“สิงห์ปาร์ค เชียงราย” ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดเชียงรายและภาคเหนือ ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด สถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรครบวงจรบนเนื้อที่นับพันไร่ ท่ามกลางบรรยากาศสุดว้าวเพราะโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงามของทิวเขาและทุ่งดอกไม้นานาชนิด ตั้งอยู่ในเขต ต.แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย โดยจุดท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลต์ นอกเหนือจาก "สิงห์สีทอง” สัญลักษณ์สำคัญที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าไร่ ภายในไร่ยังมีทะเลสาบขนาดใหญ่ ไร่ชาอู่หลง ทุ่งดอกไม้นานาพันธุ์ แปลงผลไม้นานาชนิด กิจกรรมแอดเวนเจอร์ รวมถึงจุดชมวิวแบบพาโนรามา 360 องศา ที่สามารถชมทิวทัศน์อันสวยงามของสิงห์ปาร์คได้อย่างเต็มตา รวมทั้งยังมีร้านอาหารที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสำหรับชมวิวอันงดงามยามเย็น ระหว่างการรับประทานอาหารอีกด้วย
นอกจากจะเป็นพื้นที่ทางด้านการท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายและได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยวแล้ว อีกหนึ่งจุดที่ถือเป็นไฮไลต์สำคัญของ “สิงห์ปาร์ค เชียงราย” ก็คือการแบ่งพื้นที่ 3,055 ไร่ จัดทำเป็นแหล่งปลูกผลิตผลทางการเกษตรที่มีคุณภาพแห่งหนึ่งของประเทศไทย และถือเป็นพื้นที่การเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงราย โดยได้ปลูกพืชผักผลไม้ระดับพรีเมียมแบบหมุนเวียนตามฤดูกาลตลอดทั้งปี มีการควบคุมปริมาณการปลูกและให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพเพื่อให้ได้ผลิตผลทางการเกษตรที่มีความสด สะอาด ปลอดภัยได้มาตรฐาน
สำหรับผลผลิตทางการเกษตรที่เป็นผลไม้เกรดพรีเมียมที่ “สิงห์ปาร์ค เชียงราย” ปลูกตามฤดูกาลและมีการควบคุมคุณภาพอย่างดี อาทิ “กล้วยหอมทอง Gros Michel Banana” ซึ่งเป็นกล้วยหอมที่มีความพิเศษกว่ากล้วยหอมพันธุ์อื่นๆ คือ มีผลขนาดใหญ่ น้ำหนักต่อลูกประมาณ 300-400 กรัม ปลูกในพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 400 เมตร ทำให้ปลอดจากโรคปานามา ดีซิส มีการควบคุมคุณภาพการปลูกที่เข้มข้น คัดสรรคุณภาพอย่างดี และมีแผนการส่งออกไปจำหน่ายประเทศญี่ปุ่นภายในปี 2565 ทั้งนี้ กล้วยหอมทอง ได้รับมาตรฐาน GAP, J-GAP การันตีในเรื่องคุณภาพ โดย J-GAP หรือ Japan GAP Foundation เป็นมาตรฐานที่เข้มงวดและดีที่สุดในการจัดการฟาร์มเพื่อให้เกิดความปลอดภัยด้านอาหารและความยั่งยืนทางการเกษตรของญี่ปุ่น รวมทั้งการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกับความปลอดภัยในการทำงานในฟาร์ม ซึ่งสิงห์ปาร์ค เชียงราย เป็นรายแรกที่ได้มาตรฐานดังกล่าว ทั้งนี้ยังมีผลไม้อื่นๆ ที่ได้รับใบรับรองสินค้าการเกษตรและอาหารที่มีคุณภาพหรือ GAP เป็นเครื่องการันตี อาทิ
“พุทราซื่อหมี่” Jujube เป็นพุทราที่มีเอกลักษณ์และสายพันธุ์พิเศษเฉพาะที่ไร่สิงห์ปาร์ค เชียงราย เท่านั้น พุทราซื่อหมี่มีความแตกต่างจากพุทราสายพันธุ์อื่นๆ คือ มีลักษณะผลเป็นรูปทรงกลมหรือรูปไข่ สิงห์ปาร์ค เชียงราย ได้นำพันธุ์พุทราซื่อหมี่เข้ามาจากต่างประเทศ นำมาพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์จนได้พุทราที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยมีเนื้อแน่น กรอบหวาน พุทราซื่อหมี่จะให้ผลผลิตในฤดูหนาวปีละครั้ง ช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์
“เมลอน” Japanese Melon ที่สิงห์ปาร์ค เชียงราย นำมาปลูกใน 2 สายพันธุ์ที่มีความพิเศษ โดยมีการนำเมล็ดพันธุ์เข้ามาจากญี่ปุ่น คือสายพันธุ์ “โมมิจิ” เมลอนเนื้อสีส้ม และสายพันธุ์ “คิโมจิ” เมลอนเนื้อสีเขียว หรือ Musk Melon เป็นเมลอนทรงกลม ลวดลายเข้มเด่นชัด ซึ่งเป็นลักษณะเด่นเฉพาะตัวของสายพันธุ์ญี่ปุ่นแท้ๆ มีเนื้อแน่นเนียน รสชาติหวานอร่อยกึ่งนุ่มกึ่งกรอบ ที่สำคัญเป็นเมลอนที่มีกลิ่นหอมติดปากเวลารับประทาน
“ข้าวโพด” Pure White Hokkaido ที่ถือเป็นราชาแห่งข้าวโพดทานดิบ มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น มีความพิเศษคือเป็นข้าวโพดที่มีความหวานสูงกว่าข้าวโพดทั่วไปถึง 3-4 เท่า ทั้งยังเป็นแหล่งรวมของวิตามินบี แร่ธาตุ เส้นใยอาหาร ที่สำคัญยังเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ ให้แคลอรีต่ำ ไฟเบอร์สูง
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ สิงห์ปาร์ค เชียงราย ยังมีการปลูกผลไม้ตระกูลเบอร์รี (Varies Berry) ที่เริ่มจากการนำสายพันธุ์มาจากประเทศออสเตรเลีย รวม 2 สายพันธุ์ คือสายพันธ์ Biloxi ที่มีรสเปรี้ยวอมหวานและพันธุ์ Sharp blue ที่เป็นสายพันธุ์ที่ปลูกยากแต่ให้ผลดกที่สุด นำมาพัฒนาต่อยอดเพาะพันธุ์ผลไม้ในตระกูลเบอร์รี ได้แก่ บลูเบอร์รี ราสเบอร์รีและแบล็กเบอร์รี โดยผลไม้ตระกูลเบอร์รี เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางวิตามินมีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย สำหรับในประเทศไทยยังมีการปลูกไม่มากนัก โดยผลไม้ตระกูลเบอร์รี ที่ปลูกในพื้นที่ของสิงห์ปาร์ค เชียงราย ได้รับใบประกาศการันตีคุณภาพสินค้าเกษตรที่มีความปลอดภัยจากภาคเอกชน ของสถาบันส่งเสริมคุณภาพเกษตรไทยหรือ Thai GAP
นอกเหนือจากผลไม้ระดับพรีเมียมดังกล่าวแล้ว สิงห์ปาร์ค เชียงราย ยังมีผลิตผลทางการเกษตรเป็นผักที่ปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ มีการงดใช้สารเคมีในทุกขั้นตอนของการปลูกและเคร่งครัดตามมาตรฐานออร์แกนิกประเทศไทย เพื่อให้ผู้บริโภคได้มั่นใจในคุณภาพของผักที่สดสะอาดและมีความปลอดภัยในการรับประทาน
สำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของ “สิงห์ปาร์ค เชียงราย” ที่มีชื่อเสียงโดดเด่นเป็นที่รู้จักแพร่หลายอีกอย่างหนึ่ง คือ “ชา” โดยสิงห์ปาร์ค เชียงราย ได้จัดพื้นที่ปลูกชากว่า 600 ไร่ โดยพื้นที่การปลูกชาได้ถูกจัดแบ่งตามโครงการคือ มีพื้นที่สำหรับการผลิตชาภายใต้แบรนด์ “สิงห์ปาร์ค เชียงราย” ซึ่งมีทั้งชาอู่หลง ชาไทย ชาอัสสัมและชาผลไม้ ทั้งนี้ ทุกกระบวนการปลูกต้นชาจนมาถึงขั้นตอนการแปรรูปใบชา ผ่านการควบคุมอย่างพิถีพิถัน มีมาตรฐานโดยผู้เชี่ยวชาญการเกษตรด้านใบชา และทีมงานมืออาชีพที่เชี่ยวชาญในธุรกิจชามากว่า 30 ปี ทั้งนี้ยังมีพื้นที่สำหรับการผลิตเป็นชาเขียวมัทฉะและชาเขียวญี่ปุ่น ภายใต้แบรนด์ “มารุเซ็น” ที่เป็นชาเขียวออร์แกนิก โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ผลิตชาเขียวรายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น ผลิตชาเขียวเกรดพรีเมียมในกระบวนการและวิธีการผลิตแบบญี่ปุ่นแท้ๆ เป็นแปลงชาเขียวมาตรฐานญี่ปุ่นแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย
“สิงห์ปาร์ค เชียงราย" ได้ตั้งเป้าหมายในระยะยาวในการที่จะยกระดับสินค้าการเกษตร เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าและสร้างเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงรายจากสินค้าทางการเกษตร ให้เป็นสินค้าส่งออกและของฝากเกรดพรีเมียมสำหรับนัก ท่องเที่ยวทุกคนที่ไปเยือนเชียงรายแล้วต้องไม่พลาด ที่จะซื้อผัก ผลไม้ รวมถึงผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอื่นๆ ของสิงห์ปาร์ค เชียงราย ติดไม้ติดมือมารับประทานหรือเป็นของฝาก โดยมีช่องทางการจำหน่าย ได้แก่ Singhapark Shop บริเวณหน้าไร่สิงห์ปาร์ค เชียงราย และทางออนไลน์ สามารถสั่งจองล่วงหน้าได้ที่ Line Official @singhaparkshop มีบริการส่งทั่วประเทศ สดจากไร่ส่งตรงถึงบ้าน “Fresh From Farm to Home”.