“เจ้าพ่อพะวอ” อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ศูนย์รวมมหาศรัทธาของผู้คนที่หลั่งไหลไปกราบสักการบูชา โดยเฉพาะงานใหญ่ประเพณีพิธีบวงสรวงประจำปีที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกๆปีด้วยแล้ว ผู้คนก็ยิ่งหลั่งไหลหนาตาเต็มพื้นที่ เอาแค่รถจอดริมทางยาวเหยียดก็สะท้อนศรัทธาที่มากล้นได้แล้ว

“เอก เกียรติศักดิ์ แม่สอด”...ชื่อที่ใช้ในเฟซบุ๊ก เกิดและโตที่แม่สอด สถานะปัจจุบันปฏิบัติหน้าที่เป็นอาสาแนวชายแดนแม่สอด อายุ 41 ปี บอกว่า ปีนี้คนถูกหวยกัน เยอะครับ คนที่ไปร่วมพิธีในครั้งนี้นะครับ อาจจะบังเอิญ โชคช่วย หรือ...ฟลุก ก็ไม่มีใครรู้ได้ เพราะเรื่องแบบนี้แน่นอนว่าเป็นเรื่องยากที่จะอธิบาย

ความศรัทธาส่วนตัว ถ้าขับรถผ่านจะเดินทางไปไหนมาไหนก็แล้วแต่ จะบีบแตรไม่บีบไม่ได้ เป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่เสมือนกับว่าเป็นการสักการะยึดถือเป็นเครื่องเตือนใจให้ชีวิตราบรื่นปลอดภัยไร้อันตราย

“สมัยก่อนเขาจะยิงปืนกันนะ แต่ตอนนี้ห้ามแล้ว เพื่อแก้บนก็ใช้การจุดประทัดแทนอยู่ที่บริเวณด้านหลังศาล นอกจากนี้แล้วศาลเจ้าพ่อพะวอยังเป็นสถานที่ซึ่งเป็นที่เคารพอย่างมาก”

...

“ศาลเจ้าพ่อพะวอ” ตั้งอยู่บนเนินเขาเชิงพะวอ ตามประวัติบันทึกไว้ว่า คำว่า “พะวอ” เป็นชื่อชนชาติกะเหรี่ยง คำนำหน้าว่า “พะ” ก็คือ “นาย”...ส่วนคำว่า “วอ” อาจแผลงมาจากคำว่า “วา”...แปลว่า “ขาว” หรือ... “นายขาว” นอกจากนี้แล้วคำว่า “พะวา” อาจจะเพี้ยนเสียงมาเป็น “พะวอ” ก็เป็นได้

โดยสื่อได้อีกความหมายนั้นเป็นคำว่า “พะวอฮ์” ออกเสียงวออยู่ในลำคอ ซึ่งเป็นคำใหม่ที่ชาวเผล่อและชาวปกากะญอให้ความรู้มาว่า “พาวอฮ์...ก็คือนายแดง”

คาดกันว่า...ขุนเขา “ผาวอ” ก็อาจเพี้ยนมาเป็น “พะวอ” ได้เหมือนกัน

O O O

เหรียญบูชาต่างๆที่ปลุกเสก ทำขึ้นมาไม่ว่าจะกี่รุ่นต่อกี่รุ่นก็แล้วแต่ ถ้าใช้คำว่า “พะวอ” ทำพิธีปลุกเสกที่ศาลเจ้าพ่อพะวอแห่งนี้ จากประสบการณ์แล้วมักจะถูกนำไปใช้ พกติดตัวอย่างน่าเลื่อมใสศรัทธายิ่ง

ไม่เฉพาะความศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อมั่น เชื่อถือ... กันเท่านั้น หากแต่ยังนับรวมไปถึงผู้จัดสร้างที่ทุกๆรุ่น ไม่ว่าจะจัดสร้างใหม่...สร้างเก่าจะหมดเกลี้ยงไม่เหลือทุกครั้งไป เชื่อไม่เชื่อกันอย่างไร แต่เรื่องราวนี้ก็เป็นความจริงที่สะท้อนความศรัทธาอันแรงกล้าที่มีต่อ “เจ้าพ่อพะวอ” ได้เป็นอย่างดี

เหล่านี้สะท้อนความศรัทธาทั้งจากคนไทยในเมือง คนไทยกะเหรี่ยงที่มีต่อองค์เจ้าพ่อฯ

คนรุ่นใหม่อย่าง เอก แม่สอด เกิดมาก็เห็น เกิดมาก็รับรู้ถึงศรัทธานี้แล้ว คนรุ่นพ่อรุ่นแม่ก็ห้อยเหรียญเจ้าพ่อพะวอ ถึงวันนี้ก็ยังจัดสร้างกันทุกๆปี เวลาที่มีพิธีบวงสรวงประจำปีก็จะขับรถมอเตอร์ไซค์จากบ้านที่มีระยะทางห่างกันไกลเหมือนกัน เพื่อไปร่วมพิธี

“ศาลเจ้าพ่อพะวอ” แห่งนี้เป็นศาลเก่าแก่ดั้งเดิมเป็นศาลแรก คนแม่สอดจะเรียกกันว่า “ศาลใหญ่” เป็นศาลหลักอยู่บนภูเขาสูง ถนนเส้นทางแม่สอดตากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 ค้นหาได้ในแอปพลิเคชันแผนที่ “ศาลเจ้าพ่อพะวอ” เส้นทางจะโค้งไปโค้งมา ไล่เรียงไปตามสภาพภูมิประเทศ

บริเวณศาลแห่งนี้แม้ว่าจะได้รับการปฏิสังขรณ์ บูรณะปรับปรุงอยู่เรื่อยๆมาโดยตลอดแต่ตัวศาล รูปหล่อเจ้าพ่อพะวอนั้นยังคงความเก่าแก่ดั้งเดิมก็ยังคงอยู่ให้เห็น เพียงแต่มีการทาสี เปลี่ยนกระเบื้องใหม่ไปบ้าง

...

ตั้งแต่เรียนหนังสือเป็นอาสาสมัครกู้ภัย ได้ขึ้นไปช่วยงานที่ศาลเจ้าพ่อพะวออยู่ตลอด โบกรถบ้าง จิตอาสาบ้าง ประสบการณ์ที่เห็นมาตลอด...ใครที่ไปปลุกเสกเหรียญที่นี่จะได้รับความนิยมอย่างมาก คนบูชาก็นิยม

แต่ปีหนึ่ง...จะให้ทำได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ไม่ใช่ว่าใครจะไปทำเมื่อไหร่ก็จะทำได้ วันที่ 31 ตุลาคมของทุกปีจะมีงานบวงสรวงใหญ่ที่ว่านี้ แต่สำหรับกรณีส่วนตัวใครจะไปกราบไหว้ สักการะ ขอพรก็ไปได้ตลอด ไม่ได้ห้าม...โควิด-19 ระบาดแนวชายแดน ภาระหนักอึ้งของทุกฝ่าย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติ

เขาก็เป็นหนึ่งในอีกแรงสำคัญที่ช่วยตรวจตรา ทำหน้าที่อย่างหนักเป็นด่านสกัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อร้ายเข้าไทย ร่วมส่งกำลังใจไปให้ น้ำใจเล็กๆน้อยๆ...แค่เสียงชม รอยยิ้มที่คนแม่สอดหรือคนไทยที่แวะเวียนผ่านไปมีให้กันก็ดีมากแล้ว

O O O

บันทึกบอกกล่าวเล่าขานสืบต่อกันมา...กล่าวกันว่าในอดีต “เจ้าพ่อพะวอ” นั้นเป็นนักรบชาวกะเหรี่ยงปกากะญอและเป็นนายด่านแม่ละเมาเมืองหน้าด่านของไทยในสมัยของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

ลักษณะของเจ้าพ่อพะวอนั้น ร่างกายกำยำ สูงใหญ่ ถือง้าวเป็นอาวุธประจำตัว... มีใบหน้าที่ดุดันยิ่งนัก

วีรกรรมสำคัญ “เจ้าพ่อพะวอ” คอยปักหลักต่อสู้กับชาวพม่า อย่างกล้าหาญและมากยิ่งด้วยความเสียสละชีพ เพื่อปกป้องผืนแผ่นดิน นั่นคือที่มาของผู้กล้าหาญที่ถูกเล่าต่อๆมา จนทำให้ผู้คนต่างยกย่อง

“ศาลเจ้าพ่อพะวอ” ที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองอำเภอ แม่สอดและบริเวณถนนแม่สอด-ตากจะมีผู้คนจาก ทั่วทุกสารทิศที่เดินทางผ่านไปผ่านมาแวะกราบไหว้สักการะ ไม่เว้นแม้แต่ชาวพม่าที่เมื่อมาแล้วก็ต้องมากราบไหว้บูชา เพื่อให้เจ้าพ่อท่านบันดาล... “ความสุข” “ความเจริญ”...ให้ทุกครั้งไป

...

อีกเรื่องราวที่ถูกเล่าขานต่อกันมา หากย้อนไปในสมัยก่อนที่บ้านเมืองยังไม่เจริญเท่าทุกวันนี้ หากเกิดเหตุการณ์ร้ายๆขึ้นมาแล้ว

ผู้คนในท้องถิ่นก็มักจะได้ยินเสียงคำรามก้องไปทั่วของ “อาม๊อก” หรือ “ปืนหิน” ที่ตั้งอยู่บนผาขุนเขาพะวอ น่าสนใจ อีกว่า...ในบางครั้งก็อาจจะได้ยินเสียงฝีเท้าม้าวิ่งรอบๆเมืองพร้อมกับเสียงพรวนอีกด้วย

เรื่องราวเล่าขานเหนือธรรมชาติเป็นเช่นนี้ และให้รู้กันโดยทั่วว่า...เจ้าพ่อพะวอ ด้วยความที่ท่านเป็นนักรบโบราณชาวกะเหรี่ยงทำให้ท่านชอบเสียงปืน เสียงประทัดเป็นอย่างมาก เป็นคำตอบที่ว่า...เหตุใดผู้คนที่สัญจรผ่านไปมานั้นจึงชอบแวะจุดประทัดถวาย หรือไม่ก็จะบีบแตรส่งเสียงแสดงความเคารพทุกๆครั้งเมื่อขับรถถึงหน้าศาล... โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในท้องถิ่น ที่มักจะเล่าลือกันปากต่อปากกันอย่างเข้มแข็งด้วยว่า...หากคน ในพื้นที่คนใด ขับรถผ่านหน้าศาลเจ้าพ่อพะวอแล้วจงใจไม่บีบแตร ก็อาจจะเกิดเคราะห์ร้ายทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

เรื่องทำนองอย่างนี้...ใครไม่เจอกับตัวก็คงไม่รู้ โดยเฉพาะเมื่อรู้แล้วก็ควรทำ แบบที่เรียกว่า...“เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม”

...

“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.

รัก-ยม