แต่ก่อน...ชาวประมงปากแม่น้ำระยองที่คนรุ่นเก่าเรียก “คลองใหญ่” ปัจจุบันคือ...“ปากน้ำ” จะออกเรือไปทำประมงทีก็พึ่งความเชื่อต้องไปบอกกล่าว “เจ้าแม่ตะเคียน” ที่สถิตอยู่ภายในพระเจดีย์กลางน้ำ เพื่อคุ้มครองชีวิตกลางทะเลใหญ่ อีกทั้งโชคดี...หาสัตว์น้ำได้จำนวนมาก”
วัชรพล สารสอน ผอ.การท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง เล่าให้ฟังถึงตำนานของผู้คนน่านน้ำนี้อย่างน่าสนใจ...
พวกเขาออกหากินไกลนานเป็นสัปดาห์ยังทะเลสากล ใกล้กัมพูชา เวียดนาม จำเป็นต้องบนบาน ศาลกล่าวต่อเจ้าแม่ฯ แห่งชายเลนเจดีย์ปากน้ำระยอง
โดยใช้เครื่องเซ่นบูชาเป็นไก่ตัวผู้ตัวเมียที่ยังเป็นๆคู่กัน แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็น “ไก่ปูน” ที่ปั้นจำลองแทนของจริง และให้ผลสมหวังดังคำอธิษฐานเหมือนกัน

ณ บริเวณดังกล่าว...กินอาณาบริเวณกว้างไกลถึง 500 ไร่ อุดมสมบูรณ์ด้วยป่าชายเลน แหล่งอาหารที่ดีแก่สัตว์น้ำรุ่นเยาว์ก่อนไปเจริญ พันธุ์ยังทะเลลึก...แต่ท้องน้ำผืนนี้คงมีแต่ป่าปนดินเลน กับทางเดินของแม่น้ำระยอง อดีตไม่มีที่ดินและถนน...ให้ผู้คนสัญจรเหมือนเวลานี้ คนเดินเรือผ่านในยามนั้น ครั้นเห็นพระเจดีย์สีขาวงามสง่าอยู่กลางป่าห้อมล้อมด้วยสายน้ำ พลันรู้ในบัดดล...ถึงระยองหัวเมืองตะวันออกแล้ว ณ บัดนี้
...
เรือประมงแต่ละลำ...ที่เล็งเข็มทิศกลับสู่ฝั่งหลังงานทะเลก็เช่นกัน เมื่อได้เห็นพระเจดีย์องค์เดียวกัน ก็รู้และดีใจที่ได้กลับถึงเรือนชาน
นี่คือ...เรื่องเล่าที่เป็นตำนานพื้นบ้าน บ่งบอกถึงประวัติความเป็นมาของท้องถิ่น...แต่ข้อมูลความจริง “พระเจดีย์กลางน้ำ” หรือ “ป่าชายเลนเจดีย์กลางน้ำ ระยอง” เชื่อมถึง “เจ้าแม่ตะเคียน”...เป็นพระเจดีย์ที่สร้างขึ้นโดย “พระยาศรีสมุทรโภคชัยโชคชิตสงคราม (เกตุ ยมจินดา)” เจ้าผู้ครองเมืองสมัยนั้น
หรือเมื่อปีพุทธศักราช 2416 นับวันเวลาผ่านมาได้ 149 ปี
O O O
“พระเจดีย์กลางน้ำ” โดดเด่นด้วยรูปทรงระฆังสีขาวบริสุทธิ์ก่ออิฐถือปูนสูงราว 10 เมตร มีบันไดขึ้น 2 ข้าง ตรงกำแพงรอบฐานเจดีย์ 2 ชั้น ลูกกรงเป็นลวดลายดินเผาเคลือบสีเขียว ส่วนยอดมีบัลลังก์สี่เหลี่ยมและเสาหานรองรับปล้องไฉน ปลียอดส่วนบนเป็นเม็ดน้ำค้าง
ตั้งอยู่กลางป่าพันธุ์ไม้ชายเลนเนื้อที่ 52 ไร่ จากพื้นที่ราว 500 ไร่ บ้านปากน้ำ ต.ปากน้ำ อ.เมืองระยอง มีแม่น้ำระยองไหลผ่าน ลักษณะโดยรวมคล้าย “พระสมุทรเจดีย์ สมุทรปราการ” ที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 2 พุทธศักราช 2362 และเสร็จในแผ่นดินรัชกาลที่ 3

โดยมีนัย...“พระเจดีย์กลางน้ำ ระยอง” มีส่วนสร้างเพื่อให้คนเรือเห็นว่าใกล้แผ่นดินระยองแล้ว...เหมือน “พระสมุทรเจดีย์” ที่คนเรือแล่นผ่านจึงรู้ว่า...ใกล้กรุงเมืองหลวงแล้ว
ถึงกระนั้น...ป่าชายเลนเจดีย์กลางน้ำ ซึ่งอยู่ในเขตตัวเมืองระยองง่ายต่อการเดินทาง ทั้งคนเป็นเจ้าบ้านและนักท่องเที่ยวใกล้ไกล จะไปกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง
อาจจะกล่าวได้ว่าเป็น “อะเมซิ่ง ระยอง” แขนงหนึ่ง
ประเมิน สุขวารี วัย 58 ปี ชาวบ้านเรียก “ลุงเมิน” รองประธานวิสาหกิจชุมชนปากน้ำและที่ปรึกษากลุ่มอนุรักษ์ฟื้นฟูแม่น้ำระยองและป่าชายเลน อีกทั้งยังเป็นอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน ต.ปากน้ำ เล่าว่า...“น้อยคนนักจะรู้ว่าพระเจดีย์ที่เห็นงามสง่าภายนอก ส่วนภายในรู้มั้ย...มีสิ่งมหัศจรรย์ปาฏิหาริย์ปรากฏให้เห็นบ่อยครั้ง นั่นก็คือ...เสาไม้ตะเคียนที่ปักอยู่ในดินเลนท่วมเลยหัวเข่า ที่ชาวบ้านย่านนี้พากันเรียกว่าเจ้าแม่ตะเคียน ส่วนบริเวณโดยรอบสร้างเป็นกำแพงรั้วไม้ตะเคียนเช่นกัน แต่ทุกวันนี้ถูกดินเลนท่วมทับ”

...
แม้ว่าจะมองไม่เห็นแล้ว แต่สิ่งเหนือธรรมชาติก็ยังมีให้เห็นอยู่...เมื่อคืนเดือนเพ็ญอยู่ค่ำหนึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ขณะเข้าเวรยามท่ามกลางความเงียบสงบ ไม่มีผู้คนให้เห็นเพราะนอกเวลาอนุญาต บวกความหนาวเย็นที่โชยมาจากแนวป่าชายเลน...เขาเห็นหญิงสาวนางหนึ่งแต่งขาวสไบ เฉียง นั่งสำรวมอยู่บนพื้นขั้นบันไดองค์เจดีย์...ไม่นานภาพหญิงนางนั้นก็จางหายไปในองค์เจดีย์ทันที เห็นแล้วฉงน...ทำอะไรไม่ถูก
แต่ได้คำตอบในเวลาต่อมา “เจ้าแม่ตะเคียน” ประจำองค์ป่าชายเลนเจดีย์ปรากฏกายให้เห็น...มาดี ไม่ได้มาร้าย ความลี้ลับนี้ถูกเก็บอยู่นานวัน...และในที่สุดก็นำมาถ่ายทอดสู่ลุงเมิน
เพื่อยืนยันว่า...มี “เจ้าแม่ตะเคียน” จริงสิงสถิตอยู่คู่พระเจดีย์องค์นี้
O O O
ราวปี 2533 หรือ 2534...จำไม่ได้ชัดนัก ลุงเมินบอกว่า วันเพ็ญ เดือน 12 ของทุกปี จะมีงานฉลองห่มผ้าพระเจดีย์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองระยองจะขึ้นกระเช้าเครนรถยกของเทศบาลไปเปลี่ยนผ้าห่มผืนใหม่ เกิดมีนักข่าวสาวขอขึ้นไปด้วยเพื่อถ่ายภาพมุมสูง
ขณะที่ปราชญ์ท้องถิ่นผู้รู้ธรรมเนียมปฏิบัติ ร้องห้ามทัดทานเพราะเกรงจะไม่สมควร ที่หญิงสาวอยู่เหนือ “พระเจดีย์” และ “เจ้าแม่ตะเคียน” ที่ประดิษฐานอยู่เบื้องล่าง...แต่ก็ดื้อรั้นจะขึ้นไปให้ได้ พอเครนยกขึ้นไปเท่านั้น...หลายคนแทบ ไม่อยากจะเชื่อว่าอิทธิฤทธิ์เจ้าแม่ฯนั้นมีจริง เครนสั่นไหวโยกไปมาซ้ายทีขวาที

...
สลับขึ้นบนลงล่างไร้การบังคับ...สุดท้ายเครนหักทิ้งกระเช้า สะบัดร่างนายกเทศมนตรีกับนักข่าวลงมากองกับพื้นแบบสั่งสอนให้หลาบจำ จนต้องให้อาสาสมัครกลุ่มอนุรักษ์ฯขึ้นไปห่มแทน พร้อมทำพิธีขอขมา
เจ้าแม่ตะเคียน พระเจดีย์กลางน้ำ จะให้ “คุณ” มากกว่า “โทษ” ที่ว่ามานั้น...เหล่าข้าราชการจะนิยมมาอธิษฐาน ขอบารมีช่วยหนุนนำความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ขณะคนวัยหนุ่มสาวจะมาขอคู่ครอง ส่วนนักธุรกิจก็มุ่งมั่นตั้งใจมาขอความราบรื่นในการประกอบธุรกิจ
ขั้นตอนพิธีการมีอยู่ว่า “ผู้ขอ” จะต้องนำ “ผลไม้ไทย” ตั้งแต่ 3 ถึง 5...7...9 อย่าง มี “สีเหลือง” หรือ “แดง” มาเป็นเครื่องถวาย จากนั้นจะกล่าวคำขอหรือตั้งจิตอธิษฐานในใจ ซึ่งมีป้ายแสดงติดไว้ที่ฐานองค์เจดีย์ชัดเจน...และผู้ขอมักจะสำเร็จในสิ่งที่หวัง ยกเว้น...พวกพูดจาส่อเสียด หยาบคาย ก้าวล่วง เป็นนิสัย...
ด้วยว่า “เจ้าแม่ตะเคียน” ไม่ชอบคนจำพวกนี้...นี่คืออีกหนึ่งตำนานคืนวันเพ็ญเจดีย์กลางน้ำจังหวัดระยอง ที่เป็น “ศรัทธา”...“ความเชื่อ” ที่คู่เมืองระยองมาช้านาน...
“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.
รัก-ยม