ใครว่าจะดูตึกสวยๆ ดูงานสถาปัตยกรรมเก๋ๆ ต้องไปแต่เมืองนอก โฮมมี่ ว่าเมืองไทยก็มีนะจ๊ะ โดดเด่นไม่แพ้ชาติใด วันนี้จะพาไปดูตึกย่านทองหล่อ กับ 5 สถานที่ที่ควรคู่แก่การไปเช็กอิน...

1. 72 Courtyard (เซเว่นตี้ทู คอร์ทยาร์ด)

โดดเด่นด้วย ปูนเปลือย ที่ฉาบไว้ตั้งแต่ด้านหน้าอาคารทรงเหลี่ยม ไล่เรื่อยเข้าไปยังตัวอาคารด้านใน ที่ให้รายละเอียดของการตกแต่งภายในอย่างมีเอกลักษณ์ สำหรับ 72 Courtyard ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างซอยทองหล่อ 16 และทองหล่อ 18 และเป็นสถานที่ที่รวบรวมร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่ น่าลิ้มลองไว้เพียบในที่เดียว ดูภายนอกตัวอาคารอาจจะให้ความรู้สึกแข็งและดิบ แต่ถ้าลองได้เดินเข้าไปภายใน คุณจะพบว่าความดิบที่เห็นเป็นเพียงเปลือกนอกที่ห่อหุ้มความเขียวชอุ่มของต้นไม้ที่ปลูกไว้รายรอบอย่างร่มรื่น ช่วยลดทอนความวุ่นวายของการจราจรในซอยทองหล่อไปได้เยอะทีเดียว ซึ่งเมื่อประกอบกับรายละเอียดการตกแต่งร้านอาหารแต่ละร้าน ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกันเลย โดยมีตั้งแต่สไตล์เรโทร ยุโรป ไปจนถึงสไตล์แบบเม็กซิกัน มีการตกแต่งด้วยลายกราฟิติและภาพวาดเต็มพื้นที่ ทั้งหมดนี้ถือว่าช่วยเติมเต็มบรรยากาศของความสนุก ในการสังสรรค์และการรับประทานอาหารของคุณได้อย่างลงตัว

...

2. The Commons (เดอะ คอมมอนส์)

คอมมูนิตี้มอลล์ความสูง 4 ชั้น ที่ใช้เวลาถึง 4 ปีเต็ม กว่าจะสร้างจนจะแล้วเสร็จ ซึ่งตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 17 แห่งนี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอาคารที่มีความโดดเด่น ในแง่ของการออกแบบทางสถาปัตยกรรม เพราะซ่อนลูกเล่นและรายละเอียดของประโยชน์ใช้สอยภายในตัวอาคารไว้ได้อย่างแยบยล ในลักษณะแบบการสร้างชุมชน ภายใต้แนวคิด "Wholesome Living" หรือการใช้ชีวิตแบบมีสมดุลที่ดี โดยผ่านการแบ่งสัดส่วนของพื้นที่อินดอร์และเอาต์ดอร์อย่างพอเหมาะสอดประสานไปด้วยกัน เพื่อให้การใช้พื้นที่เกิดขึ้นได้อย่างหลากหลายรูปแบบ จะเป็นการมารับประทานอาหารภายในร้าน มาจับจ่าย มาทำกิจกรรมไลฟ์สไตล์ หรือจะซื้ออาหารแล้วออกไปใช้พื้นที่เอาต์ดอร์ตรงกลางส่วนที่เรียกว่า Common Ground ที่จัดไว้เหมือนเป็นสวนหลังบ้านในบรรยากาศสบายๆ ก็สามารถทำได้อย่างเต็มที่ เพราะผู้ออกแบบคือ Department of Architecture ตั้งใจให้พื้นที่ตรงนี้เหมือนกล่องโปร่งๆ ที่สบาย รับลมได้ดีทุกทิศ ในขณะที่กันแดดและฝนได้ตลอดเวลา ถือว่าเป็นความลงตัวทางสถาปัตยกรรมที่น่าอิจฉาของคนย่านทองหล่ออย่างแท้จริง

3. KHUN by yoo inspired by Starck (คุณ บาย ยู อินสไปร์ บาย สตาร์ค)

อีกหนึ่งอาคารที่เพิ่งผุดขึ้นมาใจกลางทองหล่อ ทว่าโดดเด่นไม่แพ้สถาปัตยกรรมอื่นๆ ในย่านนี้ต้องเป็น KHUN by yoo inspired by Starck เพราะแค่รูปลักษณ์ภายนอกของตัวอาคารที่ดูแปลกตากับความโดดเด่นของการเลือกใช้สีทองแดงคอปเปอร์ เป็นมันวาว แค่นี้ก็ดึงดูดความสนใจได้ในทันทีสำหรับทุกคนที่ผ่านไปผ่านมา อาคารขนาดสองชั้นหลังนี้ความเป็นจริงเป็นเซลล์ แกลเลอรี่ของโครงการคอนโดมิเนียมไฮเอนด์แห่งใหม่จาก “แสนสิริ” ที่ร่วมมือกับ “yoo studio” บริษัทออกแบบชื่อดังระดับโลก โดยมี “Philippe Starck” ดีไซเนอร์และนักออกแบบผลิตภัณฑ์อัจฉริยะชื่อก้องโลก มาร่วมสร้างสรรค์การออกแบบในโครงการคอนโดมิเนียมด้วย ทำให้การออกแบบเซลล์ แกลเลอรี่แห่งนี้ แสนสิริจึงต้องการนำเสนอความแปลกใหม่โดยพัฒนารูปแบบการนำเสนอผ่านแกลเลอรี่โชว์ผลงานออกแบบของ “Philippe Starck” แทน โดยผลิตภัณฑ์ของสตาร์คที่หยิบมาโชว์ มีทั้งเฟอร์นิเจอร์ สุขภัณฑ์ หรือของประดับตกแต่งบ้านที่โครงการฯ จะนำมาใช้จริงทั้งหมด เข้าไปเดินแล้วจะรู้สึกเหมือนมาเดินดูนิทรรศการศิลปะมากกว่า แน่นอนว่าถ้าโครงการ KHUN by yoo inspired by Starck ก่อสร้างจนแล้วเสร็จ อาคารเซลล์ แกลเลอรี่สุดเก๋ที่เราเห็นนี้อาจจะต้องถูกรื้อถอนออกไป แต่แน่ใจได้ตั้งแต่ตอนนี้ว่า ตัวคอนโดมิเนียมจริงที่ก่อสร้างภายใต้แนวคิด “Industrial Heritage” จะสะท้อนความทันสมัยของย่านทองหล่อ ทำเลที่พักอาศัยใจกลางเมือง ผสานกับความหรูหรา ทันสมัย ได้อย่างโดดเด่นไม่แพ้กันแน่นอน

...

4. Face Bangkok (เฟส แบงคอก)

หมู่อาคารไม้สักทรงไทยล้านนา ที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยทองหล่อ 38 แห่งนี้คือที่ตั้งของ Face Bangkok ร้านอาหาร บาร์ และสปา ที่สอดประสานอยู่ในหมู่อาคารเดียวกันอย่างกลมกลืน ภายใต้บรรยากาศของเรือนไทยที่แวดล้อมไว้ด้วยสวนสวยและบ่อน้ำ ที่ให้ความสงบร่มเย็นเหมือนวิถีชีวิตริมคลองของคนไทยในอดีต ทว่าก้าวทันโลกด้วยรายละเอียดของการตกแต่งภายใน ทั้งภาพวาด ของประดับตกแต่ง และศิลปวัตถุทำมือ ที่เผยให้เห็นรายละเอียดของวัฒนธรรมจากนานาชาติในเอเชีย ที่โดดเด่นที่สุดคงเป็นสามชาติสามวัฒนธรรม ได้แก่ ไทย อินเดีย และญี่ปุ่นที่ผสมกลมกลืนกันอยู่ ผ่านเมนูอาหารที่จะเลือกสั่งแบบแยกเชื้อชาติจากกันเป็นจานๆ หรือสั่งเมนูที่ผสมข้ามวัฒนธรรมไว้แล้วก็ได้เช่นกัน รายละเอียดของการสร้างตัวอาคารแบบมีใต้ถุน หยิบแรงบันดาลใจมาจากเรือนไม้สักของจิม ทอมป์สัน ทว่าสร้างในขนาดตัวอาคารที่ใหญ่ขึ้น เพื่อให้รองรับการเป็นทั้งร้านอาหาร สปา และบาร์ให้ได้อย่างลงตัว ส่วนการตกแต่งนั้นแม้จะเน้นความเรียบง่าย แต่รายละเอียดของวัสดุและของตกแต่งนั้น สะท้อนให้เห็นความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมของทั้งคนไทยและคนเอเชียอย่างเด่นชัด ถือเป็นอีกหนึ่งอาคารทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นอีกแห่งหนึ่งในย่านนี้

...

5. Teddy Castle (เท็ดดี้ คาสเซิล)

พูดถึงดีไซน์ภายนอกของงานสถาปัตยกรรมที่งดงาม โดดเด่นทั้งในแบบโมเดิร์นหรือแบบไทยกันไปหลายแห่งแล้ว ลองมาดูกันที่งานออกแบบสถาปัตยกรรมภายนอกแบบปราสาทที่มีกลิ่นอายของอังกฤษโบราณกันบ้าง อย่างร้าน Teddy Castle ที่เป็นทั้งคาเฟ่และอาณาจักรของตุ๊กตาหมีแบรนด์ Teddy House ที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ในใจกลางทองหล่อซอย 5 นอกจากภายนอกที่ดูโดดเด่นท่ามกลางใจกลางเมืองแล้ว ภายในยังได้รับการตกแต่งอย่างละเอียดอ่อน ทำให้ผู้มาเยือนเพลิดเพลินกับเสน่ห์อันคลาสสิก ดั่งดื่มด่ำอยู่ในปราสาทอังกฤษ เดิมทีปราสาทแห่งนี้เป็นที่ตั้งของร้านอาหารสุดเก๋อย่าง Blue Velvet แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปเจ้าของใหม่ได้เปลี่ยนโฉมปราสาทแห่งนี้ ให้เป็นปราสาทหลังงามของเหล่าตุ๊กตาหมีได้อย่างลงตัว โดยอาศัยโครงสร้างที่เลียนแบบสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์จากโซนยุโรป ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างภายนอก เริ่มตั้งแต่สะพานไม้ข้ามคลองเปรียบประหนึ่งจินตนาการที่เห็นในหนังสือการ์ตูนเทพนิยาย การใช้ปูนเปลือยผสมอิฐ การเล่นเลเยอร์ของผนังที่ยิ่งเดินเข้าไปยิ่งเห็นเป็นมิติ เหมือนการเดินเข้าไปในโซนลับของปราสาท รวมทั้งดึงเอากลิ่นอายของยุคโกธิคมาเพิ่มเติมความโดดเด่นด้วยกระจกสีเหมือนที่เห็นกันบ่อยๆ ในโบสถ์ ซึ่งเจ้าของใหม่ได้ใช้รายละเอียดต่างๆ ของแต่ละมุมมาผูกโยงเรื่องราวให้กับเหล่าตุ๊กตาหมี ที่สมมติให้มีชีวิต โดยมีพนักงานพาชมและเล่านิทานแห่งเมืองปราสาทหมีนางฟ้าเทวดา เป็นอีกหนึ่งไม้เด็ดในการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจ ให้ลูกค้าทั้งเด็กและผู้ใหญ่ นอกเหนือจากโซนขายตุ๊กตาหมีและคาเฟ่ที่แบ่งไว้อย่างลงตัว

...

เห็นมั้ยล่ะ...ต้องร้องว้าว ไว้มีที่ไหนน่าสนใจ โฮมมี่ จะนำมาฝากอีกแน่นอน.