“งานแต่งงานสำคัญแค่ไหน? ในสายตาพี่คะ”

มีคำถามแบบนี้เข้ามาอยู่บ่อยๆ เอาจริงๆ นะคะ ถ้าโลกนี้มีกันอยู่ 2 คน จะมีงานแต่งหรือไม่ อยู่ที่ใจของเราสองคน แต่หากมีผลต่อคนในครอบครัว เราคงเห็นแก่ตัวไม่ได้ งานแต่งส่วนใหญ่ทำเพื่อหัวใจพ่อแม่ทั้งนั้น ให้ความสำคัญ ให้เกียรติคนที่สร้างเธอมาให้เรารัก ไม่ได้อยู่ที่ว่างานต้องเล็กหรือใหญ่ แค่ทำให้คนที่บ้านสบายใจ และพอจะมั่นใจว่าคนที่ลูกเลือกไว้ น่าจะมีความจริงใจให้กันมากพอ แค่ “น่าจะ”เท่านั้น ไม่ได้แปลว่ารักนิรันดร์ดูได้จากงานแต่งงานนะคะ เพราะไม่มีอะไรแน่นอนในเรื่องความรักค่ะ เมื่อวานรัก วันนี้รัก พรุ่งนี้ไม่รู้ ตอนที่รักก็รักจริง วันที่ทิ้งก็ไม่ได้โกหก แต่ถ้าเขายังให้ความสำคัญกับครอบครัว ได้เห็นหน้า ได้คุยกันตัวต่อตัว ก็ยังดีกว่าไม่แคร์หัวใจใคร อยากได้ก็มาคว้ากันไปเฉยๆ

แค่อย่าลืมว่าโลกนี้มีสองด้าน หลายครั้งเริ่มต้นที่คนสองคนรักกัน ขั้นต่อมาถึงจะมีงานแต่งงาน แต่ที่ทรมานคือ บางคู่ต้องยอมให้มีงานแต่งงาน ทั้งที่ข้างในไม่ได้หวานกันเหมือนแต่ก่อนแล้ว

“พี่อ้อยคะ หนูกำลังจะแต่งงานสิงหาคมนี้แล้ว แต่วันที่ถ่ายพรีเวดดิ้งเสร็จ หนูจับได้ว่าแฟนหนูคุยกับไซด์ไลน์ แต่เขาบอกว่าไม่เคยซื้อบริการนะคะ ความรู้สึกหนูตอนนี้เหมือนหมดรัก เพราะเขาเคยนอกใจหนูมาครั้งหนึ่งแล้ว หนูบอกตัวเองเสมอว่าถ้ามีอีก หนูจะเลิกกับเขา แต่หนูเพิ่งมารู้ก่อนวันแต่งงานไม่ถึงเดือน หนูสงสารแม่ สงสารครอบครัว ทุกคนมีความสุขกับการเตรียมงาน หนูเหลือเวลาอีก 1 เดือน หนูควรทำยังไงดีคะ”

ผู้ชายบางคน มองว่าแค่คุยๆ ไม่เห็นเป็นอะไร แค่ใจเรากลัวว่าเรื่องใหญ่กำลังจะตามมา ถ้าสิ่งที่เขาเจอช่างล่อตาล่อใจ วันหนึ่งจะกลายเป็นผิดถูกรู้หมดแต่อดไม่ได้หรือเปล่า บางคนยอมให้นอกกาย แต่ไม่ให้นอกใจ ก็ว่ากันไปแล้วแต่เงื่อนไขแต่ละคู่ เขาทำมาแล้วทั้งสอง นอกใจ แล้วตอนนี้นอกกาย ก็อยู่ที่น้องรักเขามากพอจะให้อภัยไหม

...

หนูอยากให้ครอบครัวมีความสุขน้อยนิด แบบที่เอาทุกข์ทั้งชีวิตของเราเข้าไปแลกหรือเปล่า รู้ว่าไม่ง่าย พี่ถามตัวเองตลอด ถ้าเจอเหตุการณ์อย่างน้อง พี่ควรทำอะไร? แต่งงานไปทั้งที่ไม่รัก แต่งวันนี้ เพื่อที่จะไปพังวันหน้า เสียตังค์กับเสียหน้า อยู่ที่ว่าเราจะยอมเสียอะไรก่อน เสียใจน่ะ เสียใจอยู่แล้ว แม่มีความสุข เพราะคิดว่าลูกเจอคนดีที่รักกัน แม่ไม่ได้มีความสุขกับงานแต่งงานที่ลูกยอมทรมานกับคนที่ทรยศลูกหรอกนะคะ หรือถ้าตั้งโจทย์ไปแล้วว่า ยังไงก็ต้องแต่ง ไม่ว่าเบื้องหลังจะแย่แค่ไหน ขอให้มีงานแต่งงานให้ได้ก่อน ก็ต้องทำใจไปเลย จับมือคุยกับว่าที่เจ้าบ่าวอีกที จากนี้สิ่งที่เราขอ เขาพอจะให้ได้ไหม รักเธอฉันไม่มีใคร เธอรักฉันยังไงถึงนอกใจทุกครั้งที่มีโอกาส เรายังอยากเดินหน้าใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันไหม จะได้มั่นใจว่าเราไม่ได้ผูกขาดการเลือกแต่เพียงผู้เดียว คุยแบบเปิดใจว่าตอนนี้เรารู้สึกยังไง แทบอยากเอาแต่ใจคือล้มงานแต่งงานให้รู้แล้วรู้รอดไป ถ้าไหนๆ เราจะเดินหน้าด้วยกันไป สิ่งไหนที่เราอยากขอ และสิ่งที่เขาขอคืออะไร ตกลงกันให้จบ แล้วทำทุกหน้าที่อย่างดีที่สุด ดูแลกันและกันให้ดี วันหน้ามีอะไรค่อยว่ากันอีกที รับมือตามอาการ เพราะน้องยอมทรมานกับวันหน้า เลือกแล้วว่าดีกว่าล้มงานแต่งงานในวันนี้

ชีวิตมีอยู่แค่ 2 ทางเลือกค่ะตอนนี้ หรือเดินไปกอดแม่ เล่าให้ท่านฟังว่าเราเจออะไร แก้ปัญหาไปด้วยกัน ดีกว่าวันหน้าให้ท่านเจ็บปวดหัวใจที่ผลักลูกลงเหวไปแบบไม่รู้ตัว เคยเจอบางคู่ แนบจดหมายน้อยส่งตามไปยังแขกที่ได้รับการ์ดว่าขอเลื่อนงานแต่งงานไปไม่มีกำหนด ถ้าเป็นคนที่รักเรามากๆ คงอยากตามมาถามหาเหตุผล ก็อธิบายเป็นคนๆ ไป แต่ถ้าไม่สนิทเท่าไร การเลื่อนงานออกไป แทบไม่ต้องอธิบายอะไร แค่ไม่ทำให้คนที่ตั้งใจมาต้องเสียเวลา กับงานหน้าชื่นอกตรมของเรา การแต่งงาน เขาเรียกว่า สละโสด คือต้องเสียสละความสุขซึ่งความโสด เพื่อเดินหน้าใช้ชีวิตข้างๆ ใครสักคน ถ้าคนนั้นน่ารักมากพอให้เราสละความสุขซึ่งความโสด จะโหดร้ายไปไหมถ้าเราต้องทน เพียงเพราะแจกการ์ดไปแล้ว ถ่ายพรีเวดดิ้งไปแล้ว พ่อแม่ดีใจไปแล้ว

ไม่ว่าจะเลือกทางไหน เข้าใจหัวใจน้อง เป็นคนมองอยู่ไกลๆ ตัดสินใจไม่ยาก เป็นน้องคงลำบากใจ ที่เห็นทั้งพ่อและแม่กำลังเลือกชุดใหญ่ เพื่อรอใส่วันสำคัญของลูก อยู่ใกล้ๆ คงกอดเป็นกำลังให้น้องแน่นๆ ไม่ว่าจะเลือกทางไหน ต่อให้น้องทำเพื่อใครๆ ก็อย่าถึงขั้นใจร้ายกับตัวเองก็แล้วกัน แต่งได้ก็เลิกได้ แค่ก่อนแต่งเปิดตากว้างๆ มองทุกอย่างอย่างค้นหา ถ้าแต่งไปแล้ว บางทีอาจต้องหลับตาลง 1 ข้าง มองทุกอย่างอย่างเข้าใจว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบแม้แต่เรา รักกันในข้อดี และบางทีก็ให้อภัยในข้อเสียแม้จะเพลียหัวใจบ้าง ขอให้ต่างยังรักกันมากพอจะเดินหน้าต่อ แต่ถ้ารักกันให้อภัยกันจนสุดมือ ก็ยังไม่ได้ถือ คงต้องปล่อยและวาง ทุกชีวิตต้องมีทางเดินต่อไป ตราบใดที่ยังมีลมหายใจค่ะ