ศรัทธาความเชื่อเกี่ยวกับการยับยั้งเรื่องร้ายๆในทางโหราศาสตร์ตำราจีนยังคงเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจใคร่รู้สำหรับคนที่อยาก “รู้” และ “เชื่อ” ในเรื่องราวเหล่านี้
สรรพคุณของ “ฮู้” หรือ “ยันต์จีน” และวิธีใช้ ข้อมูลสำคัญจากนักเขียนผู้ใช้นามปากกาว่า “สิงห์-สุริยันต์” ระบุว่า ฮู้เป็นคำจีนแต้จิ๋วค่ะ ความรู้เรื่องฮู้ได้จากการเห็นตั้งแต่เด็กค่ะ แต่วนเวียนอยู่แค่ยันต์ไต้ฮงกง กับแชเล้งฮู้ แปลว่ายันต์มังกรเขียวของท่านเซียนสง่าแห่งวิหารเซียน
“ทุกวันตรุษจีนจะเป็นการที่คุณพ่อให้เปลี่ยนยันต์ไต้ฮงกงติดที่เหนือประตูทางเข้าบ้านแบบติดตายตัวทุกปี เพราะเป็นยันต์ที่มีอายุใช้งานแค่ปีเดียว ส่วนแชเล้งฮู้จะเป็นการที่คุณพ่อจะใช้เผาทำเป็นน้ำมนต์ จะใช้ก็ต่อเมื่อคุณพ่อมีเรื่องสำคัญเช่น จะไปทำงานใหญ่ที่ต้องการความราบรื่นและความสำเร็จ....
เช่น ในวันที่ไปสัมภาษณ์งาน คุณพ่อจะทำน้ำมนต์จากการเผายันต์แชเล้งฮู้ให้ขี้เถ้ายันต์ตกอยู่ในแก้วน้ำดื่ม จิบแบบกลั้นใจสามอึก พร้อมอธิษฐาน หรืออย่างก่อนคุณพ่อคุณแม่จะไปเข้าโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดก็จะดื่มน้ำมนต์แชเล้งฮู้ก่อนออกจากบ้าน แถมด้วยการต้องพกยันต์ไต้ฮงกงไปติดไว้ที่หัวเตียงคนไข้ หรือไว้ใต้หมอนให้คุ้มครองจากวิญญาณผู้ป่วยที่เสียชีวิตแล้วไม่ได้ไปไหนมารบกวนและทำให้คนไข้ดวงตก”
...
มีแฟนคลับรายหนึ่งเล่าว่า ทุกครั้งที่เข้าผ่าตัดในโรงพยาบาลจากเคสเป็นมะเร็ง ถ้าฝันก่อนผ่ามักจะทำให้การผ่าตัดมีปัญหา เช่น หมอลืมผ้าก๊อซไว้ต้องเปิดผ่าใหม่ มีครั้งหนึ่งฝันแล้วจำได้แม่น ผู้ชายในฝันบอกว่าช่วยทำบุญให้ด้วยนะ ก็ถามไปในฝันว่า จะให้ทำให้ใครล่ะ ชายในฝันก็บอกชื่อนามสกุลให้
อันนี้เป็นตัวอย่างชัดเจนถึงการควรมียันต์ไว้ติดตัวคนไข้และอยากให้ทาง รพ.ช่วยเข้าใจด้วยค่ะ
ด้วยหลักการแล้ว ยันต์จีนคือการเขียนคำจีนที่ต้องการบอกต่อสิ่งที่เราต้องการสื่อสาร เป็นการรวบรวมคำเข้ามาอยู่ในกระดาษแผ่นหนึ่งซึ่งเท่าที่สังเกตก็มีมาตรฐานบังคับอยู่เหมือนกัน
อย่างตรุษจีนปี 2563 พบว่า ศาลเจ้าที่ฮ่องกงต้องส่งคืนยันต์ที่สั่งพิมพ์มาเพราะขนาดใหญ่เกินไป
และยันต์แบบพิมพ์อาจเป็นกระดาษที่หนาได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าเป็นยันต์แบบซินแสเขียนด้วยมือสดๆ ต้องใช้กระดาษบางสุดที่เป็นกระดาษรีไซเคิลเท่านั้น
“ยันต์แบบนี้เวลาเผาเพื่อทำน้ำมนต์ต้องระวังมากเพราะเหลือขี้เถ้าแค่ปลายก้อย และถ้าพกติดตัวเพื่อคุ้มครองทางฮ่องกงจะพับเป็นสามเหลี่ยมเล็กๆเท่านั้น”
@ @ @ @
การจะเขียน “ยันต์” ไม่ใช่ว่าใครๆก็เขียนได้ “ซินแส” ที่จะเขียนยันต์ได้ต้องมีทั้งองค์ความรู้ในยันต์แต่ละชนิด ในขณะที่ที่เมืองไทยต้องทำตัวให้สะอาดด้วยการกินเจ แต่ที่ฮ่องกงไม่ต้องกินเจ หากต้องเป็นการมีพลังพิเศษในตัวซินแส
จิตรา ก่อนันทเกียรติ นักสะสมความรู้เรื่องจีน เสริมว่า จากข้อมูลที่พบมา “ยันต์” จะมี “พลังขลัง” ด้วยเหตุผลดังนี้ หนึ่ง...ยันต์ไต้ฮงกงเป็นยันต์แบบพิมพ์เป็นจำนวนมหาศาล ไม่ต้องเบิกเนตรอะไรอีกก็ใช้ได้แล้ว อาจด้วยเหตุผลว่าศาลเจ้าขลังด้วยพลังศรัทธายาวนาน มีการสวดมนต์ทำพิธีกรรมถูกต้องครบถ้วน ด้วยยันต์กระดาษสีแดง ลูกจีนทุกบ้านติดตอนตรุษจีน ครั้นถึงปลายปีสีแดงเมื่อถูกแดดเลียสีก็จะซีด...
...
แต่เห็นสีแดงชาดที่ประทับตรายางหลวงปู่ไต้ฮงกงให้ชัดขึ้นมา
สอง...ยันต์จากศาลเจ้าเวลามีงานพิธีกรรมใหญ่ที่ต้องใช้ร่างทรง ตรงนี้จะเป็นการไขปริศนาหนึ่งว่าทำไมร่างทรงต้องทำร้ายร่างกายให้เลือดตก เพราะการทนเจ็บได้แล้วยังมีสมาธิที่นิ่งแน่วแน่น
อาจสะท้อนการมีพลังเจ้ามา “ทรง” อยู่ในร่างที่เป็นคำเฉพาะว่า “องค์ลง”
จิตราใช้เวลาสังเกตร่างทรงที่ศาลเจ้าแม่ทับทิมแห่งหนึ่งอยู่หลายปี กระบวนการพิธีกรรมที่นี่ต้องใช้เลือดร่างทรง เช่น อาจเชือดลิ้นนิดนึงให้เลือดหยดลงในชามที่ใส่น้ำชาดเมื่อจบพิธีกรรมแล้วร่างทรงมักจะยังไม่หมด “พลังเจ้า” จะใช้เวลาที่เหลืออยู่เบิกเนตรฮู้ให้ชาวบ้านที่รู้สรรพคุณ...
ด้วยพู่กันจีนที่ยังมีหมึกที่ใช้ชาดผสมเลือดป้ายให้ที่ฮู้
สาม...ยันต์แชเล้งฮู้ของคุณสง่า กุลกอบเกียรติ ผู้สร้างวิหารเซียน นักธุรกิจมากมายนับถือท่านมาก ที่เคยเห็นกับตาคือ เคยไปหาท่านที่บ้านแล้ว เห็นท่านนั่งสบายๆบนเก้าอี้โซฟา มือจับอยู่บนหัวผู้หญิงวัยสัก 50 ปี ร่างท้วมนั่งที่พื้นแบบหน้าแดงก่ำตัวสั่นพั่บๆๆๆ
...
...ไม่เคยเห็นใครมีพลังลี้ลับประหลาดล้ำอย่างนี้มาก่อนเลย?
สี่...ในขณะที่ยันต์ของทางศาลเจ้าที่ฮ่องกงจากที่ได้ความรู้จากสองซินแส ทั้งสองท่านนี้ทางฮู้จะเป็นหลักเดียวกันคือเป็นสายพลังอสุนีบาต จึงไว้ด้วยกันได้ แปลว่า...พลังไม่ทอนกัน แต่มีความต่างที่จับได้ 3 ทาง...ซินแสศาลเจ้าตั่วเหล่าเอี๊ยมีกำลังภายใน มีคุณธรรมเคร่งที่ทุกปีจะเว้นการดูดวงคน
โดยจะรู้จังหวะวันที่ต้องไปถือศีลและฟื้นฟูกำลังภายในที่บู๊ตึ๊ง ด้วยเหตุผลว่าช่วงที่ซินแสดวงตกอาจทำนายทายดวงผิด ดี...ก็ทายเป็นไม่ดี แล้วถ้าเป็นไปตามปาก ก็เกิดเป็นบาปกรรม
“ซินแสเคยบอกว่า ถ้าทำนายดวงผิด ซินแสต้องรับกรรมด้วย 2 เท่า เช่น ถ้าฝั่งเขาตายสอง ฝั่งซินแสตายสี่ และยันต์ของศาลเจ้าต้องทำพิธีถามอย่างถูกต้องว่า จะเอาไปทำไม เจ้าให้หรือไม่”
ถัดมา...ซินแสศาลเจ้าหมู่บ้านหอยนางรม เป็นสายเวทมนตร์คาถา ได้เห็นการเขียนยันต์สดจากทั้งสองท่านแบบนับครั้งไม่ถ้วน ซินแสสายเวท–มนตร์จะเขียนยันต์สดๆแบบละเอียดยิบมากๆๆๆๆ ลงอักขระด้วยชาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า และมักจะสั่งให้เอากลับมาลงพลังเพิ่ม
...
สุดท้าย...การติดยันต์ของทั้งสองซินแสเหมือนกันคือ ให้ติดในบ้าน ห้ามติดนอกบ้านเพราะจะทำให้เพื่อนบ้านไม่สบายใจ อาจทำของมาใส่กันไปมา จึงเป็นการให้ติดที่ประตูหน้าบ้านก็จริงแต่ติดที่ในบ้าน
“ซินแสศาลเจ้าตั่วเหล่าเอี๊ยให้ติดแบบต้องให้ปลิวๆ ไม่ใช่ติดล็อกทั้งสี่ด้านแบบลูกจีนในไทยทำกัน ซึ่งทางฮ่องกงจะถือว่า ยันต์ที่ถูกลมแรงๆปลิวหายไป ถือว่ายันต์รับเคราะห์ให้
สายนี้จะถือว่ายันต์ที่มีชีวิตหรือมีพลังต้องการอากาศหายใจ ในขณะที่ยันต์ของศาลเจ้าหมู่บ้านหอยนางรมเคลือบพลาสติกติดตายได้ ใส่กรอบรูปได้”
เรื่องราวความเชื่อ พลังศรัทธาที่มีต่อ “ฮู้” หรือ “ยันต์จีน” ส่วนหนึ่งเป็นเช่นนี้
“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.
รัก-ยม