21 มิถุนายน 2563 วันสิ้นโลกไม่จริง แต่กลางวันนานที่สุดในรอบปี และมีสุริยุปราคา

21 มิถุนายน 2563 วันสิ้นโลกถูกลือกันในหลายเว็บไซต์ ซึ่งเรื่องนี้ละเอียดอ่อนต่อความเชื่อของผู้อ่าน การพูดถึง “วันสิ้นโลก” อีกครั้งทำให้เกิดข้อสงสัยว่า วันสิ้นโลกมีจริงไหม วันนี้ไทยรัฐออนไลน์ค้นหาคำตอบทางวิทยาศาสตร์มาให้คุณติดตามไปพร้อมๆ กัน

มีข่าวลือว่านักวิทยาศาสตร์คำนวณวันสิ้นโลกผิดพลาด ไม่ใช่ปี 2012 แต่เป็น 2020 แถมระบุวันว่าวันสิ้นโลก 21 มิถุนานี้แน่! งานนี้ร้อนใจกันไปทั้งโลก ตกใจเตรียมตัวไม่ทัน ทีมงานได้โทรศัพท์สัมภาษณ์ อ.ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยวันสิ้นโลกที่แท้จริง

ความเชื่อวันสิ้นโลกตามปฏิทินมายามีอยู่จริงไหม

คำว่า “วันสิ้นโลก” ถูกพูดถึงอยู่ในทุกยุค ทุกสมัย ทุกวัฒนธรรม วันสิ้นโลกมีจริงไหมนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีหลักฐานยืนยันพิสูจน์ได้ "วันสิ้นโลกถูกพูดถึงอยู่หลายครั้ง ในปฏิทินมายาก็เช่นเดียวกัน มีการตีความให้เป็นไปในทางว่ากำหนดวันสิ้นโลก ทั้งที่ในทางวิชาการไม่มีกล่าวถึงเลย"

วันสิ้นโลก มีอยู่จริงไหม โลกเราจะแตกหรือเปล่า

คนที่ตระหนกว่าวันที่ 21 มิถุนายน 63 โลกจะแตกไหม ต้องดูเหตุผลว่าโลกเราจะสิ้น ก็เมื่อแหล่งพลังงานเราหมด อาจารย์สธนชี้แจงว่า “ทางวิทยาศาสตร์สามารถคำนวณได้จากการเปลี่ยนแปลงของดวงอาทิตย์ที่จะขยายตัวเป็นดาวยักษ์แดงถึงจุดจบ ในอีก 4,500 ล้านปีข้างหน้า ณ วันนั้นโลกเราคงไม่อยู่แล้ว”

(และเราคงไม่อยู่แล้วเช่นกัน)

“ยกเว้นว่าระหว่างนี้จะมีเหตุที่เป็นอุบัติการณ์เกิดขึ้น เช่น อุกกาบาตชนโลก แต่ปัจจุบันก็ยังไม่พบวัตถุที่มีโอกาสมาชนโลกแต่อย่างใด” อาจารย์สธนกล่าว

วันที่กลางวันยาวกว่ากลางคืน และสุริยุปราคาวงแหวน 21 มิถุนายน 2563 เป็นเรื่องบังเอิญไหม

การเกิดสุริยุปราคาในวันที่ 21 มิถุนายน 2563 พร้อมกับปรากฏการณ์กลางวันยาวนานที่สุดในรอบปีเรียกว่า ครีษมายัน ความเชื่อปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะคำนวณล่วงหน้าได้ด้วยวิธีทางคณิตศาสตร์ โดยอาศัยตำแหน่งของโลก และดวงอาทิตย์ ที่มีการบันทึกมากว่า 2,000 ปี และเทคโนโลยีปัจจุบัน ได้ปรับปรุงวิธีการคำนวณได้อย่างแม่นยำขึ้น จนสามารถใส่วันที่ และปี เพื่อคำนวณได้ว่าจะเกิดสุริยุปราคาได้ในตำแหน่งใด และเมื่อไหร่

ซึ่งครั้งหน้าจะเกิดสุริยุปราคาบางส่วนในไทยอีกครั้งในวันที่ 2 สิงหาคม 2570

ครีษมายัน กลางวันยาวนานที่สุดที่ไหน

สำหรับวันที่ 21 มิถุนายน 2563 นี้ คนที่อยู่ทางตำแหน่งละติจูดด้านเหนือ จะสังเกตเห็นช่วงเวลากลางวันที่ยาวนานที่สุดได้ ยกตัวอย่างเช่นในอเมริกาก็จะมีการทดเวลาการทำงานเพื่อไปชดเชยในช่วงปลายปีที่มีวันที่กลางคืนนานที่สุดด้วย

แสงอาทิตย์ตั้งฉากกับโลกที่ละติจูดที่ 22 - 23.5 องศาเหนือ ประเทศที่จะร้อนที่สุดคือจีน ส่วนไทยเราไม่ต้องเป็นห่วง มีมรสุมพัดมาอยู่นอกจากจะไม่ร้อนจัดแล้วยังมีฝนบางพื้นที่ด้วย

สุริยุปราคาวงแหวน 21 มิถุนายน 2563 เห็นที่ไหนบ้าง

ปรากฏการณ์สุริยุปราคาครั้งนี้เป็นแบบวงแหวน คือ เงาของดวงจันทร์ บังดวงอาทิตย์ แต่ในประเทศไทยจะพบเห็นได้ไม่เต็มดวง

NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ให้ข้อมูลว่าคนไทยสังเกตปรากฏการณ์สุริยุปราคาวงแหวนได้บางส่วนในช่วงเวลา 13.00 - 16.10 น. ดวงอาทิตย์จะเว้าแหว่งที่สุดในเวลา 14.49 น. ในแต่ละจังหวัดเห็นได้ชัดต่างกัน ดังนี้

• ภาคเหนือ ดวงอาทิตย์ถูกบดบังมากที่สุด 63% ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
• กรุงเทพมหานคร ดวงอาทิตย์ถูกบดบังมากที่สุด 40%
• ภาคใต้ ดวงอาทิตย์ถูกบดบังมากที่สุด 16%

และเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ไม่ได้ตั้งจุดสังเกตการณ์ให้ประชาชนได้ส่องดูดาว แต่จะจัด LIVE สดจาก 4 จุดสังเกตสุริยุปราคาในวันที่ 21 มิถุนายน 2563 เวลา 13.00 - 16.10 น. ในเพจ FB : NARITpage จากหอดูดาว 4 แห่ง ต่อไปนี้

• อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
• หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ นครราชสีมา
• หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ ฉะเชิงเทรา
• หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ และสงขลา

ปรากฏการณ์วันที่กลางวันยาวนานที่สุด มีผลต่อสภาพอากาศ เช่น น้ำแข็งขั้วโลกละลายไหม

ปรากฏการณ์กลางวันยาวที่สุดเป็นเหตุการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นอยู่แล้วทุกปี และการที่วันหนึ่งวันของโลกมีกลางวันยาวที่สุดแค่วันเดียว ไม่ได้ส่งผลต่อสภาพอากาศที่เป็นอยู่ เท่าผลการกระทำของมนุษย์ ดังนั้นวันที่กลางวันยาวที่สุด ก็ไม่ได้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลก

ปัจจัยที่ส่งผลให้ภูมิอากาศของโลกเปลี่ยนแปลงฉับพลัน คือ กิจกรรมการกระทำต่างๆ ของมนุษย์ เช่น การปล่อยก๊าซพิษจากโรงงาน, การปล่อยน้ำเสียลงสู่แม่น้ำลำคลอง, การถางป่าทำลายแหล่งต้นน้ำ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราควรช่วยกันดูแล ให้โลกเรามีสุขภาพที่ดี อยู่กับเราไปได้นานๆ

สรุปว่า 21 มิถุนายน 2563 วันสิ้นโลกไม่เกิดขึ้นแน่นอน อาจารย์ฟิสิกส์ทิ้งท้ายว่า ในสังคมทั่วโลกมีผู้ที่พยายามสร้างความตื่นตระหนกเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ของตัวเอง เช่น การขายอุปกรณ์กันภัย ขายโฆษณา ดังนั้นหากพบเจอข่าวลือลักษณะนี้ก็ต้องทราบจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ หรือสอบถามจากเจ้าหน้าที่รัฐ ทีนี้ก็ทราบแล้วว่า กว่าโลกจะแตก เราคงอยู่ไม่ทันเห็น

ที่มา : NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ