จากการสำรวจสถานการณ์สุขภาพช่องปากของประเทศไทยครั้งล่าสุด (ปี 2560) พบว่าเด็กอายุ 3 ปีที่มีคราบจุลินทรีย์อยู่ในระดับเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุ มีถึงร้อยละ 41.5
คราบจุลินทรีย์ คืออะไร เราต้องมาทำความรู้จักอย่างจริงจัง เพื่อจะได้ดูแลป้องกันไม่ให้เด็กๆ มีฟันผุ
คราบจุลินทรีย์ หรือคราบพลัค มีลักษณะเหมือนแผ่นฟิล์มเหนียวๆ ไร้สี เกาะเป็นแผ่นฟิล์มที่มีเชื้อโรคหลายชนิดรวมถึงเชื้อโรคที่ก่อฟันผุรวมตัวกันบนผิวฟัน และอยู่บริเวณขอบเหงือก (คอฟัน) เป็นคราบสีขาว-เหลือง
หากเชื้อโรคที่สัมผัสผิวฟันได้รับอาหารอันได้แก่ แป้ง และน้ำตาล จะทำให้เชื้อโรคสร้างกรด ซึ่งสามารถทำลายฟันทำให้ผิวฟันสูญเสียแร่ธาตุ ถ้าฟันได้รับกรดตลอดเวลานานๆ จะทำให้เกิดการสูญเสียแร่ธาตุต่อเนื่องและมากพอที่ผิวฟันจะถูกทำลายจนเกิดเป็นรูฟันผุในที่สุด
นอกจากจะเกิดฟันผุแล้ว คราบจุลินทรีย์ยังสามารถผลิตสารพิษสู่เหงือกรอบๆ ฟันได้ ทำให้เกิดโรคเหงือกอักเสบ มีอาการบวม แดง และมีเลือดออก รวมถึงมีกลิ่นปากได้
โดยจำนวนเชื้อโรคในช่องปากสามารถเพิ่มจำนวนได้ หากไม่กำจัดออก เช่น ถ้าไม่แปรงฟัน 1 วัน เชื้อโรคเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า แบบนี้ ถ้าไม่แปรงต่อเนื่องไปอีกหรือแปรงไม่สะอาดพอ ลองคิดดูในช่องปากจะมีจำนวนเชื้อโรคขยายไปอีกเยอะแค่ไหน น่ากลัวมาก
หากอยากรู้ว่า ฟันมีคราบจุลินทรีย์ไหม ทำได้ง่ายๆ โดยใช้หลอดดูดน้ำสีเข้ม ตัดปลายแฉลบ และมนปลายเล็กน้อยเขี่ยให้ครอบคลุมบริเวณโคนฟันและตัวฟัน หากพบว่า มีคราบสีขาวหรือเหลือง แปลว่า มีคราบจุลินทรีย์ ควรแปรงฟันทำความสะอาดซ้ำ
ยังมีวิธีสังเกตอีกว่า เป็นคราบจุลินทรีย์เก่าหรือใหม่ หากเป็นคราบใหม่ มักเป็นสีขาว บาง นิ่ม สามารถแปรงออกได้ง่าย
แต่ถ้าเป็นคราบเก่า คราบจะหนา ซึ่งจะมีเชื้อโรคเกาะตัวหนาขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกินอาหารที่มีน้ำตาลบ่อยๆ เชื้อโรคจะเพิ่มขึ้นและสร้างสารคล้ายกาวทำให้การยึดเกาะของเชื้อโรคเพิ่มมากขึ้น ทำให้ทำความสะอาดยากขึ้น ทำให้ฟันมีโอกาสผุได้มากขึ้น จึงต้องเพิ่มความถี่และเวลาในการแปรงฟันมากขึ้น ดังนั้น เพื่อไม่ให้คราบจุลินทรีย์หนามากจนไม่สามารถเอาออกได้ จึงควรแปรงฟันให้สะอาดทุกวัน โดยควรตรวจสอบว่าทำได้สะอาดเพียงพอหรือไม่ร่วมด้วย
ป้องกันการเกิดฟันผุต้องให้ฟลูออไรด์ช่วย
ในการแปรงฟันนั้น จำเป็นต้องใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ร่วมด้วย เพราะการแปรงฟันช่วยในการลดเชื้อโรค ในขณะที่ฟลูออไรด์จะเป็นตัวเฝ้าระวังรอบๆ ผิวฟันไม่ให้เกิดการสูญเสียแร่ธาตุจากกรดของเชื้อโรคและเสริมความแข็งแรงให้กับตัวฟัน เพราะฟลูออไรด์จะเป็นตัวช่วยยับยั้งกลไกการนำน้ำตาลไปสร้างกรด ในขณะเดียวกัน หากมีการสร้างกรดขึ้นมาแล้ว ฟลูออไรด์ก็จะมีการจับประจุของกรด ทำให้ลดปริมาณกรดในช่องปาก ลดโอกาสเกิดฟันผุได้ และในช่วงที่มีการสูญเสียแร่ธาตุ ฟลูออไรด์ก็จะเข้าไปยับยั้งการสลายแร่ธาตุออกมา และนำแร่ธาตุคืนกลับไปที่ตัวฟันได้
ดังนั้นการแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่ผสมฟลูออไรด์ อย่างน้อย 1,000 ppm อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง จึงเป็นวิธีการที่ช่วยป้องกันฟันผุได้ เพราะเป็นการกำจัดแผ่นคราบจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคและช่วยปรับสมดุลการสร้างและสลายแร่ธาตุบนผิวฟันอีกด้วย
เริ่มดูแลฟันลูกตั้งแต่วันนี้ แปรงฟันป้องกันอนาคตลูกผุ ถ้าไม่รู้จะเริ่มอย่างไร สามารถเข้าไปเรียนรู้เพิ่มได้กับ Chatbot 21 วันฟันดี สมัครฟรีที่ http://m.me/21daysgoodteeth