เด็กวัดรุ่นเก่าคุ้นกับเรื่องเล่า หลวงปู่ หลวงพ่อ ตาทิพย์ หูทิพย์ ฟังภาษานกภาษาการู้เรื่อง เมื่ออ่านตำราพุทธศาสนา เรื่องมหัศจรรย์ทางจิต เรื่องอิทธิฤทธิ์ ก็สอดรับ...น่าจะเป็นจริงละหนา!

แต่จะจริงแท้สักแค่ไหน

จนมาอ่านเรื่อง ลาภลอย จากหนังสือ พ.สิริ วัชรานุกูล “เล่าให้ฟัง” (กองทุนศูนย์การเรียนวัดควรเนียง) อ๊ะ! ความเชื่อเรื่องนี้ชักจะมีเค้าจริง

ตอนหัวค่ำของคืนหนึ่ง ฉันนั่งพักอยู่ในสมาธิตื้นละเอียด ก็มี นิมิตปรากฏขึ้น เป็นนกกระจอกตัวผู้ตัวเมียคู่หนึ่ง

มันช่วยกันทำรังที่มุมชายคากุฏิตัวที่ฉันพัก พอตัวหนึ่งบินเข้า อีกตัวหนึ่งก็บินออก ไปคาบเอาใบหญ้า ต้นหญ้าแห้งมาทำรัง

มันสอดแซมเข้าทีละชิ้น ทีละอัน

พวกมันผลัดเปลี่ยนกันบินเข้า บินออกอยู่อย่างนั้น ตั้งแต่เริ่มต้นจนเป็นรังนกเรียบร้อย

ฉันนั่งดูมันทำรังด้วยความสนใจ รู้สึกเอ็นดูและเพลิดเพลินไปกับพวกมัน ขยันและเก่งน่ารัก ทั้งคู่

รังนกเสร็จเรียบร้อย นกกระจอกคู่ผัวตัวเมียก็นั่งคุยกัน

ตัวผู้กล่าวขึ้นว่า “เรา 2 คน ช่วยกันทำรังเสร็จแล้ว ต่อไปนี้ ก็พักผ่อนกันให้สบาย สัก 2-3 วัน”

นอกจากนกกระจอกจะใช้คำแทนตัวว่า “เรา” เหมือนคนมันยังพูดกันเป็นภาษาคน เสียงดังฟังชัด

(ทบทวน อ่านถึงตอนนี้ ก็พอเข้าใจว่า เรื่องนกกระจอกสองผัวเมียช่วยกันทำรัง ไม่ได้เกิดจากพระท่านเห็นด้วยสองตาจริง แต่ท่านเห็นจากภาพนิมิต

นี่คือรหัสไข ความเป็นไปได้ ทำไม หลวงปู่ หลวงพ่อรุ่นโบราณ ท่านฟังเสียงนกเสียงการู้เรื่อง)

ตอนเช้า ฉันเขียนเป็นเลขอารบิก 267 ลงกระดาษ แล้วพับใส่ไว้ในแก้วน้ำ ตั้งใจไว้ให้คนมีลาภลอย

เผื่อว่าจะมีใครขึ้นมาเจอเช้าบ้าง ในช่วงเวลาก่อนหวยออก

...

ผ่านไป 3-4 วัน ฉันได้ยินว่า หวยงวดนั้นออก 267

น่าเสียดาย มีลมขัดลาภ พาลาภลอยหายจ้อย ไม่มีใครได้ลาภลอยไปสักคน!

แล้วเจ้านกกระจอกคู่นั้น ก็ทิ้งรังหายเงียบไป (เอ๊ะ! ยังไง หรือว่านกกระจอกทำรังหลังกุฏิจริงๆ)

หลังจากงวดนั้นแล้ว ไม่เห็นพวกมันกลับมาออกลูกออกไข่ในรังอีก ทิ้งรังหายจ้อยไปเลย

มาถึงตรงนี้ พระท่านก็รำพึง...แค่สมาธิตื้นๆละเอียดๆหน่อย ก็ให้ลาภได้แล้วนะ

ดูเหมือนพระเจ้าของสมาธิฯท่านเคยถูกทัก ท่านจึงบอกเหมือนตอบว่า “ฝึกสิ ใครอยากได้ลาภลอยเจ๋งๆ ทำเองเลย ไม่ต้องไปขอพระ” ประโยคนี้ดูจะตั้งใจสื่อกับคนบ้าหวย

ประโยคต่อมา พระท่านดูจะสื่อกับพระด้วยกัน “เอ้อ!ใครที่ชอบว่า คนอื่นทำสมาธิ หวังลาภ หวังรวย หรืออยากเห็นนรก สวรรค์ อะไรพวกนั้น เป็นพวกมิจฉาสมาธิ ไม่ใช่สัมมาสมาธิ

ก็ควรนั่งลงทำเข้าเองบ้าง อย่าทำแต่เสียงดังอยู่ข้างเดียว ลาภจะได้ลอยมาให้บ้าง!”

จบเรื่องลาภลอยที่พระท่านตั้งใจเล่าให้ฟังแค่นี้นะครับ

ผมเองเคยฝึกสมาธิ แบบอานาปานสติ ฉบับสวนโมกข์ ท่านอาจารย์พุทธทาสย้ำนักหนา ฝึกจิตให้หยุดคิด เริ่มแต่ วิตก วิจาร...ไม่นาน ปีติ สุข เอกัคคตา และอุเบกขา ก็จะตามมาเหมือนให้รางวัล ก็แค่นั้น

ส่วนอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ แบบที่ชาวบ้านเชื่อกัน พระท่านนั่งทางใน “ให้หวยแม่น” เป็นเรื่องเพ้อฝัน

แต่ก็ขอสารภาพนะครับ นั่งสมาธิเพื่อหยุดคิดมานาน ก็เริ่มเบื่อเหมือนกัน...อธิษฐาน ขอเห็นเลขสักครั้ง...ได้เลขกี่ครั้ง ลองเอาไปแทงหวย...ไม่เคยเจอลาภลอยเลยสักงวดเดียว.

กิเลน ประลองเชิง