พื้นที่ต่างๆ

ตัวอย่างเช่น จ.แพร่ จะไม่ใช่เพียง “เมืองรอง” ที่รอคอยนักท่องเที่ยว แต่จะกลายเป็น “เมืองหลวงสุราก้าวหน้า” จากความรุ่มรวยของสุราท้องถิ่น และเราไม่ได้เชื่อว่ามีแค่จังหวัดแพร่ แต่เรื่องราวของพืชพรรณ ภูมิปัญญา และความสร้างสรรค์ของท้องถิ่นยังมีแบบนี้อีกทั่วประเทศ สุราก้าวหน้า คือประตูที่เปิดพาพวกเราไปค้นพบศักยภาพเหล่านี้

3. กระจายรายได้ให้ผู้ประกอบการรายย่อย

ในตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดเท่ากัน ประมาณ 400,000 ล้านบาท/ปี ประเทศญี่ปุ่นมีผู้ประกอบการมากกว่า 20,000 ราย ในขณะที่ไทยแบ่งผลประโยชน์กันในผู้ประกอบการเพียง 7 รายใหญ่เท่านั้น นี่คือประจักษ์พยานที่แสดงให้เห็นถึงการผูกขาดทางอำนาจของกลุ่มทุนในประเทศนี้ที่ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือกดไม่ให้หน่ออ่อนของเศรษฐกิจรากหญ้าได้เติบโต

ถ้าเราสามารถกระจายผลประโยชน์จากมูลค่าทางเศรษฐกิจเหล่านี้ไปสู่รายย่อยเพียงแค่ 10% นั่นหมายถึงเม็ดเงินกว่า 40,000 ล้านบาทในแต่ละปีที่จะไปเสริมเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้เติบโต

4. สร้างประเทศที่ไม่ผูกขาด

พูดให้ถึงที่สุด สุราก้าวหน้า ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของผู้ผลิตสุรากับผู้ดื่มสุรา ไม่ใช่เพียงเรื่องของศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ถูกปลดปล่อย แต่คือสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่าพลังของประชาชนสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจ เอาชนะกลุ่มทุนผูกขาดได้ ผ่านกลไกสภาตามระบอบประชาธิปไตย

ดังนั้น การผ่านกฎหมายสุราก้าวหน้า ซึ่งกำลังจะมีการพิจารณาในวาระที่ 2 โดยสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 2 พ.ย.นี้ ผู้ที่ได้รับประโยชน์และผลพลอยได้จากเรื่องนี้มากที่สุดคือประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อยที่ร่วมกันสร้างประเทศที่มีการแข่งขันเป็นธรรม เพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสเติบโตและก้าวหน้าอย่างเท่าเทียมกัน

ข้อมูลอ้างอิง: พรรคก้าวไกล, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw)