"แพร เป็นแพรี่พายมา 9 ปีแล้วนะ" เสียงนี้มาจาก "แพรี่พาย-อมตา จิตตะเสนีย์" เพราะเธอเริ่มต้นเล่าเรื่องราวการใช้ชีวิตในสไตล์ "แพรี่พาย" ด้วยประโยคนี้...

บทสนทนาจากผู้หญิงที่เป็น Influencer อันดับต้นๆ ของเมืองไทย ที่เรารู้จักในฐานะ Make-up Artist, ผู้หญิงสวมใส่ชุดผ้าไทยดีไซน์ทันสมัย หรือผู้หญิงที่รักธรรมชาติก็ดูมีความสุข และสนุกกับทุกสิ่งไปเสียหมดคนนี้ เกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมานี้เองค่ะ MIRROR ยังจำบรรยากาศตอนนั้น หลังจากที่เธอเดินออกจากห้องเวิร์กช็อปภายในงาน "ดราก้อนฟลาย 360" (Dragonfly 360) ได้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากข้าวของที่หอบมาอย่างพะรุงพะรังแล้ว "แพรี่พาย" เธอมาพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส และชวนเรานั่งพร้อมถ่ายทอดเรื่องราวสุด Exclusive แบบเป็นกันเองให้ได้ฟังแบบนี้

...

สีสันของ "ศิลปะ" คือความเชื่อที่ 1 ในการใช้ชีวิตของ "แพรี่พาย"

"สีสัน คือ แรงบันดาลใจสำหรับแพร เวลาที่แพรได้เห็นสีสัน ได้เห็นงานอาร์ต ได้ยินเสียงเพลง ได้กินอาหารที่มันดูสวย ได้เห็นต้นไม้ หรือดอกไม้เบ่งบาน มันทำให้เรารู้สึกว้าว ซึ่งแพรมองว่ามันคือประสบการณ์ และเชื่อว่าสีสันมันทำให้ชีวิตของเราสนุก"

ความเชื่อที่ 2 คือ เชื่อในเรื่อง "พลัง" ของตัวเอง

"แพรเชื่อในเรื่องของ Energy เชื่อใน "พลัง" ของตัวเอง อาจจะด้วยเพราะเราเห็นออร่าการไม่มีความสุขของคนในกรุงเทพฯ เยอะด้วยมั้ง และพอเรามาเจอคนคนหนึ่งที่เขามีชีวิตที่มีรอยยิ้มที่สดใสมากๆ มันเลยเกิดเป็นความคิดว่าถ้าเราสามารถส่งต่อพลังที่ดีออกไปได้ เราก็อยากที่จะทำ บางคนคิดว่าผู้หญิงเป็นเพศที่ภายนอกดูอ่อนไหว อ่อนหวาน อ่อนแอ แต่จิตใจมันก็อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งจิตใจเรามันไม่ต่างจากจิตใจคนที่เป็นผู้ชายเลย ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม อยากให้เชื่อในพลังจิตใจของตัวเอง และเชื่อในทุกอย่างที่ตัวเองเป็น"

ความเชื่อที่ 3 ลองละทิ้ง Ego

Lady MIRROR อาจจะยังไม่รู้ว่าการเป็นแพรี่พายที่สวมใส่ชุดผ้าไทย ชอบอยู่กับธรรมชาติในตอนนี้ มันถูกเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว จากการถอดรองเท้า ถอดถุงเท้าและเดินเข้าป่า โดยเธอเล่าให้ MIRROR ฟังด้วยรอยยิ้มว่า "ตอนนั้นแพรไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลังจากที่ได้ถอดรองเท้า ถอดถุงเท้า และเดินเข้าป่า บนพื้นที่เฉอะแฉะมันจะต้องเจอกับอะไรบ้าง แต่มันเป็นการละทิ้ง Ego ละทิ้งความสบายของตัวเอง และมันก็เป็นการละทิ้งที่ทำให้แพรรู้สึกว่าเรากับเขาเท่าเทียมกัน เราเป็นคนคนเดียวกัน เราอยู่ด้วยกัน ซึ่งทุกอย่างมันคือความเท่าเทียม"

ความเชื่อที่ 4 การนั่งสมาธิ คือ "Self help"

เมื่อเราเจอปัญหาไม่ว่าจะเรื่องอะไร ผู้หญิงอย่าง "แพรี่พาย" เธอเลือกที่จะทำสิ่งนี้ "การนั่งสมาธิ แล้วก็คุยกับตัวเองในเรื่องของปัญหาตรงนั้น ลองถามตัวเองว่าทำไมเราถึงไม่มีความสุข ทำไมเราถึงไม่สบายใจ และเมื่อเราสามารถมีสติและถามตัวเองได้ มันจะเจอจุดที่ทำให้เราพบกับคำตอบ พอเมื่อเราเจอเราก็ค่อยออกไปฟังเพลง เดินป่า หรือหาความสุขอื่นๆ ที่ตัวเองมาเติมเต็ม" ซึ่งเธอเรียกมันว่าการ "Self help"

...

ความเชื่อที่ 5 เชื่อว่า "รอยยิ้ม" สามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้

ระหว่างการสนทนา MIRROR ลองถามเธอไปขำๆ ว่าถ้ามีพรหนึ่งข้อที่สามารถขอแล้วเป็นจริงได้ ผู้หญิงอย่าง "แพรี่พาย" จะขออะไร? ซึ่งเธอเลือกที่จะขอเพียงแค่สิ่งเล็กๆ อย่าง "รอยยิ้ม" พร้อมอธิบายให้เราฟังว่า "ง่ายๆ เลยนะ ถ้าเราเดินเล่นโทรศัพท์อยู่แล้วเราเจอใครที่เดินผ่านมา การที่เราแค่เงยหน้าขึ้นแล้วส่งยิ้มให้เขา มันก็เกิดเป็นสิ่งดีๆ ได้แล้ว "Small things can change everything" เพราะแพรเชื่อว่า รอยยิ้มสามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้"

ความเชื่อที่ 6 เรียนรู้ตลอดเวลา ให้สมองได้ทำงาน

"แพรเป็นคนชอบที่จะเรียนรู้มากๆ ชอบที่ทุกวันมันไม่มีอะไรเหมือนเดิม อีกอย่างการหาสิ่งใหม่ๆ สกิลใหม่ ความรู้ใหม่ ภาษาใหม่ เพื่อนใหม่ หรือแม้แต่ประสบการณ์ใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต แพรว่ามันเป็นสิ่งที่ดี เพราะเรารู้สึกว่าสมองมันได้เดิน มันได้ทำงาน หรืออย่างน้อยๆ เราก็ได้รู้ว่าเรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร แพรเลยให้การเรียนรู้เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับตัวเองมากๆ"

...

ความเชื่อที่ 7 ความเชื่อข้อสุดท้าย ไม่คิดมาก ไม่ตั้งเป้าหมายจนตัวเองไม่มีความสุข

ก่อนจากกัน MIRROR ถามผู้หญิงคนนี้ไปค่ะ ว่าอีก 5-10 ปี ข้างหน้าเราจะเห็นเธอเป็น "แพรี่พาย" ในเวอร์ชั่นไหน? เธอนั่งคิดอยู่สักพักเลย ก่อนที่จะตอบว่า "หลายๆ ครั้งแพรเคยถามตัวเองว่าอนาคตข้างหน้าเราจะเป็นอย่างไร ถามเยอะๆ จนรู้สึกไม่มีคำตอบที่สามารถเค้นออกมาได้ และมันก็ทำให้เราไม่มีความสุข แพรเลยไม่คิดมาก และทำวันนี้ให้มันดีที่สุด แพรเชื่อว่าจริงๆ แล้ว ในชีวิตเราไม่จำเป็นที่จะต้องตั้งเป้าหมายไว้ใหญ่ หรือไกลจนเรารู้สึกกดดันที่จะต้องไปถึงมันก็ได้ สุดท้ายแล้วแพรรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องของเส้นทาง และการเดินทางเพื่อที่จะไปถึงมากกว่า ลองตั้งเป้าหมายแบบสั้นๆ ดูก่อน เช่น อีก 3 เดือนฉันจะลดน้ำหนักให้ได้ 2 โล หรือฉันจะใส่ผ้าไทยไปเที่ยวให้ครบทุกจังหวัด จากนั้นเราก็ทำให้มันเป็นกิจวัตรประจำวัน แล้วเดี๋ยวมันก็ถึงเป้าหมายระยะไกลของเราเอง แพรว่าทุกอย่างมันมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ นะ เมื่อก่อน Make-up ก็คือความสุขของแพร ซึ่งนั่นหมายความว่าอีก 10 ปีข้างหน้าแพรอาจจะวนกลับมาทำ Make-up เหมือนเดิม หรือเป็นผู้เชี่ยวชาญในการออกกำลัง รำไทเก๊กก็ได้ ถ้ามันเป็นสิ่งที่ทำแล้วสามารถเติมเต็มความสุขให้กับเราได้"

...

สุดท้าย MIRROR ให้ผู้หญิงคนนี้ลองส่งสารให้กับคนที่รู้สึกกำลังไม่มีความสุขดูค่ะ ซึ่งเธออยากให้พวกคุณได้ลองทำสิ่งนี้ "แพรเชื่อในเรื่องของธรรมชาติบำบัด หากวันหนึ่งที่รู้สึกแย่ ไปลองเดินป่าเพื่อเชื่อมโยงกับธรรมชาติดู หรือเริ่มจากเบาๆ อย่างการเกาะต้นไม้ หรือไปเดินแค่จตุจักร แล้วซื้อต้นไม้มาลองเลี้ยงดูก็ได้ เพราะต้นไม้มันมีเวลาของเขา มันมีวิวัฒนาการ มันมีการให้ดอก มันมีการดูแลใส่ใจ รดน้ำ พรวนดิน และมีการสังเกต มันเหมือนเป็นการเอาสิ่งที่เรากำลังนอย น้อยใจ หรือเครียดออกมา แล้วไปสนใจ ใส่ใจกับสิ่งหนึ่งให้เขารอด และเราจงไปมีความภาคภูมิใจกับต้นไม้หนึ่งต้น แต่ถ้าต้นไม้มันตาย อย่างน้อยเราก็ได้เรียนรู้ ทำไมเราถึงปลูกไม่รอด เราลืมรดน้ำต้นไม้ไหม, เราวางมันตากแดดมากไปหรือเปล่า, เราสนใจมันพอหรือยัง, หรือเราใส่ใจมันมากเกินไป"

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หาก Lady MIRROR ชอบหรือถูกใจ "ความเชื่อ" ในการใช้ชีวิตของผู้หญิงอย่าง "แพรี่พาย" ในข้อไหน ก็อย่าลืมนำไปปรับใช้กับการดำเนินชีวิตของตัวเองดูนะคะ เพราะเราเชื่อ...ว่าคุณจะพบกับ "ความสุข" ในเวอร์ชั่นของคุณได้เหมือนกันกับเธอ

ขอบคุณรูปภาพจาก IG : pearypie 

บทความที่น่าสนใจสำหรับสาวๆ LadyMIRROR