เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) ปรับเปลี่ยนวิธีการนำเสนอคอนเทนต์ โดยหลังจากนี้ จำนวนเรื่องของภาพยนตร์จะมีจำนวนน้อยลง แล้วหันมาเน้นที่คุณภาพของภาพยนตร์เป็นสำคัญแทน

จากการประกาศผลประกอบการของเน็ตฟลิกซ์ ประจำไตรมาสที่หนึ่งของปี 2022 พบว่า เน็ตฟลิกซ์ประสบปัญหาผู้ใช้งานลดน้อยลงเป็นครั้งแรก อีกทั้งคู่แข่งที่อยู่ในวงการภาพยนตร์และทีวีซีรีส์ อย่างดิสนีย์พลัส (Disney Plus) และเอชบีโอ แม็กซ์ (HBO Max) กำลังเขย่าบัลลังก์ผู้นำของเน็ตฟลิกซ์อย่างต่อเนื่อง

ด้วยเหตุผลข้างต้นจึงทำให้เน็ตฟลิกซ์ ต้องหันกลับมาดำเนินแผนงานตามรูปแบบปกติของวงการภาพยนตร์ฮอลลีวูด โดยการเน้นภาพยนตร์ที่คุณภาพมากกว่าจำนวนเรื่อง

สำนักข่าวฮอลลีวูด รีพอร์เตอร์ เปิดเผยว่า เน็ตฟลิกซ์ มีแผนปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการนำเสนอคอนเทนต์ของพวกเขามากขึ้น ซึ่งแม้ว่าแนวทางใหม่ของเน็ตฟลิกซ์ อาจยังไม่เห็นเด่นชัดในเร็ววันนี้ แต่เชื่อได้ว่า การสร้างภาพยนตร์ของเน็ตฟลิกซ์จะรอบคอบรัดกุมมากกว่าที่ได้เห็นตลอดสิบปีที่ผ่านมา

ในรอบทศวรรษที่ผ่านมา เน็ตฟลิกซ์ ไม่ได้เรียกตัวเองในฐานะบริษัทภาพยนตร์ หรือผู้ผลิตทีวีซีรีส์ แต่พวกเขามองตัวเองเป็นบริษัทเทคโนโลยี (Tech Company) ด้วยหน้าตักจำนวนเงินที่มีอยู่ในมือ จากแหล่งเงินทุนต่างๆ ทำให้เน็ตฟลิกซ์ไม่ต้องเอาใจผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ หรือโรงภาพยนตร์ รวมถึงยังมีระบบวิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นสิ่งที่คู่แข่งยังตามหลังเน็ตฟลิกซ์ สิ่งที่ได้เห็นก็คือ คอนเทนต์อันหลากหลายของเน็ตฟลิกซ์ เพื่อเอาใจฐานผู้ใช้งานที่มีอยู่จำนวนมาก

อย่างไรก็ดี ประเด็นสำคัญอยู่ตรงที่ว่า ภาพยนตร์ของเน็ตฟลิกซ์ ยังทำได้ไม่ดีพอ คุณภาพไม่สัมพันธ์กับจำนวนของปริมาณ อีกทั้งการเลือกเรื่องภาพยนตร์ที่จะทำเน็ตฟลิกซ์ยังตัดสินใจในเรื่องนี้ได้ไม่ดี เมื่อเทียบกับบริษัทภาพยนตร์จากฮอลลีวูด ซึ่งเลือกทำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ เพราะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า และมีการตัดสินใจที่ดีกว่า

...

การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ของเน็ตฟลิกซ์ จะส่งผลกระทบต่อภาพยนตร์หรือทีวีซีรีส์ที่เป็นแอนิเมชัน เนื่องจากว่า แอนิเมชัน ต้องการเงินลงทุนสูง แต่ได้รับผลตอบแทนต่ำ นอกจากนี้แล้ว ยังอาจรวมถึงภาพยนตร์แนวครอบครัวด้วย เพราะแนวภาพยนตร์แบบแอนิเมชันและครอบครัว เป็นงานที่ดิสนีย์ถนัดอยู่แล้ว จึงเป็นเรื่องยากไม่น้อยที่เน็ตฟลิกซ์จะไปสู้กับดิสนีย์ในแนวภาพยนตร์ประเภทนี้

ที่มา: Hollywood Reporter