สาวๆ หลายคนน่าจะเคยเจอเหตุการณ์เหล่านี้ เช่น อยากลดความอ้วนด้วยการคุมอาหาร แต่ตบะแตกในสามวัน, อยากออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3 ครั้ง แต่ 5 นาทีต่อวันก็ยังไม่ได้ทำ, อยากตื่นเช้าขึ้นอีกสักนิด อยากนอนดึกน้อยลง ทานอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น หรือแม้กระทั่งอ่านหนังสือให้ได้วันละ 1 บท ทั้งหมดที่ว่ามานี้ ตั้งเป้าหมายไว้ตั้งแต่ต้นปี แต่ก็ยังไม่ได้ทำสักที และนี่ก็ไม่ใช่ปีแรกที่เราตั้งเป้าหมายเหล่านี้เป็น New Year Resolution ช่วงขึ้นปีใหม่

อย่าเพิ่งท้อใจไปค่ะ! อย่างน้อย ถ้าคุณมีความคิดว่าจะตั้งเป้าหมายอะไรบางอย่างให้กับชีวิต นั่นถือเป็นใบเบิกทางสู่ประตูที่เปิดกว้าง ทุกความฝันและความสำเร็จกำลังใกล้เข้ามาในชีวิตคุณแล้ว ลองกลับไปสำรวจเป้าหมายที่เขียนตอนต้นปี แล้วดูสิว่า อะไรทำให้เราไปไม่ถึงเป้าหมายนั้นสักที ไม่ว่าเหตุผลนั้นจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ MIRROR มั่นใจว่ามีหนึ่งอย่างที่หายไปทำให้เราไม่ได้สิ่งที่เราต้องการในเร็ววัน คำคำนั้นคือ "วินัย" ไบรอัน เทรซี่ นักเขียนและผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ เคยพูดไว้ว่า วินัยคือกุญแจสู่ความสำเร็จ แต่คนเรามักจะเดินทางตามความสุขความสบายมากกว่าการยึดอยู่กับวินัย เพราะง่ายและสนุกกว่า ลองเช็กดูกันหน่อยไหมคะว่าเราเป็นหนึ่งในนั้นหรือเปล่า ถ้าใช่ ไม่ต้องกังวลไป ทุกอย่างเริ่มใหม่ได้เสมอ เราลองมาเริ่มจากการมีวินัยกับเป้าหมายของตัวเองกันค่ะ

...

ในหนังสือ "กำจัดทุกข้ออ้างออกไปจากชีวิต" ของไบรอัน เทรซี่ ได้ให้หลักในการทำตามเป้าหมายอย่างมีวินัยเอาไว้ โดยเขาบอกว่า 3% ของมนุษย์ที่เขียนเป้าหมายแล้วทำอย่างมีวินัยนั้น มีรายได้มากกว่าคนอีก 97% ที่เหลือรวมกันเสียอีก แปลว่า ถ้าวันนี้คุณอยากเพิ่มรายได้หรือมีชีวิตที่มั่นคง คุณต้องเริ่มตั้งเป้าหมายและลงมือทำอย่างมีวินัยแล้วล่ะ!

ขั้นตอนที่ 1 ตัดสินใจให้ชัดว่าเราอยากได้อะไร

ถ้าเราอยากจะไปเที่ยว แต่ไปยืนงงอยู่หน้าตู้ขายตั๋ว พนักงานจะเลือกตั๋วตามจังหวัดที่คุณอยากไปได้ไหมคะ เป็นไปไม่ได้ ถ้าเราอยากไปเชียงใหม่ เราต้องบอกไปเลยว่าอยากไปเชียงใหม่ เวลาไหน วันไหน ถูกไหมคะ การตั้งเป้าหมายก็เหมือนกัน ถ้าคุณยังไม่เคลียร์กับตัวเองว่าสิ่งที่คุณต้องการคืออะไร คุณก็เหมือนกับคนที่ยืนงงอยู่หน้าตู้ขายตั๋ว สิ่งที่ต้องทำก็คือ ตัดสินใจเลยค่ะ อยากทำอะไรให้สำเร็จ เช่น ถ้าอยากลดน้ำหนัก ให้กำหนดด้วยว่ากี่กิโลฯ ภายในกี่เดือน หรือถ้าอยากมีรายได้เพิ่มขึ้น อยากมีเพิ่มอีกกี่เปอร์เซ็นต์หรือต้องการมีเงินจำนวนเท่าไรภายในกี่เดือน 

เป้าหมายยิ่งชัด ยิ่งละเอียด โอกาสที่คุณจะไปถึงก็ยิ่งมากขึ้นนั่นเอง

ขั้นตอนที่ 2 เขียนเป้าหมายออกมา

อย่าจำกัดเอาไว้แค่ในหัวเรา เพราะเราจะลืมค่ะ การเขียนเป้าหมายก็เหมือนกับการวาดแผนที่ เพื่อให้เราได้มองเห็น อ่าน หรือแม้กระทั่งปรับเปลี่ยนได้เช่นกัน 

เช่นเดียวกับขั้นตอนที่ 1 ยิ่งละเอียดเท่าไร ยิ่งทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้นเท่านั้น

ขั้นตอนที่ 3 กำหนดเส้นตายให้เป้าหมาย

ระยะเวลา จะเป็นตัวคอยบังคับให้เราเดินตามเป้าหมายได้อย่างชัดเจนขึ้น เหมือนเวลาที่เราทำงานแล้วมี Deadline สังเกตไหมคะว่าเราจะเร่งสปีดเบอร์เต็มเพื่อให้เสร็จทันเวลา แต่หลายคนเวลาตั้งเป้าหมายแล้วชอบหยวนกับตัวเองใช่ไหมล่ะ ไม่ใช่วันนี้ พรุ่งนี้ก็ได้ สรุปว่าไม่ได้ทำสักที เพราะฉะนั้น ให้กำหนดเวลาที่ชัดเจน ไม่ใช่แค่คร่าวๆ นะคะ ลงวันที่ เดือน เวลาไปด้วยเลยจะดีมากๆ ลองเริ่มจากเป้าหมายรายวันก็ได้นะคะ เช่น วันนี้จะไม่รับประทานของทอด หรือจะเดินให้ครบกี่ก้าวตามที่เราวางไว้ พอเราทำสำเร็จในแต่ละวัน เราจะภูมิใจ แล้วค่อยตั้งเป้าหมายระยะยาว เป็นรายเดือนหรือรายปี ก็จะทำให้เราต้องท้าทายตัวเองมากขึ้น แต่ได้รับผลที่คุ้มค่าแน่นอนค่ะ

...

ขั้นตอนที่ 4 เขียนทุกสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย

เขียนเป้าหมายออกมาอย่างเดียวไม่พอค่ะ ต้องเขียน "วิธีการ" ด้วย เพราะไม่อย่างนั้น เป้าหมายก็จะเป็นเพียงแค่ความฝัน สิ่งที่คุณต้องทำคือเขียนวิธีการ ระบุอุปสรรค ความยากลำบากที่จะเจอ คนที่ต้องขอคำปรึกษาหรือความช่วยเหลือ ไปจนถึงสิ่งต่างๆ ที่ต้องทำในแต่ละขั้นตอนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายใหญ่ของเราให้ได้ เมื่อได้เขียนออกมา คุณจะพบกับแผนที่ที่ลงรายละเอียด ใครที่ชอบเดินทางจะรู้ว่า ยิ่งแผนที่ละเอียดเท่าไร เรายิ่งประหยัดเวลาในการเดินทางมากขึ้นเท่านั้น และเปอร์เซ็นต์ของการหลงทางก็แทบจะเป็นศูนย์ ลองคิดแบบนี้กับเป้าหมายของคุณดูสิคะ ใจเต้นแรง อยากลุกขึ้นไปทำเดี๋ยวนี้เลยใช่ไหมล่ะ

ขั้นตอนที่ 5 เรียงลำดับสิ่งที่ต้องทำตามความสำคัญ

พูดง่ายๆ ว่าทำสิ่งสำคัญก่อนค่ะ จากข้อ 4 ให้ใส่ไปเลยว่าอันไหนที่ต้องทำก่อน อันไหนรอได้ การระบุความสำคัญและเรียงลำดับแบบนี้จะทำให้เราเห็นภาพรวมทั้งหมดซึ่งจะง่ายต่อการทำในขั้นตอนต่อๆ ไปนั่นเอง

...

ขั้นตอนที่ 6 ลงมือทำตามแผนทันที

ไม่มีการรีรอหรือผัดวันประกันพรุ่ง เพราะนั่นคือสาเหตุหลักที่ทำให้เราไม่เคยสำเร็จตามเป้าหมายสักที จริงไหมคะ ลองลงมือทำตามขั้นตอนที่เราระบุในขั้นตอนที่ 5 ทำไปเรื่อยๆ อย่าหยุด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราอาจจะลดระยะเวลา แต่อย่าทิ้งไปเลยนะคะ เช่น ถ้าเรากำหนดว่าต้องออกกำลังกายวันละหนึ่งชั่วโมง วันไหนธุระมากจริงๆ อาจจะแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงละ 30 นาที หรือถ้าไม่ได้จริงๆ ลองใช้วิธีออกกำลังกายแบบอื่น ที่ได้ผลใกล้เคียงกัน ทำติดกันไปเรื่อยๆ ทุกวัน คุณจะเกิดความเคยชิน และวินัยก็จะเกิดขึ้นเองโดยที่คุณไม่รู้ตัวเลยละค่ะ

ขั้นตอนที่ 7 สร้างแรงเหวี่ยงที่จะช่วยให้คุณเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น

ด้วยการลงมือทำอะไรบางอย่าง เช่น ลงคอร์สเรียนที่สร้างความรู้หรือแรงบันดาลใจ หรือทำอะไรบางอย่างติดต่อกันสัก 7 วัน เพื่อฝึกวินัยเล็กๆ ให้ตัวเอง วิธีนี้จะช่วยให้คุณเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้นอย่างน้อยอาทิตย์ละก้าวก็ยังดี ยิ่งทำไปเรื่อยๆ จะเกิดแรงเหวี่ยงให้เรารู้สึก "ฮึด" มากขึ้นด้วยนะคะ

...

ทำครบ 7 ขั้นตอนนี้ ไม่ใช่แค่จะสำเร็จถึงเป้าหมายกันทั่วหน้า แต่ยังสร้างนิสัยแห่งการพัฒนา หรือ "วินัย" ให้แข็งแรงขึ้นด้วย Lady MIRROR คนไหนกำลังต้องปั่น KPI หรือต้องเร่งทำยอดให้ได้ผลงานปลายปี หรือใครกำลังคิดถึงน้ำหนักเดิมก่อนที่จะพุ่งเพิ่มขึ้นมา แนะนำให้ลองทำดูค่ะ อีก 3 เดือนกว่าจะถึงสิ้นปี MIRROR มั่นใจว่าทุกคนจะสำเร็จทะลุเป้าทันเวลาอย่างแน่นอนค่ะ