Highlight
- เราไม่จำเป็นจะต้องให้ความใส่ใจกับทุกเรื่องเสมอไป หากสิ่งเหล่านั้นมันมารบกวนจิตใจของคุณมากเกินพอดี
- เมื่อตัดเรื่องกวนใจไปได้แล้ว ผลที่ตามมาคือคุณจะมีเวลาไปทำในสิ่งที่อยากทำมากขึ้น ไม่ต้องจมปลักอยู่กับความรู้สึกแย่ๆ แถมยังส่งต่อพลังงานด้านบวกให้คนรอบข้างอีกด้วย
- คำพูดด้านลบของคนอื่นในชีวิตจริง และในโลกโซเชียล ความสมบูรณ์แบบที่มากเกินพอดี เรื่องราวในอดีต หรือแม้กระทั่งเรื่องอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้น สิ่งเหล่านี้คือตัวกวนใจที่คุณควรจะตัดทิ้ง เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น
เรื่องกวนใจที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากตัวเองหรือจากคนรอบข้าง หากมันเกิดขึ้นมาแล้วล้วนสร้างความลำบากใจ อึดอัดใจกับเราอย่างมาก แน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับตัวเองหรอกค่ะ เพียงแต่ว่าเมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้วเราจะสามารถรับมือกับมันได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่ง MIRROR ขอบอกเลยว่าเมื่อไรก็ตามที่คุณเริ่มตัดสิ่งกวนใจต่างๆ ที่เราแนะนำออกไปได้ เมื่อนั้นชีวิตคุณจะมีความสุขเพิ่มขึ้นอีกมาก และคุณจะมีเวลาไปทำในสิ่งที่อยากทำ แถมยังมีพลังเต็มเปี่ยมในทุกวัน เพื่อที่จะนำพลังไปรับมือกับสิ่งต่างๆ ที่เข้ามาได้อีกเยอะ ที่สำคัญคุณสามารถแพร่ขยายความสุขเหล่านี้ไปให้คนรอบตัวได้ เพราะเมื่อไรก็ตามที่เราไม่มีสิ่งที่กังวล และเราสบายใจ พลังงานด้านบวกก็จะถูกถ่ายทอดให้คนรอบข้างได้รับรู้ค่ะ
คำพูดด้านลบของคนอื่น
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเมื่อไรก็ตามที่เราอยู่ในสังคมที่มีคนมากมายรอบตัว เราไม่สามารถกำหนดได้หรอกค่ะว่าใครเป็นอย่างไร หรือมีนิสัยแบบไหน ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนว่าจะเป็นปัญหาคอยตามกวนใจ Lady MIRROR แทบทุกคนคงหนีไม่พ้นเรื่องของคำพูดใช่ไหมคะ ? ไม่ว่าจะเป็นคำตำหนิ คำติเตียน หรือแม้กระทั่งความคิดเห็นที่ค่อนข้างเชิงลบ จริงอยู่ว่าที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงคำพูดพวกนี้ได้ แต่สิ่งที่เราสามารถควบคุมได้นั่นคือ ความคิดของตัวเอง เมื่อเราได้รับสิ่งเหล่านี้มา ก่อนอื่นให้เราวางใจเป็นกลางแล้วถอดความจากคำพูด ว่าสิ่งที่คนอื่นพูดคือเรื่องจริงหรือไม่ หากเป็นเรื่องจริง ขอให้รีบพัฒนา ปรับปรุงในสิ่งที่เขาพูด เพื่อให้ตัวเราเองพัฒนาได้ดียิ่งขึ้น แต่หากคำพูดเหล่านั้นไม่เป็นความจริง ขอให้ปล่อยวางแล้วก้าวต่อไปค่ะ เพราะชีวิตเรามีเรื่องอย่างอื่นที่ต้องใส่ใจอีกเยอะนะคะ
...
ความสมบูรณ์แบบที่มากเกินพอดี
สาวๆ เคยได้ยินคำว่า เพอร์เฟกชั่นนิสต์กันบ้างหรือเปล่าคะ ? มันหมายถึงคนที่ต้องการให้ทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆ ตัวที่ออกมานั้นสมบูรณ์แบบมากที่สุด ฟังเผินๆ แล้วดูเหมือนจะเป็นข้อดีใช่ไหมคะ ? แต่ถ้าหากมันมากเกินพอไป ก็คงส่งผลร้ายหรือปัญหาที่ตามกวนใจมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แน่นอนว่าการทำงานทุกอย่าง หรือจะทำอะไรสักอย่างมันควรทำออกมาให้ได้ตามมาตรฐาน หรือมีความสมบูรณ์ให้มากที่สุด แต่สุดท้ายแล้วคงไม่มีใครได้ดั่งใจเราไปหมดทุกเรื่อง ดังนั้นเราจะไปคาดหวังให้ทุกอย่างมันตามใจเราไปหมดก็คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เมื่อคุณเสพติดความสมบูรณ์แบบไปแล้ว ปัญหาที่ตามมาคงไม่หนีเรื่องของการโทษตัวเอง และจะรู้สึกหดหู่เมื่อทำอะไรไม่สำเร็จตามเป้าหมาย ที่สำคัญจะรู้สึกหงุดหงิดง่ายกับคนรอบข้างที่ไม่ได้ตามใจที่คิด และอาจร้ายแรงถึงขั้นปิดกั้นตัวเอง ไม่ยอมเปิดใจและไม่ยอมปล่อยวาง หากปล่อยไว้นานวันเข้า มันคงไม่ดีต่อตัวคุณแน่นอน MIRROR ขอแนะนำว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมหรือคาดเดาได้ เราควรปล่อยวางในเรื่องต่างๆ มากขึ้น อาจจะเริ่มจากยอมไว้ใจให้คนอื่นทำหน้าที่แทน หรือยอมรับความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ สิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้คุณคลายความกังวลไปได้ไม่มากก็น้อยค่ะ
สิ่งต่างๆ ในโซเชียลมีเดีย
ต้องยอมรับก่อนว่าโลกปัจจุบันที่ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนออนไลน์อยู่บนโซเชียลไปแทบจะหมดทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องของตัวคุณเอง จนทำให้บางคนต้องอัปเดตทุกอย่างในชีวิตแบบเรียลไทม์ และที่สำคัญทุกอย่างที่อัพขึ้นไปนั้นจะต้องมีความสวยงาม เฟอร์เฟกต์ และดูดี แต่ในข้อดีก็มีข้อเสียตามมาด้วยเช่นกัน หากสังเกตดีๆ เราจะพบว่าปัญหาหลายๆ อย่างส่วนใหญ่ล้วนเกิดมาจากโซเชียลมีเดีย เช่น เมื่อเวลาเพื่อนลงรูปหรืออัปเดตการใช้ชีวิตว่าไปที่เที่ยวไหน ซื้ออะไรมาบ้าง ก็ทำให้บางครั้งเราเกิดความอยากได้ อยากมีเหมือนเพื่อนในโซเชียล และเมื่อเราไปอ่านข้อความบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับตัวเองที่เป็นด้านลบ ก็ทำให้เราเกิดความรู้สึกไม่ดีติดตัวมา หรือแม้กระทั่งคู่รักที่ต้องทะเลาะกันเพราะโซเชียลมีเดีย เช่น ไม่เคยลงรูปคู่กัน หรือทะเลาะกันเพียงเพราะแค่เรื่องกด like หากเรามองดีๆ จะพบว่าแท้จริงแล้วสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น ล้วนส่งผลกระทบต่อใจเราทั้งนั้น และวิธีแก้ก็ง่ายเพียงนิด เริ่มต้นจากการลดการใช้โลกออนไลน์ให้น้อยลง อยู่กับความเป็นจริงให้มากขึ้น หรือพูดง่ายๆ ว่าอย่าเอาชีวิตไปผูกติดกับโลกโซเชียลมากเกินไป เพียงเท่านี้จะช่วยให้สาวๆ ลดปัญหากวนใจไปได้แล้วค่ะ
...
เรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น และความเจ็บปวดในอดีต
เป็นธรรมดาที่คนเราจะต้องมีความกลัว มีความกังวลไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวในอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้น หรือความเจ็บปวดในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นตัวการทำให้คุณเกิดความไม่สบายใจ ความกังวลใจ จนไม่กล้าก้าวข้ามผ่านไปไหน หรือไม่กล้ายอมรับความจริง และบางคนกังวลหนักถึงขั้นไม่กล้าที่จะทำอะไรใหม่ๆ เลยทีเดียว ที่เป็นเช่นนี้คงเป็นเพราะว่าส่วนหนึ่งสมองของเราได้ประมวลความคิดไป ความกังวลไปต่างๆ นานา ไม่ว่าจะทั้งเรื่องราวในอดีตที่ทำให้เจ็บปวด คำพูดของคนรอบข้าง เมื่อเก็บสะสมมากๆ ก็กลายเป็นความกังวลถึงเรื่องอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้น วิธีการแก้ไขต้องทำควบคู่กันไประหว่างเรื่องราวในอดีต และลดความกังวลเรื่องของอนาคต เริ่มจากยอมรับความจริงของเรื่องราวในอดีตให้ได้ จากนั้นให้รู้จักปล่อยวางว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้มันเป็นอดีตไปแล้ว เราไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ และเริ่มต้นอยากจะนำสิ่งเหล่านี้ออกไปจากความคิด ไม่ผูกใจเจ็บ และเปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ๆ เข้ามา ที่สำคัญอย่าลืมให้เวลากับมันด้วยนะคะ เพราะคงไม่มีใครจะเริ่มใหม่ได้ภายในช่วงเวลาไม่นาน แต่เมื่อไรก็ตามที่คุณก้าวออกมาได้แล้ว เรื่องต่างๆ ที่คอยตามกวนใจคุณจะลดลงไปได้ด้วยดี แถมคุณจะไม่นำสิ่งเหล่านี้มาทำให้คุณกังวลใจกับเรื่องในอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้นด้วยค่ะ
บทความที่น่าสนใจ
...