ถ้าหากใครสักคนจะนึกถึงทองคำที่มีคุณค่า คงต้องนึกถึง "ออโรร่า" เป็นอันดับแรกอย่างแน่นอน เพราะเป็นห้างเพชรทองที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนานกว่า 50 ปี ด้วยคุณภาพมาตรฐานจากทองคำระดับโลกที่การันตีให้ผู้ซื้อทุกคนมั่นใจได้จากใบรับประกันถึง 3 ใบ ทำให้ออโรร่าถือเป็นแบรนด์ไทยแบรนด์เดียวที่กล้าประชันกับทุกแบรนด์ในระดับโลก การันตีได้จากรางวัลที่ได้รับอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นรางวัล World Branding Award จากสหราชอาณาจักรที่เพิ่งได้รับรางวัลถึง 5 ปีซ้อน หรือจะเป็นรางวัลระดับประเทศอย่างรางวัล Top Company, Thailand Zocial Award, Product Of The Year และรางวัล Product Innovation โดยสิ่งเหล่านี้คืออีกหนึ่งความมั่นใจในการก้าวไปสู่ยุคใหม่ เพื่อให้ทองคำไม่ใช่เพียงแค่ทองคำอีกต่อไป

- มอบของขวัญสุดพิเศษเพื่อส่งรอยยิ้มในช่วงท้ายปี

ใกล้ถึงเทศกาลส่งท้ายปีกันแล้ว มีของขวัญในวันเทศกาลกันหรือยัง หากยังไม่มีเป็นไปได้ว่าทองคำจากห้างเพชรทองออโรร่า จะเป็นชิ้นที่เติมคุณค่าในเทศกาลนี้ได้อย่างอิ่มเอมใจ ด้วยการเปิดตัวแคมเปญ "จับได้เท่าไหร่ ก็เต้นเท่านั้น" ที่จัดยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จจากยอดขายที่สร้างความปังได้ถึง 10 ล้านชิ้น พร้อมแจกของรางวัลอีกมากมาย มูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท

ภายในกิจกรรมนี้ลูกค้าสามารถจับคูปองได้ฟรี เพื่อรับส่วนลดค่ากำเหน็จกว่า 40-90% ที่ห้างเพชรทองออโรร่าทุกสาขาทั่วประเทศ รวมถึงยังมี Dance Mob ตามจุดต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อส่งมอบความสุขผ่านสิทธิพิเศษมากมายให้กับลูกค้า และเป็นของขวัญในการเฉลิมฉลองความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2564 ยาวไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ด้วยงบการตลาดรวมกว่า 10 ล้านบาท ถือเป็นการบุกตลาดที่ทุ่มอย่างจัดหนัดจัดเต็ม ผ่านกิจกรรมการตลาดทั้งรูปแบบ Above the line และ Below the line ที่ครอบคลุมทั้งสื่อออนไลน์และออฟไลน์ ด้วยการผ่าน KOL ชื่อดังใน Tiktok เรียกได้ว่าเป็นการสร้างสีสันให้แคมเปญนี้มีความน่าสนใจ และติดตลาดได้ง่ายขึ้น

- ของขวัญที่มีดีไซน์เลิศล้ำทันสมัย

เทศกาลปีใหม่เป็นช่วงที่ใครหลายคนมองหาของขวัญเพื่อส่งต่อความสุขให้แก่ผู้อื่น ออโรร่าจึงเสนอทองคำให้เป็นของขวัญตัวเลือกแรกที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย ไม่ว่าจะเป็นทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ รวมถึงทองดีไซน์ที่สามารถนำไปขึ้นรูปเป็นเครื่องประดับและของตกแต่งได้หลายอย่าง ทั้งสร้อยข้อมือ พวงกุญแจ กรอบรูป และพู่ห้อย ซึ่งรูปแบบการทำการตลาดของออโรร่าเดินหน้าด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด จากการทำดีไซน์ให้มีความแตกต่างในทุกกระบวนการผลิต พร้อมกับส่งผ่านสินค้าไปสู่มือลูกค้าทุกคนด้วยความห่วงใย

ทองคำและเครื่องประดับจากออโรร่าทุกชิ้นจึงมีความตั้งใจในการผลิต เพื่อให้ทุกคนสวมใส่เครื่องประดับได้อย่างสะดวกสบาย และมีดีไซน์ที่ไม่ซ้ำใครทันสมัยยิ่งกว่าเดิม อีกทั้งการทำการตลาดในเชิง Consumer Product จะมีความแตกต่างจากร้านทองรุ่นคุณตาคุณยายทุกแบรนด์ในตลาด ทำให้ออโรร่าเน้นการตลาดผ่านแนวคิด Retail Marketing ที่หยิบเอารูปแบบการทำการตลาดค้าปลีกมาใส่ลงไปด้วย เพื่อเสริมสร้างแบรนด์ออโรร่าให้ดูโดดเด่นในตลาดทองคำและเครื่องประดับ

เริ่มจากชื่อแบรนด์ที่กล้าฉีกกฎทุก Mindset ของลูกค้า เมื่อใครก็ตามต้องการซื้อทองมักจะนึกถึงแบรนด์ที่มีภาษาจีนก่อนเป็นอันดับแรก และต้องเดินทางไปซื้อที่เยาวราชทุกครั้ง พร้อมกับต้องเลือกร้านที่เป็นสีแดง ซึ่งการซื้อขายก็มักจะต่อราคาได้เปรียบบ้าง และมีเสียเปรียบบ้าง

ด้วยเหตุนี้ออโรร่าจึงกล้าหยิบเอา Pain Points ของทุกร้านทองมาเขียนใหม่อีกครั้งเพื่อไปสู่ยุคที่ทันสมัยขึ้น เริ่มตั้งแต่ใช้ชื่อแบรนด์เป็นภาษาอังกฤษที่ชื่อว่า "ออโรร่า" พร้อมกับตกแต่งและทำรูปแบบร้านให้มีความทันสมัยขึ้น ด้วยการเน้นธีมสีส้ม และสินค้าทุกชิ้นมีป้ายราคาบอกอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังฉีกกฎด้วยรูปแบบการทำการตลาดผ่านเทศกาลและทุกโอกาสสำคัญ ด้วยการวางคอนเซปท์ให้แบรนด์ออโรร่าเป็นของขวัญแห่งความสุขที่มีคุณค่า สามารถเลือกซื้อได้ในทุกโอกาสและทุกช่วงเทศกาล

- ไอเดียที่แตกต่างนำพาไปสู่ความสำเร็จ

ออโรร่าเริ่มบุกเข้าสู่ตลาดโมเดิร์นเทรดเป็นรายแรก ทำให้ทุกวันนี้มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศมากกว่า 230 สาขาในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สามารถรองรับลูกค้าสมาชิกได้กว่า 1 ล้านรายต่อวันเลยทีเดียว พร้อมกับครองความเป็นเจ้าของตลาดออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ด้วยรางวัลการันตีจาก Market Place ฮอตฮิตทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada และ JD Central สิ่งเหล่านี้ล้วนคือเครื่องหมายแห่งความสำเร็จที่กล้าแตกต่างจากการทำการตลาดรูปแบบเดิมที่ผ่านมา

ด้วยแนวคิดที่กล้าคิดนอกกรอบในการทำการตลาดคือความสำเร็จของผู้บริหาร โดยเฉพาะหัวเรือใหญ่อย่าง "นายอนิพัทย์ ศรีรุ่งธรรม" CMO New Gen ที่หาตัวจับได้ยาก จากการใส่ไอเดียที่กล้าฉีกทุกกฎ มองการตลาดที่แตกต่างอย่างมีชั้นเชิง พร้อมกับลบภาพเดิมๆ ของร้านทองรุ่นอากงอาม่าได้อย่างสมบูรณ์แบบ และที่สำคัญคือความตั้งใจที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดของการทำการตลาด ผ่านการจัดเก็บฐานข้อมูลลูกค้าอย่างเป็นระบบ โดยการใช้ Big Data มาประยุกต์เพื่อเข้าใจในความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า

ความสำเร็จในวันนี้ของออโรร่าไม่ได้เป็นความบังเอิญที่มาแบบฟลุกๆ แต่เป็นความสำเร็จที่เขียนขึ้นมาด้วยมือของผู้บริหารรุ่นใหม่ของออโรร่า และทุกก้าวในการทำการตลาดของร้านทองแห่งนี้ไม่มีคำว่าบังเอิญ และคงไม่มีแบรนด์ไหนที่จะเทียบชั้นการทำการตลาดรูปแบบนี้ได้ อีกทั้งแบรนด์ออโรร่ากล้าคิดที่จะทำให้แตกต่าง จึงก้าวล้ำนำทุกแบรนด์เหมือนอย่างทุกวันนี้

จึงไม่แปลกใจที่วันนี้ออโรร่าจะเป็นแบรนด์ร้านทองแบรนด์เดียวในใจของลูกค้า ที่ทุกร้านทองต่างคอยจับจ้องเลียบแบบในทุกก้าว หากคุณคิดจะซื้อของขวัญสักชิ้นในช่วงเทศกาล ทองคำก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพื่อให้การเฉลิมฉลองในช่วงส่งท้ายปีมีคุณค่าและมีความสุขรวมอยู่ด้วยกัน