ปกติครอบครัว พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน ซึ่งพ่อแม่ลูกอยู่คนละเมือง แต่ไม่รู้สึกห่างกันเลย เพราะบินไปมาหาสู่กันตลอดด้วยความถี่สูง แต่ตั้งแต่มีโควิดบ้านนี้จึงวงแตก ลูกชายคนโต คุณณภัทร (น้อบ) ซึ่งหลังจบ Oxford ด้าน PPE (Politics-Philosophy-Economics) และ MBA Harvard Business school ก็ทำงานที่ Bain Consulting, London และ คุณวรัตม์ (แน้บ) ซึ่งจบตรี Economics และโท Public Administration จาก Stanford U. และทำงาน Raine group ที่นิวยอร์ก จึงขอไม่กลับ--คุณหมออ้อม–พักตร์พิไล และ คุณนิด–เศรษฐา จึงมีแต่ลูกสาว ชนัญดา (นุ้บ) ซึ่งหลังจบตรี Neuroscience ที่ Barnard college, Columbia U. นิวยอร์ก และโท Social worker ที่ยูเดียวกัน ก็ทำงานเป็น Educational Counselor ที่ Edusmith

พอโควิดระบาด น้องนุ้บ ซึ่งเห็นเทรนด์ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ จึงหุ้นกับเพื่อนซื้อแฟรนไชส์ Mikka cafe และล่าสุด กระโดดเป็นหุ้นเล็กๆของร้านดังระดับมิชลิน กับคุณลุงหมอ ประดิษฐ สินธวณรงค์ ซึ่งนำร้าน Tasty Congee and Noodle Wantun จากฮ่องกง มาให้นักกินอร่อยกับบะหมี่เกี๊ยว และโจ๊กสูตรต้นตำรับ 7 ทศวรรษ ที่สยามพารากอน--แม้คนจะกลัวโควิด แต่ร้านนี้คิวยาว คุณหมออ้อม จะไปกินก็ต้องรอคิว เลือกโต๊ะไม่ได้

...

กำลังปลื้มลูกสาวที่เริ่มต้นธุรกิจใหม่ๆและไปได้ดี คุณหมออ้อม ก็ดีใจมาก เมื่อ คุณแน้บ ตัดสินใจกลับจากนิวยอร์ก จึงให้ไปกักตัวที่โรงแรมกลางเมือง และครบ 14 วัน ออกมาทำบุญวันเกิด คุณหมออ้อม พอดี ซึ่งได้ของขวัญวันเกิดจากลอนดอน เพราะ น้องน้อบ ซึ่งเดิมยืนยันไม่กลับๆ เปลี่ยนใจ เพราะเห็นชีวิตน้องชายระหว่างกักตัว 14 วันว่าแสนสุข เพราะถูกปรนเปรออาหารการกินอร่อยเต็มเหนี่ยว กลับมาวันแรกก็ได้กินเป็ดปักกิ่ง เมนูดังเอสซี ปาร์ค และคุณแม่ยังคว้านมะยงชิดไปส่ง ห้องพักก็กว้างขวาง มีทั้งเครื่องออกกำลังกายส่วนตัว ห้องทำงาน คุณแน้บ จึงกักตัวอย่างสบายเฉิบ.

0 0 0 0

ดีไซเนอร์ ศรัณญ อยู่คงดี ผู้ก่อตั้งแบรนด์เครื่องประดับสวยแปลก SARRAN by Sarran Youkongdee ในคอนเซปต์ Art to Wear เป็นอีกคนที่ค้นพบการใช้ชีวิต และการทำงานที่มีความสุข (มากขึ้น) ในช่วงโควิดระบาด เพราะมีเวลาเหลือเฟือ ในการดีไซน์เครื่องประดับแบบใหม่ๆ ให้ลูกค้านักสะสมที่ชื่นชอบผลงาน จากเดิมที่ SARRAN จะไม่ทำตามออเดอร์ เพราะไม่มีเวลา ก็มีโอกาสได้ลองทำเครื่องประดับดีไซน์ใหม่ๆ ซึ่งส่งต่อเรื่องราวในอดีตสู่ปัจจุบัน สะท้อนความเป็นไทย ผ่านดอกไม้ไทย ที่เป็นเอกลักษณ์ทั้งรูปแบบ และใช้วัสดุที่ไม่เหมือนใคร

จากเดิมที่ทำงานออกแบบตกแต่ง มีโรงงานเฟอร์นิเจอร์ มีลูกน้องครึ่งร้อย คุณศรัณญ ได้หันมาทำเครื่องประดับเต็มตัวหลังพบแรงบันดาลใจตอนไปแสดงผลงานที่ปารีส ซึ่งได้นำชิ้นส่วนของดอกรักประดิษฐ์ (ซึ่งเดิมร้อยเป็นม่านในงานอีเวนต์ และเหลือใช้) จึงนึกสนุกเอามาร้อยใหม่เป็นตุ้มหูชิ้นยาว เอาไปแขวนเล่นประดับบูธ และมีสาวใหญ่ปารีเซียงมาคุย ถามว่า คุณศรัณญ ทำอะไร ก็คุยไปจิบไวน์ไปสนุก สุดท้าย เธอถามซื้อตุ้มหู คุณศรัณญ จึงบอกส่งๆว่า 5 พันบาท แต่สาวฝรั่งเศสบอกว่า ให้คิดราคาใหม่ พรุ่งนี้จะมาอีก คุณศรัณญ จึงให้เพื่อนตั้งราคาใหม่ เพราะ 5,000 แพงไป

รุ่งขึ้นพอลูกค้ากลับมาถามราคา คุณศรัณญ จึงหยิบตุ้มหูให้ดูว่าแก้ราคาแล้ว นี่ไง ลูกค้าจึงขอซื้อทันที และบอกให้ทำมา 10 คู่ และบอกว่า วานนี้ยูคุยเรื่องผู้หญิงไทย และความเป็นแม่ของผู้หญิงไทยซึ่งเป็นเรื่องราวมีค่า และยูก็นำมาสะท้อนผ่านเครื่องประดับ แต่ทำไมให้คุณค่าน้อย แค่ 5,000 เท่านั้น ถึงได้บอกให้คิดราคามาใหม่ ซึ่งราคา 50,000 สมเหตุสมผลแล้ว--พอลูกค้าพูดจบ คุณศรัณญ ก็ตาเหลือก ก้มมองราคาแล้วหันไปมองหน้าเพื่อน เพราะให้ตัด 0 ออกไป ทำไมเพิ่ม 0 มา กลายเป็นคู่ละ 50,000 --แต่ในเมื่อลูกค้าเต็มใจซื้อ คุณศรัณญ ก็เลยรีบรูดการ์ดไปตามนั้น 500,000 บาท พร้อมได้รับออเดอร์ให้ส่งงานไปให้ เรื่อยๆ เพราะเธอมีร้านเครื่องประดับที่คัดเลือกจากดีไซเนอร์ที่สวยแปลก ไม่เหมือนใคร

...

จากนั้น คุณศรัณญ จึงตัดสินใจปิดธุรกิจอื่น ทำแบรนด์ SARRAN ด้วยมุมมองที่ให้คุณค่ากับทุกคอลเลกชัน ให้เป็นเครื่องประดับที่เป็นมากกว่าของตกแต่ง เพราะมีเรื่องราว แรงบันดาลใจในการออกแบบ ที่สร้างคุณค่าและความภูมิใจในความเป็นไทย ที่ผ่านมา จึงได้รางวัลหลายเวที และเป็นแบรนด์ดีไซเนอร์ไทย ที่ได้เข้าไปวางใน Club 21 ร้านมัลติแบรนด์ระดับโลก ซึ่งราคาไม่ใช่ 500 หรือ 5,000 อีกแล้ว.

โสมชบา