ชีวิตของคนเราทุกคน ล้วนจะต้องเจอกับปัญหาต่าง ๆ มากมายในชีวิต ทั้งปัญหาเรื่องงาน การเงิน ความรัก ครอบครัว เป็นต้น ซึ่งปัญหาชีวิตเหล่านั้น ทำให้พบเจอกับความสูญเสีย ความเครียด ความกดดันทางจิตใจต่าง ๆ บางคนปรับตัวได้ บางคนปรับตัวไม่ได้

...คนที่ปรับตัวไม่ได้ มักจมอยู่กับปัญหา รู้สึกสิ้นหวัง ไม่มีทางออก...

คนที่ปรับตัวได้ จะรู้สึกว่าผ่านมันไปได้ บางคนดีกว่าแค่ผ่านได้ก็คือบทเรียน หรือได้เรียนรู้จากปัญหาที่ตนเองประสบพบเจอจนถึงขั้นที่สามารถพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้ด้วย เรียกว่าผ่านอุปสรรคมาแล้วแข็งแรงขึ้น เติบโตขึ้น หรือเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเลยทีเดียว

คนที่ผ่านได้กับคนที่ผ่านไม่ได้ ต่างกันตรงไหน?

ปัจจัยที่สำคัญที่สุด ซึ่งหลายการศึกษาพบตรงกัน คือ การมีความสัมพันธ์ที่ดีกับใครสักคน ดูแลเอาใจใส่ ไว้ใจได้ เกื้อกูลกันได้กับใครสักคน ไม่ว่าคนคนนั้น จะเป็นคนในครอบครัว หรือคนนอกครอบครัวก็ได้ เช่น เพื่อน เจ้านาย ขอเพียงมีความสัมพันธ์ที่มั่นคง ไม่ทิ้งกัน ยอมรับกัน เข้าใจกัน ช่วยเหลือกัน ถ้าใครที่มีความสัมพันธ์แบบนี้ มีแนวโน้มว่าคนนั้นจะปรับตัวผ่านปัญหาต่าง ๆ ไปได้ด้วยดี

...

ปัจจัยอื่น ๆ ที่ช่วยให้เกิดการปรับตัว ได้แก่

ความสามารถในการมองปัญหาตามความเป็นจริง

คนที่มองปัญหาตามความเป็นจริง มีแนวโน้มจะหาทางแก้ปัญหาได้มากกว่า บางคนมีปัญหาแล้วคิดเองเออเองอยู่คนเดียว หรือที่บางคนเรียกว่า “มโน” ไม่ได้ตรงกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นเลย ลักษณะเช่นนี้จะทำให้การแก้ปัญหาวกวน เสียเวลา และไม่ตรงจุด ยิ่งเพิ่มความเครียดหลายอย่างโดยไม่จำเป็น บางคนคิดไปเองอยู่หลายวัน พอกล้าถามอีกฝ่ายหนึ่งไปตรง ๆ พบว่าความจริงไม่ได้เป็นไปอย่างที่ตัวเองคิดไว้ตอนแรกเลย

มีความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง

คนที่มีความเชื่อมั่นในตนเอง เวลามีปัญหามักจะมองว่าเราน่าจะผ่านมันไปได้ หรือบางครั้งก็มองว่าปัญหาเป็นเรื่องธรรมดา ปัญหามีได้ตลอด แล้วก็สามารถแก้ไขได้ตลอด ทำให้คนที่มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีปัญหาแต่ปราศจากความทุกข์จากการมีปัญหานั้น ๆ

มีทักษะในการสื่อสารดี

บางคนมีปัญหาแล้วเก็บไว้คนเดียว ไม่กล้าบอกใคร ไม่กล้าปรึกษาใคร ไม่กล้าขอความช่วยเหลือ เพราะไม่รู้จะเริ่มพูดอย่างไร บางคนมองว่าอดทนเอาง่ายกว่าการบอกกล่าวออกไป การขาดทักษะในการสื่อสารและขอความช่วยเหลือในยามที่จำเป็น จึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนคนนั้นติดอยู่กับปัญหาเดิม ๆ และไม่สามารถหาทางออกได้

มีความสามารถในการจัดการอารมณ์และความต้องการของตนเอง

เวลาเกิดปัญหา ทุกคนจะมีอารมณ์ มีความเครียดตามมา แต่บางคนมีวิธีการในการจัดการอารมณ์ของตนเองที่ดี เรียกว่าเก่งในการจัดการความเครียดของตนเอง คลายเครียดให้ตนเอง เป็นทุกข์แต่ทุกข์ไม่นาน ไม่จม เวลาตนเองเครียดก็รู้ว่าเครียด แล้วรีบไปดูแลตนเอง เวลาที่ตนเองต้องการอะไรก็รู้แน่ชัดว่าตนเองต้องการอะไร จะหาหนทางให้ได้มาอย่างไร จัดการอย่างไร แตกต่างจากบางคนที่เครียดก็ยังไม่รู้ว่าตนเองเครียด อยากได้อะไรก็ไม่แน่ใจ ต้องการอะไรก็ไม่รู้ คน 2 กลุ่มนี้จะมีความแตกต่างกันในการจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นในใจตนเอง

ดังนั้นคนที่มีความสามารถในการปรับตัว จึงสามารถจัดการกับปัญหา ความเครียดและอารมณ์ต่าง ๆ ของตนเองได้ดี แต่หากไม่มีความสามารถในการปรับตัวก็ควรหาที่ปรึกษา เพื่อคลายความทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พี่น้อง หรือจิตแพทย์ เพื่อคลายความเครียด และหาทางแก้ปัญหาที่ถูกต้องและทันท่วงที

แหล่งข้อมูล

รศ. พญ.นิดา ลิ้มสุวรรณ สาขาจิตเวชศาสตร์เด็กและวัยรุ่น ภาควิชาจิตเวชศาสตร์

คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล