เหนื่อยมาทั้งปี!! หลายคนเลือกให้รางวัลชีวิตจากการทำงานที่หนักหน่วงด้วยสิ่งที่ชื่นชอบ การท่องเที่ยว เป็นรางวัลยอดนิยมที่หลายคนเลือกให้แก่ตัวเอง เมื่อชีวิตยุคนี้ไม่ต้องรอเกษียณแล้วค่อยเที่ยว หนุ่มสาวยุคใหม่จึงเลือกท่องโลกกว้างในแบบฉบับของตัวเอง ค้นหาความสุขในสไตล์ที่ชอบ

ดวงกมล
ดวงกมล

หนึ่งในสาวรุ่นใหม่ที่มีสไตล์การใช้ชีวิตอย่างมีความสมดุล ทั้งหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัว แพร-ดวงกมล เวปุลละ วาเกนเซ่น นักธุรกิจสาวผู้นำเข้า BANG & OLUFSEN แบรนด์เครื่องเสียงไลฟ์สไตล์พรีเมียม สัญชาติเดนมาร์ก เล่าถึงการให้รางวัลกับชีวิตของตัวเองว่า ตอนนี้แพรและสามี เราเที่ยวแบบเก็บเกี่ยวประสบการณ์ วิธีการเที่ยวต่างไปจากสมัยก่อน แต่ก่อนกิน ช็อปปิ้ง แต่ตอนนี้เราจะเที่ยววัฒนธรรมกับธรรมชาติ ไม่ค่อยช็อปปิ้งแล้ว คือเรารู้สึกว่าการใกล้ชิดธรรมชาติจะรู้สึกผ่อนคลาย และไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนก็ตาม แพร จะพกรองเท้าวิ่งไปด้วย คือตื่นเช้ามาไปวิ่งก่อน วิ่งรอบเมือง เราจะได้เห็นว่าเมืองนี้เป็นอย่างไร ความสุขของการท่องเที่ยวตอนนี้ จริงๆคือพักผ่อนและหาของอร่อยๆกิน พอกินเยอะ เลยต้องออกกำลังกายด้วยการวิ่ง ทำให้เราได้รู้จักเมืองนั้นมากขึ้น นอกจากนี้ ยังชอบไปสถานที่ที่มี Trail Running วิ่งในป่าเขาได้ใกล้ชิดธรรมชาติอีกด้วย

...

สาวเก่งคนนี้ยังบอกต่อว่า สมัยก่อนจะเที่ยวแต่ต่างประเทศ แต่ตอนนี้รู้สึกว่าแต่ละจังหวัดในประเทศไทย มีอาหารอร่อยและมีธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์แสดงความเป็นจังหวัดนั้นๆ ซึ่งไม่สามารถหาซื้อได้ที่ไหน เลยวางแผนว่า ถ้าเรามีเวลาว่างอยากจะขับรถไปตามจังหวัดต่างๆ ไปค้างที่นั่นคืนหนึ่ง ที่โน่นคืนหนึ่ง พาสุนัขไปด้วย วิธีการเที่ยวของเราจึงต่างจากเดิมเยอะเลย

รรินทร์
รรินทร์

อีกหนึ่งสาวเก่ง ที่จัดเต็มกับการให้รางวัลชีวิต ด้วยทริปในฝันกับธรรมชาติที่งดงาม “ต้า-รรินทร์ ทองมา” ผู้ก่อตั้งและเจ้าของรองเท้า O&B รองเท้าที่ใส่สบาย มีสไตล์ที่โด่งดัง “ต้า-รรินทร์” เล่าวิถีการเที่ยวของเธอว่า สไตล์การท่องเที่ยวของต้า คือ plan is no plan คือเพื่อนในแก๊งเราจะหาเวลาตรงกันยาก ดังนั้นพอได้เวลาที่ตรงกัน ต้องไปเลย พูดง่ายๆคือมีเงินอย่างเดียวไม่ได้ ต้องหาเพื่อนร่วมเที่ยวได้ด้วย ส่วนสถานที่ท่องเที่ยว ด้วยความที่ต้าเคยเรียนที่ประเทศอิตาลี เลยชอบที่จะเที่ยวยุโรปมาก แม้จะไปบ่อย แต่ก็ยังชอบ เพราะคิดว่ายังมีที่ที่เรายังสามารถไปดูไปเที่ยวได้อีก ประกอบกับโตขึ้น เลยมีความคิดว่าไปที่ไหนก็ได้ ขอให้เที่ยวสบายๆ ตอนนี้ไม่ใช่เด็กที่จะไปเที่ยวแบบแบ็กแพ็กแล้ว เลยชอบที่จะไปเมืองที่สวย ที่สำคัญคือต้องถ่ายรูปสวย ต้า ไม่เน้นเรื่องอาหารการกิน แต่ขอเน้นที่ถ่ายรูปสวย

...

“เราทำงานหนัก การไปเที่ยวเหมือนเป็นการให้รางวัลชีวิต เพราะฉะนั้นรางวัลที่ได้ต้องทำให้เราตื่นเต้น ทำให้เรารู้สึกเป็นสุข ให้รู้ว่านี่เป็นรางวัลที่เราทำงานมาเหนื่อย แล้วการท่องเที่ยวเป็นการเปิดหูเปิดตา การไปเที่ยวไม่เคยเสียเปล่า การไปเที่ยวเหมือนการไปทำรีเสิร์ช ดูว่าแฟชั่นในต่างแดนเขาไปถึงไหนแล้ว คนในยุโรปเขามีอะไร ท้ายสุดก็ช่วยในธุรกิจของต้าได้เยอะค่ะ” สาวเก่งบอกถึงผลพลอยได้ในการท่องเที่ยวของเธอ

นอกจากนี้ เธอยังเล่าว่า ตอนนี้ชอบไปเที่ยวเมืองที่หนาวๆ ชอบไปเที่ยวในที่ที่มีสกี ด้วยความที่เมืองไทยเป็นเมืองร้อน เด็กๆเลยมีความฝันว่าอยากไปอยู่ในทุ่งหิมะ เลยชอบไปเมืองที่มีสกี อย่างเช่น สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส ช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ที่ผ่านมา ได้ไปสวิตเซอร์แลนด์ ได้ภาพเหมือนที่เราฝัน ทั้งหมดเป็นรางวัลชีวิตที่ทำให้เรามีแรงกลับมาทำงานต่อ

สรรพสิทธิ์
สรรพสิทธิ์

...

ส่วนการท่องเที่ยวของหนุ่มรุ่นใหม่ยุคนี้ เป๋า-สรรพสิทธิ์ ฟุ้งเฟื่องเชวง ผู้อำนวยการฝ่ายคอร์เปอเรต มาร์เกตติ้ง บริษัทเอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และเจ้าของธุรกิจแฟชั่นกางเกงว่ายน้ำผู้ชายแบรนด์ติโมทรังก์ส (Timo Trunks) ที่เป็นที่รู้จักในระดับอินเตอร์ เล่าถึงไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวของตัวเองว่า สมัยก่อนชอบเที่ยวประเทศที่ทันสมัยที่สุดในสิ่งต่างๆ ปัจจุบันก็ยังชอบไปอยู่ โดยประเทศที่ไปบ่อยๆ ก็มีสวีเดน, เดนมาร์ก, ฝรั่งเศส, อิตาลี ตนชื่นชอบทั้งความทันสมัยของเมืองและวัฒนธรรม และที่ที่ต้องไปทุกปีคือ Salone Del Mobile ที่มิลาน เป็นงานโชว์ดีไซน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทุกแบรนด์ในโลกก็เข้าร่วม เรียกว่าเจอดีไซเนอร์ครบทั้งโลก

ผู้บริหารรุ่นใหม่คนนี้ อธิบายต่อว่า “หลังๆโตขึ้น มีความชอบเพิ่มเติม คือชอบไปเมืองเก่าที่มีจิตวิญญาณของความสงบ เมืองที่เพิ่งไปมาไม่นานนี้ และชอบมากคือเยรูซาเลม ทั้งเมืองไม่มีสิ่งก่อสร้างอะไรมาก ทุกอย่างถูกทำลายไปหมด แต่ความเชื่อกับวัฒนธรรมของคนที่อยู่ที่นั่น มันอัศจรรย์มากเลยครับ ผมอยู่ได้เป็นอาทิตย์ ทึ่งมากที่ในโบสถ์เดียวกัน ในเมืองเดียวกัน เป็นที่สักการะของ 3 ศาสนา เป็นสมบัติของศาสนาอยู่ร่วมกัน ทำได้ไง และอีกทริปที่ชอบที่สุดคือ การไปปีนเขา Annapurna Camp ที่ Himalayas ไปมาคนเดียว อยู่ดีๆก็นึกขึ้นมาว่าอยากไป ก็จองตั๋ว แล้วสัปดาห์ต่อมาไปเลย คนอื่นเขาเทรนร่างกายกันหลายเดือน ผมไปวิ่งมาวันหนึ่งก็บอกตัวเองว่า น่าจะเดินเขาได้ ทั้งทริปมีผมกับ Porter ที่ช่วยถือสัมภาระ กับ Trekker คน นำทางบนเขา ทั้งหมด 3 คน เดินไป 10 วัน ทั้งหิมะ ทั้งพายุ ฝน แดด เหว กลางวันอุณหภูมิ -10 องศา กลางคืนประมาณ -30 องศา เราต้องเปิดน้ำก๊อกทิ้งไว้ตลอด ไม่งั้นท่อน้ำจะตันเป็นน้ำแข็ง หนาวมากแต่มีความสุข เรียกว่าที่สุดในโลกที่เคยไปมาเลยครับ”

...

ในการเดินทางท่องโลก ผู้บริหารหนุ่มได้สรุปให้เห็นภาพว่า ทุกก้าวที่เดินทำให้เราเข้าใจว่าเราเป็นส่วนหนึ่งเล็กๆของจักรวาลที่ใหญ่มหาศาล...และนี่คือพลังที่ทำให้เราได้คิดในการใช้ชีวิตเป็นอย่างดี.