ระหว่างทริปตามโปรแกรมส่งเสริม การท่องเที่ยวเนปาล 2020 ของทางรัฐบาลที่เชิญชวนสื่อมวลชนไทย พวกเราก็ได้มีโอกาสเยือนเมืองลุมพินี สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ทางพุทธศาสนา ใน สวนศักดิ์สิทธิ์ลุมพินี ถือเป็น 1 ใน 4 แห่งสังเวชนียสถานสำคัญของชาวพุทธ และได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อปี พ.ศ.2540

ครั้งแรกพวกเราไปถึงก็ใกล้พลบค่ำแล้ว แต่ก็ยังเห็นเหล่าสาธุชนหลั่งไหลกันมา และทันสัมผัสเข้าไป มายาเทวีมหาวิหาร แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้บันทึกภาพ จึงจ้องเก็บไว้เพียงแค่ความทรงจำ ภายในด้านบนประดิษฐานภาพหินแกะสลักพระรูปของพระนางสิริมหามายากำลังประทับยืนประสูติพระราชโอรส หรือนั่นก็คือเจ้าชายสิทธัตถะ

พระศรีโพธิวิเทศ เจ้าอาวาสวัดไทยลุมพินี
พระศรีโพธิวิเทศ เจ้าอาวาสวัดไทยลุมพินี

มองลงไปเบื้องล่างมีกระจกครอบไว้ ซึ่งได้ขุดค้นพบ ศิลาจารึกรูปคล้ายรองพระบาท สันนิษฐานกันว่าเป็นจารึกรอยเท้าก้าวที่เจ็ดที่เจ้าชายสิทธัตถะดำเนินได้เจ็ดก้าวในวันประสูติ รอบด้านที่พวกเราเดินบนสะพานไม้ก็เต็มไปด้วยผืนผ้าโปรยประดับหลากหลายสี เหรียญเงิน และใบธนบัตรมากสกุลจากผู้มีใจศรัทธาโยนลงไป ตัวเองก็ไม่พลาดโปรยลงไปเผื่อบุญหนุนส่งกะเขาด้วย

...

ออกมาด้านนอกก็จะ เห็น เสาหินอโศก ที่พระเจ้า อโศกมหาราชทรงปักไว้ พร้อมข้อความเป็นอักษรพราหมี และภาษาบาลี เพื่อเป็นเครื่องหมายว่าตรงนี้คือที่ประสูติของพระราชโอรส เยื้องไปข้างหน้าเป็น สระโบกขรณี ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสระน้ำเก่าที่นอกจากพระนางสิริมหามายาทรงสรงน้ำก่อนประสูติใต้ต้นสาละ แล้วยังใช้สรงพระวรกายพระราชโอรสด้วย

ออกจากสวนลุมพินีวัน ตามทางมาเรื่อยๆ ท่ามกลางความมืดแต่มีแสงไฟก็เห็น รูปปั้นพระพุทธเจ้าน้อย ที่คณะชาวไทยสร้างและนำมาประดิษฐานไว้เมื่อปี พ.ศ.2556 ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง ต่อเนื่องมาอีกนิดก็จะเจอ เปลวไฟสันติภาพนิรันดรกาล (Eternal Peace Lamp) โดยสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ที่จุดไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2529 และไม่เคยดับ อีกเลยนับแต่ถึงปัจจุบัน มองขึ้นไปทางเหนือมีสายน้ำแยกสองฝั่งระหว่างฝั่งตะวันออกเป็นวัดนิกายเถรวาท รวมวัดไทยลุมพินี ส่วนฝั่งตะวันตกเป็นวัดของประเทศต่างๆในนิกายมหายาน สุดตาออกไปเป็น เจดีสันติภาพโลก (World Peace Pagoda)

โบราณสถานพระราชวังกรุงกบิลพัสดุ์
โบราณสถานพระราชวังกรุงกบิลพัสดุ์

ถึงโรงแรมเข้าพักร่าง พอรุ่งเช้าอากาศเย็นๆหนาวๆ ไอออกปาก ไกด์ท้องถิ่นดุ่มๆพาพวกเรานั่งรถไปดู ซากโบราณสถานพระราชวังกรุงกบิลพัสดุ์ ที่ขุดค้นพบ และจุดประตูเมืองฝั่งที่เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกบรรพชา จากนั้นก็แวะอารามวัดจากประเทศต่างๆ พอเป็นกระสายหอมปากหอมคอ

ก่อนกลับกรุงกาฐมาณฑุก็บอกไกด์ขอกลับไปที่สวนลุมพินีวันอีกครั้ง (เพื่อให้ไทยรัฐทีวีและพวกเราถ่ายซ่อมงาน) ก็ด้วยความบังเอิญหรือบุญหล่นใส่ ระหว่างเดินกลับออกมาได้เห็น อดีตมกุฎราชกุมารปาราสวีรวิกรมศาหเทวะ พระโอรสในสมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทราวีรวิกรมศาหะเทวะ พระมหากษัตริย์ องค์สุดท้ายแห่งราชอาณาจักรเนปาลในราชวงศ์ศาห์ เพราะพระองค์ก็เสด็จประพาสสวนลุมพินีวัน มีไหว้ทักทายประชาชนระหว่างเข้ามากับการ์ดกลุ่มหนึ่งด้วย...ถึงว่า รปภ.บอกจะมีเซเลบมา แต่ไม่บอกว่าใคร

ไหนๆก็มาถึงเมืองลุมพินีวันแล้ว วันแรกที่มาถึงช่วงค่ำ ไกด์ชวนพวกเราเข้าไปพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องคนไทยเดินทางมาแสวงบุญ ไม่ถึงกับสนทนาธรรมกับ พระศรีโพธิวิเทศ (สุพจน์) เจ้าอาวาสวัดไทยลุมพินี “สำหรับข้อมูลเฉพาะที่วัดบันทึกทั้งที่มาขอพักที่วัด เข้ามารับประทานอาหาร เข้ามาเยี่ยมทำบุญ โดยปีที่ผ่านมา 20,000 กว่าคน แต่ความจริงน่าจะมากกว่านั้น เพราะบางคณะก็ไม่ได้แวะเข้ามา

ประตูฝั่งเจ้าชายเสด็จออกผนวช
ประตูฝั่งเจ้าชายเสด็จออกผนวช

...

เมื่อมีวัดขึ้นก็ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้แสวงบุญ อย่างที่ทราบกันว่า การเดินทางมาแสวงบุญไม่ใช่เรื่องง่าย ความเชื่อของคนไทยจะรู้สึกเชิงกังวลใจในเรื่องความไม่สะดวก แต่ปัจจุบันพระธรรมทูตสายประเทศอินเดียและเนปาลได้มาช่วยสร้างห้องน้ำตามจุดต่างๆ ที่วัดไทยลุมพินีก็มีคลินิกเพิ่งเปิดใหม่เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ไว้ดูแลผู้แสวงบุญ และกิจกรรมสังคมสงเคราะห์ เพราะที่เนปาลต้องใช้งานสังคมสงเคราะห์นำการเผยแผ่ โดยเฉพาะที่เมืองลุมพินี มีชาวพุทธที่นี่น้อยมาก ส่วนใหญ่อยู่ที่กรุงกาฐมาณฑุ

ประโยชน์ที่ได้รับกับประเทศไทย เป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างภาคประชาชนกับภาคประชาชน ภาครัฐต่อภาครัฐ และศาสนาต่อศาสนา เวลาคนท้องถิ่นถามทำสังคมสงเคราะห์ทำไม เราก็จะตอบว่าเพราะที่นี่เป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ไม่เท่านั้น วัดไทยลุมพินี พร้อมคณะแพทย์จิตอาสาจากโรงพยาบาล Universal College of Medical Science เมืองไบรวา ยังเปิดคลินิกพระพุทธเจ้า ตรวจรักษาโรคเป็นประจำทุกวันเสาร์ฟรี

สวนลุมพินีวัน
สวนลุมพินีวัน

...

ข้อแนะนำสำหรับคนไทยที่ไม่เคยเดินทางมาเนปาล ก็สามารถติดต่อสอบถามผ่านเว็บไซต์ www.watthailumbinith.org  หรือเฟซบุ๊กเข้าไปที่ “วัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล Royal Thai Monastery”

เคลือบบุญกลับมาบางๆ เมื่อไปเนปาล ทำให้รู้ว่าไม่ได้มีที่เที่ยวเชิงเดี่ยว แต่เป็นดินแดนแห่งมรดกโลก ศาสนาและขุนเขาที่ยังรอให้คนไทยไปเยือนอย่างที่สังคมออนไลน์ฟุ้งชมอย่างแท้ทรู...

เปลวไฟสันติภาพ
เปลวไฟสันติภาพ

@เจ๊หม่า