ผักชีลาว ผักชีช้าง ล้วนเป็นพืชที่ใบมีกลิ่นหอมแรง รับประทานเป็นผักได้ ผักชีลาว หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด ใบเป็นเส้นเรียวสีเขียวสด ก้านและต้นกลวง นำไปปรุงอาหารได้มากมาย ดับกลิ่นคาวปลาได้ดี เช่น ทำแกงอ่อม แกงหน่อไม้ ห่อหมก ผัดไข่ แกล้มน้ำพริกปลาร้า ลาบ ก้อย
มีสรรพคุณทางยาช่วยย่อย แก้ท้องอืด ลดความดันโลหิต อยู่ในวงศ์ Apiaceae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Anethum graveolens ที่อินเดียนิยมปลูกเพื่อเก็บเมล็ดไปสกัดน้ำมันหอม แต่ที่ไทยปลูกเพื่อใช้แค่ต้นและใบ
ดอกผักชีลาวสีเหลืองจิ๋วออกเป็นช่อแบบซี่ร่ม ที่ปราณบุรีมีเชฟชาวอังกฤษชื่อ James Douglas Noble ทำฟาร์มปลูกผัก แล้วนำดอกผักหลายชนิดมาแต่งจานสลัดให้สวยน่ารับประทาน ใช้ในร้านอาหารข้างฟาร์มและส่งภัตตาคารหลายแห่งในกรุงเทพฯ ซึ่งขายดีมาก
การขยายพันธุ์ใช้วิธีเพาะเมล็ดในดินร่วนอุดม ชอบแดดจัด ควรเพาะช่วงปลายฝนต้นหนาวราว 60 วัน ต้นสูงเต็มที่ประมาณ 70 เซนติเมตร โดยต้นสูง 20 เซนติเมตร ก็สามารถเก็บขายได้
...
ผักชีช้าง อยู่ในวงศ์ Asteraceae มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Eupatorium capillifolium ต้นและใบคล้ายผักชีลาวมาก แต่มีขนาดโตกว่า กลิ่นคล้ายกัน สูง 60 เซนติเมตร - 2 เมตร
ดอกจิ๋วออกเป็นช่อตามก้าน มีกลีบเลี้ยงสีเขียว คล้ายถ้วยหุ้ม มีกลีบเล็กๆ เหมือนด้ายสีขาวโผล่เป็นรัศมี พบได้ทางตอนใต้ของอเมริกากลาง ในธรรมชาติจะมีผีเสื้อกลางคืนชนิดหนึ่งที่กินน้ำหวานจากดอกของพืชชนิดนี้ไว้ในตัว เพื่อใช้ล่าเหยื่อ
ในบ้านเราเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “โกฐจุฬา” นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ และกินยอดเป็นผักสด ขยายพันธุ์โดยการปักชำยอด ชอบแสงจัด ดินร่วนน้ำไม่ขัง
เรื่อง : มัญชุสา
ภาพประกอบ : ชนมวรรณ ตะนะ