ผู้บริหารรุ่นใหม่ของบริษัทเดินรถแถวหน้าของเมืองไทย “กมลพร แต่โสภาพงษ์” ทายาทรุ่นที่ 3 ของนครชัยแอร์ ที่เข้ามาเรียนรู้งานจากบุพการี โดยตั้งใจจะต่อยอดธุรกิจให้คงยืนหนึ่งแถวหน้าในวงการต่อไป

กมลพร หรือ หมิว ผู้บริหารสาวที่รั้งตำแหน่ง ที่ปรึกษาซีอีโอ บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด ลูกสาวคนเล็กในจำนวน 2 คนของยอดพจน์ วงศ์รักมิตร และเครือวัลย์ วงศ์รักมิตร ประธานบริษัท นครชัยแอร์ จำกัด ซึ่ง หมิว เล่าว่า หลังจากจบปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจ ที่ Queen Mary University of London ประเทศอังกฤษ แล้วได้ไปทำงานที่ PWC Thailand บริษัทที่ปรึกษาทางด้านการเงินอยู่ 2 ปี ได้เรียนรู้เรื่องการบริหารความเสี่ยง ซึ่งได้รับประสบการณ์ที่ดี ก่อนเข้ามาช่วยธุรกิจ “นครชัยแอร์” ของที่บ้าน ซึ่งมีคุณแม่-เครือวัลย์ นั่งเป็นซีอีโอ

“ตอนแรกแม่ให้หมิวไปเรียนรู้งานที่อยู่ตึกอะไหล่และซ่อมบำรุง ซึ่งเป็นพื้นฐานของธุรกิจเราเลย ไม่ว่าจะเป็น วิธีการบริหารตัวรถ วิธีการบริหารการซ่อมให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ทำอยู่ 6 เดือน หมิวก็ได้เรียนรู้ เข้าใจขั้นตอนตรงนั้นเยอะมาก จากนั้นก็มาทำงานพัสดุมาดูเรื่องงานขาย ทีนี้งานพัสดุเป็นหนึ่งในหน่วยหนึ่งของการขาย แม่เห็นว่าพัสดุขาดคนที่จะมาพัฒนาและวางเป้าหมายและทำสิ่งใหม่ๆให้เราสู้กับตลาดตอนนี้ ที่ร้อนแรงมาก มีผู้ร่วมธุรกิจมากมาย ทั้งเก่าและใหม่ที่เยอะมาก แม่เลยให้มาทำตรงนี้ เรามีพัสดุส่งดีลิเวอรีเยอะมาก และสามารถเติบโตขึ้นได้อีก ถ้าเราสร้างการรับรู้ให้แก่คนทั่วไป ว่าจุดขายของเราคืออะไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเวลาที่เราได้เปรียบกว่าอยู่แล้ว ไม่ว่าของกี่ชิ้น รถเราก็วิ่งหมด แล้วส่ง same day ด้วย ถ้าวิ่งเช้าจะถึงเย็น เพราะฉะนั้นหมิวพยายามทำตรงนี้ ในจุดที่ไม่มีส่งถึงบ้าน หมิวก็พยายามขายในเรื่องส่งถึงบ้าน ให้สะดวกต่อลูกค้ามากขึ้น แล้วตอนนี้มีหน้าที่รับผิดชอบเพิ่มขึ้น มาดูด้านบริหารยอดขาย ไม่ว่า เป็นโซเชียลมีเดีย ทุกช่องทางที่ลูกค้าติดต่อเข้ามา แล้วก็ดูเรื่องของ call center หรือว่าดูงานเรื่องลูกค้าสัมพันธ์ เวลาที่ลูกค้าร้องเรียน เพราะเฟซบุ๊กของนครชัยแอร์ ตอนนี้มีคนติดตามอยู่ 3 แสนกว่า เกือบจะ 4 แสนแล้ว แล้วไลน์แอท ของนครชัยแอร์มีคนเป็นเพื่อนอยู่อีก 4 แสนกว่าคน แล้วยังดูเรื่องการจัดซื้อ งานบัญชี การเงิน แต่สุดท้ายต้องไปเสนอแม่อีกที ถ้ามันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ หรือว่าต้องใช้เงินใช้คนเพิ่ม”

...

สำหรับความท้าทายในการทำงาน ผู้บริหารสาวไฟแรงคนนี้บอกว่า ช่วงโควิดธุรกิจรถทัวร์ก็ได้รับผลกระทบ เราก็ต้องปรับตัว อย่างเช่น เรามีร้าน บ้านสวน คิทเช่น ที่ทำอาหารเพื่อเสิร์ฟบนรถทัวร์ พอมีโควิดเราก็ต้องหางานให้พนักงานเขาทำซึ่งเงินเดือนเราพยายามจะจ่ายให้ครบ ไม่อยากให้กระทบกับพนักงาน แล้วก็ไม่ได้ให้ออก จึงเปิด line@bansuankitchen เพื่อรับทำอาหารกล่องไปมอบให้บุคลากรทางการแพทย์ โดยเราจะประสานและไปส่ง พร้อมทำป้าย นำไปมอบให้เลย นอกจากนี้เรายังได้ออกรถมาใหม่ เป็นรถ social distancing เป็นรถ 3 แถว มี 2 ทางเดินตรงกลาง เพื่อที่จะให้ไม่มีใครนั่งติดกับใคร เพื่อตอบโจทย์การเว้นระยะห่างทางสังคมของรัฐบาล ซึ่งเราพยายามพัฒนาไปเรื่อย ไม่ว่าจะเป็นการบริการ หรือการดีไซน์รถ

“แม่จะเน้นต้องทำให้ดี ทำไม่ดี อย่าทำดีกว่า แล้วเราต้อง พยายามรักษามาตรฐาน ตอนนี้เราเป็นบริษัทเดินรถต้นๆของประเทศ สิ่งที่ท้าทายคือ เราจะทำอย่างไรให้เราอยู่ตรงนั้นตลอดนั้นเราต้องรักษามาตรฐานและวางแผนล่วงหน้าอย่างมีวิสัยทัศน์ เวลาทำงาน หมิวจะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ถ้าไม่ดีก็อย่าทำดีกว่า อย่างที่แม่สอน”.....คัมภีร์การทำงานให้ประสบความสำเร็จของสาวคนนี้.