เป็นหนึ่งในพระราชวงศ์โลกที่มีพระชนมพรรษายืนยาวที่สุด จนกลายเป็นต้นแบบของคนวัยเก๋าทั้งโลก สำหรับ “สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สองแห่งอังกฤษ” โดยได้รับการยกย่องจาก “กินเนสส์ เวิลด์ เรกคอร์ดส์” ให้เป็นประมุขที่มีพระชนมพรรษาอาวุโสที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน ด้วยสถิติ 95 พรรษา 184 วัน แซงหน้าแชมป์เก่าอย่าง “สมเด็จพระนางเจ้าวิกตอเรีย” ซึ่งมีพระชนมพรรษายืนยาว 81 พรรษา และกษัตริย์องค์ก่อนของซาอุดีอาระเบีย “สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลาห์ บิน อับดุลอาซิส อัล ซาอุด” ผู้พิทักษ์สองมหามัสยิดอันศักดิ์สิทธิ์ของโลก ที่สวรรคตไปเมื่อปี 2015 ขณะมีพระชนม พรรษา 90 พรรษา

ขนาดลูกหลานสร้างเรื่องราวดราม่าให้ปวดหัวไม่เลิก แต่ควีนเอลิซาเบธที่สองก็ยังทรงยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งเหนือคลื่นลม โดยเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้ทรงมีอายุยืนยาวอย่างสุขภาพดี เป็นเพราะทรงถือคติ “ชีวิตนี้กินเพื่ออยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน” ถึงแม้จะทรงเป็นควีนผู้มั่งคั่งที่สุดในโลก มีทรัพย์สินในครอบครองมากกว่า 530 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ครอบคลุมตั้งแต่ที่ดิน, อสังหาริมทรัพย์, ปราสาทพระราชวัง, เครื่องเพชร, ผลงานศิลปะ และคอกม้า ก็ยังทรงระมัดระวังเรื่องการกินอยู่ ไม่ปล่อยตามใจปากจนโรคภัยถามหาเด็ดขาด

...

ล่าสุด แม้ควีนเอลิซาเบธที่สองจะทรงยกเลิกการเสด็จฯไปเยือนไอร์แลนด์เหนือ และงดพระราชกรณียกิจตามคำแนะนำของคณะแพทย์ พร้อมแปรพระราชฐานไปประทับที่พระราชวังวินด์เซอร์อย่างไม่มีกำหนด แต่องค์ควีนก็ทรงประกาศก้องให้โลกรู้ว่าหัวใจไม่ยอมแก่!! เมื่อทรงปฏิเสธการถวายรางวัล “ผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำ ปี 2021” ซึ่งมีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีโดยนิตยสารเพื่อคนวัยเก๋าของอังกฤษ “The Oldie” โดยให้เหตุผลผ่านรองราชเลขานุการในพระองค์ว่า ทรงเชื่อว่าอายุคนเราอยู่ที่ใจ พระองค์ไม่คิดว่าทรงเหมาะสมกับรางวัลนี้ น่าจะมีคนอื่นที่คู่ควรกว่า

ในฐานะกษัตริย์ที่ครองราชบัลลังก์ยาวนานที่สุดในโลกขณะนี้ ด้วยสถิติ 69 ปี 258 วัน นอกจากจะได้ยีนเด่นอายุยืนจากบรรพบุรุษฝั่งพระราชมารดา ควีนเอลิซาเบธที่สองยังทรงรักษาพระพลานามัยเคร่งครัดมาก ทรงไม่เคยสูบบุหรี่ เพราะฝังพระทัยว่าบุหรี่คือตัวร้าย
ที่ทำให้พระราชบิดาเสด็จสวรรคตก่อนวัยอันควร แม้แต่พระสวามีผู้ล่วงลับ “เจ้าชายฟิลิป” ก็ทรงได้รับการร้องขอจากองค์ควีนให้เลิกบุหรี่ตั้งแต่ก่อนอภิเษกสมรส

...

เนื่องจากถูกปลูกฝังมาตลอดเรื่องการดูแลใส่ใจสุขภาพพลานามัย องค์ควีนจึงโปรดการทำกิจกรรมเคลื่อนไหวเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการขี่ม้าและเต้นรำ อีกทั้งทรงให้ความสำคัญกับการพัก ผ่อนอย่างเพียงพอ โดยจะบรรทมให้เต็มอิ่มไม่น้อยกว่าวันละ 7 ชั่วโมง และตื่นบรรทมตั้งแต่ 7 โมงครึ่ง หลังจากเสวยอาหารเช้าแล้ว ก็จะจูงสุนัขตัวโปรดไปเดินเล่นรอบๆวัง ทรงเชื่อว่าการคลุกคลีใกล้ชิดกับธรรมชาติคือยาอายุวัฒนะชั้นดี

...

เพราะทรงถือคติ “ชีวิตนี้กินเพื่ออยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน” ความมีวินัยในเรื่องการกินอยู่ของควีนเอลิซาเบธที่สองจึงสำคัญไม่แพ้การออกกำลังกาย หนึ่งในกิจวัตรประจำวันขององค์ควีนที่ปฏิบัติเสมอมาคือ จะเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการเสวยบิสกิตขนาดพอดีคำ คู่กับชาเอิร์ลเกรย์ไม่ใส่น้ำตาลและนม จากนั้นจึงเสวยซีเรียลกับผลไม้เป็นพระกระยาหารเช้า โดยเสิร์ฟในภาชนะทัปเปอร์แวร์ช่วยเก็บความเย็น หากช่วงไหนสามารถควบคุมน้ำหนักได้ดี จะทรงให้รางวัลตัวเองด้วยขนมปังปิ้งทาแยมส้ม หรือไข่คนกับแซลมอนรมควันและทรัฟเฟิล แต่ที่โปรดเสวยบ่อยคือ “ไข่ต้ม” ซึ่งทั้งประหยัดและเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ

...

ก่อนเสวยมื้อเที่ยง ควีนเอลิซาเบธที่สองมักจะเรียกน้ำย่อยด้วยการจิบจินผสมดูบอนเนตกับมะนาวฝานใส่น้ำแข็งเยอะๆ เพื่อความกระปรี้กระเปร่า โดยมื้อกลางวันเสวยอาหารเบาๆย่อยง่าย เช่น ปลาย่างกับสลัดผัก และไก่ย่างกับสลัดผักจานโตกฎเหล็กที่ทำให้ทรงควบคุมน้ำหนักได้ดีมาตลอดคือ ในมื้ออาหารหลักห้ามเสิร์ฟเครื่องเคียงที่เป็นแป้งตระกูล starch ซึ่งหมายถึงจะไม่เสวยมันฝรั่ง, เส้นพาสตา และข้าว

อย่างไรก็ดี ควีนเอลิซาเบธที่สองทรงห้ามใจไม่อยู่กับขนมนมเนย โปรดเสวยอาฟเตอร์นูนทีทุกบ่าย โดยจะจิบชาแก้วโปรดกับแซนด์วิชคำเล็กๆ สอดไส้แซลมอนรมควัน, แตงกวา, ไข่ และมายองเนส หรือทาแยมราสเบอร์รี ในชุดอาฟเตอร์นูนทียังต้องมีบิสกิต, สโคน และขนมเค้กครบเซต ขาดไม่ได้คือสปันจ์เค้กสอดไส้น้ำผึ้งสลับครีม, เค้กผลไม้, ช็อกโกแลตบิสกิตเค้ก, ช็อกโกแลตมูส และช็อกโกแลตสปันจ์เค้ก

พอถึงมื้อค่ำโปรดเสวยเพียงสเต๊กเนื้อ, ไก่ หรือแซลมอนย่างจากฟาร์มหลวงในแซนดริงแฮม และบัลมอรัล โดยเสิร์ฟคู่ซอสครีมเห็ดเหยาะวิสกี้ อีกหนึ่งเมนูโปรดคือ “ซันเดย์โรสต์” สเต๊กเนื้อครบเครื่องสไตล์ผู้ดีอังกฤษ โดยจะจิบแชมเปญหนึ่งแก้วพอให้เลือดลมสูบฉีด ปิดท้ายวันด้วยผลไม้สดๆตามฤดูกาลจากฟาร์มในบัลมอรัล

นอกจากจะพิถีพิถันใส่ใจเรื่องการกินอยู่เพื่อสุขภาพ ความมีอารมณ์ขันลึกๆ และปรับตัวเก่งไม่ตกยุค ยังเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้อายุยืนยาว หนึ่งในอารมณ์ขันน่าทึ่งคือ ตอนที่องค์ควีนทรงตกลงร่วมแสดงในหนังตลกสั้นกับสายลับเจมส์ บอนด์ 007 ที่รับบทโดย
“แดเนียล เคร็ก” เพื่อเป็นไฮไลต์ในพิธีเปิดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปี 2012 ซึ่งสหราชอาณาจักรเป็นเจ้าภาพ

ช่างตัดฉลองพระองค์ผู้ถวายงานใกล้ชิดนานหลายปีไขความลับให้ฟังว่า ควีนเอลิซาเบธที่สองทรงใช้เวลาเพียง 5 นาที ตัดสินพระทัยร่วมเล่นในหนังตลกสั้นคู่สายลับ 007 ทรงพระสรวลไปกับความคิดดังกล่าว และตอบตกลงทันที เมื่อทูลถามว่า ทรงอยากมีบทพูดด้วยหรือไม่ ก็รับสั่งอย่างไม่ลังเลว่า “แน่นอน ฉันต้องพูดอะไรบ้างสิ เพราะเขา (เจมส์ บอนด์) มาช่วยฉันทั้งที” นี่เองจึงเป็นที่มาของวลีเด็ด “สวัสดียามเย็นคุณบอนด์” ที่เรียกเสียงฮือฮาไปทั้งโลก!! ล่าสุด ก่อนจะพักยาวตามคำแนะนำของคณะแพทย์ องค์ควีนยังเพิ่งเปิดพระราชวังวินด์เซอร์ต้อนรับเหล่าผู้นำธุรกิจที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลก นำโดยเจ้าพ่อไมโครซอฟท์ “บิล เกตส์” ซึ่งเดินทางมาร่วมประชุมสุดยอดการลงทุนในอังกฤษ...ตอกย้ำสถาบันยุคใหม่จะอยู่รอดได้ ต้องครองใจคนทุกระดับ.

ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ