ผู้ที่คิดจะสร้างบ้าน หรือซื้ออสังหาริมทรัพย์สักหลัง นอกจากเรื่องทำเล ราคาแล้ว เรื่อง “ฮวงจุ้ย” คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และสถาปนิกนำมาใช้ในการเลือกทำเลไปจนถึงการวางผังและการออกแบบบ้าน ซึ่งโยงไปถึงเรื่องความเชื่อต่างๆ ที่ส่งผลต่อการอยู่อาศัยของเจ้าของบ้าน
แต่ความจริงแล้ว ฮวงจุ้ย หมายถึงอะไร ทำไมถึงมีอิทธิพลต่อการสร้างบ้านและที่อยู่อาศัย ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ผู้มีประสบการณ์ในแวดวงอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์กว่า 30 ปี จะมาให้คำตอบในวันนี้
ฮวงจุ้ยคือวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่เรื่องมูเตลู
...
“ฮวงจุ้ย เป็นภาษาจีนแต้จิ๋ว คำว่า ฮวง แปลว่า ลม หมายถึงภูมิอากาศ ส่วนคำว่า จุ้ย แปลว่า ดิน หมายถึงภูมิประเทศ ดังนั้นฮวงจุ้ยจึงเป็นวิชาที่ว่าด้วยเรื่องภูมิอากาศและภูมิประเทศ เหตุที่เราต้องศึกษาเรื่องพวกนี้ก็เพราะเราอยู่ในโลกที่แวดล้อมด้วยภูมิอากาศและภูมิประเทศ เราจึงต้องทำความเข้าใจและปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมที่เราอยู่ได้อย่างมีความสุขมากขึ้น เป็นเรื่องกายภาพของที่อยู่อาศัย เราจะเลือกอยู่ทิศไหน จะหันบ้านไปทางไหน ทำสูง ทำเตี้ย กว้างยาวยังไง รูปร่างเป็นยังไง เปิดหน้าต่างยังไง ชายคาสั้นยาวแค่ไหน ถ้าเราเข้าใจพวกนี้ เราก็จะปรับที่อยู่อาศัยของเราให้สอดคล้องกับภูมิอากาศ ภูมิประเทศ เราก็จะอยู่อย่างมีความสุขมากขึ้น หรือถ้าเป็นร้านค้า เรารู้จักเลือกทำเลที่เหมาะสม เราก็จะทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรือง”
ดังนั้น ฮวงจุ้ย จึงไม่ใช่เรื่องของความเชื่อหรือไสยศาสตร์อย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่เป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์ของการอยู่อาศัยล้วนๆ ด้วยวันเวลาที่ผ่านไปทำให้เรื่องนี้ผิดเพี้ยนกลายเป็นเรื่องของโชคลางไสยศาสตร์แทน เช่นเดียวกับพุทธศาสนาที่ใช้หลักทางวิทยาศาสตร์มาเป็นคำสอน แต่ปัจจุบันได้นำมาผูกกับเรื่องความเชื่อ เรื่องดวงชะตา ซึ่งเพี้ยนไปจากหลักความจริงอย่างมาก
หลักการเลือกทำเลที่มีฮวงจุ้ยดี
หลักการเลือกฮวงจุ้ยในทุกโครงการของบริษัทศุภาลัย เขาจะเป็นคนดูฮวงจุ้ยเองทั้งหมด ตั้งแต่การเลือกซื้อที่ดิน โดยเน้นที่ 3 หลักการคือ
1. ปลอดภัย
ไม่อยู่ใกล้แหล่งชุมชนแออัด โรงงาน หรือที่เก็บสารเคมี เพราะอาจก่อให้เกิดไฟไหม้ได้ง่าย รวมทั้งไม่ใช่ทำเลที่เกิดน้ำท่วม หรือเกิดแผ่นดินไหวง่าย
2. เข้าออกสะดวก
สามารถเดินทางเข้าออกได้ง่าย เพื่อให้เป็นทางหลีกหนีเวลาเกิดภัยต่างๆ แล้วยังช่วยให้มีการค้าขายที่คล่องตัว
3. ไร้มลภาวะ
ไม่มีมลภาวะทางเสียง ฝุ่น และกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ
ฮวงจุ้ยดี ชีวิตดี เมื่อออกแบบได้ถูกหลัก
เมื่อเลือกทำเล หรือที่ดิน ที่ตรงกับหลักฮวงจุ้ยทั้ง 3 ข้อแล้ว ต่อมาคือเรื่องของการวางผังการออกแบบก็ต้องใช้หลักฮวงจุ้ยด้วยเช่นกัน เนื่องจากบ้านส่วนใหญ่เป็นผังแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า จึงต้องวางผังบ้านให้หลบแดดรับลม หมายถึงด้านยาวของสี่เหลี่ยมผืนผ้าต้องหันไปทางด้านทิศใต้และทิศเหนือเพื่อรับลม ส่วนด้านสั้นให้หันไปทางตะวันออก หรือตะวันตก เพราะรับแดดได้น้อย นอกจากเรื่องการวางบ้านแล้ว ฮวงจุ้ยก็มีส่วนสำคัญต่อการออกแบบบ้านด้วย และไม่สามารถนำศาสตร์ฮวงจุ้ยของประเทศจีนมาใช้กับประเทศไทยได้ เนื่องจากมีภูมิอากาศที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก
...
“ภูมิอากาศของไทยต่างกับจีน เพราะฉะนั้นชายคาบ้านในไทยต้องยาวเพื่อกันแดดกันฝน แต่ที่จีนจะเป็นชายคาสั้น เนื่องจากแดดไม่จัดมาก และมีฝนตกน้อยกว่าไทย แต่ลมแรงกว่าไทยเยอะ โดยเฉพาะทางเหนือ นี่ก็เป็นที่มาว่าฮวงจุ้ยประเทศไทย ประตูหน้าบ้านต้องเปิดออก แต่ประเทศจีนต้องเปิดเข้า เพราะอากาศในไทยเป็นแบบมรสุมเมืองร้อน ส่วนประเทศจีนเป็นอากาศอบอุ่นค่อนไปทางหนาวและลมแรง ทำให้ประตูหน้าบ้านในจีนต้องเปิดเข้าเพื่อให้สะดวก ถ้าเปิดออกจะเปิดยากเพราะลมแรง ส่วนประเทศไทยต้องเปิดออก เพราะเวลาฝนตกจะได้ไม่มาเปียกในบ้าน”
นอกจากเรื่องของการวางประตูแล้ว เรื่องการออกแบบหน้าต่างบ้านก็เป็นหนึ่งในหลักฮวงจุ้ยด้วย ซึ่งในประเทศจีน รวมถึงประเทศในแถบยุโรปจะออกแบบบ้านให้มีจำนวนหน้าต่างไม่มาก และไม่วางตรงกัน เพราะมีภูมิอากาศที่ลมแรง หากมีจำนวนหน้าต่างมากและวางตรงกัน จะทำให้ลมพัดของในบ้านปลิวเสียหาย ตรงข้ามกับประเทศไทยที่เป็นเขตมรสุมเมืองร้อน จำเป็นต้องออกแบบหน้าต่างให้ตรงกันเพื่อให้ลมไหลผ่านได้ดีและอยู่อาศัยได้สบายขึ้น
ในส่วนฮวงจุ้ยของโครงการคอนโดมิเนียมก็ไม่แตกต่างจากฮวงจุ้ยของบ้าน ข้อดีของคอนโดฯ คือเป็นอาคารสูงจึงทำให้มีวิวสวย มีการรับลมที่ดี และมียุงรบกวนน้อย โดยเฉพาะคอนโดฯ ริมแม่น้ำ หรือริมทะเล ที่ได้จุดเด่นทั้งเรื่องการรับลมที่ดี และทัศนียภาพสวยงามพร้อมกัน ตรงตามหลักของฮวงจุ้ยเรื่อง “หน้าเป็นน้ำ หลังเป็นเขา” หมายถึงแหล่งน้ำที่อยู่ด้านที่อยู่อาศัยจะระเหยขึ้นไปบนอากาศแล้วพัดเป็นลมเข้ามาหาบ้านทำให้เย็นสบาย ส่วนด้านหลังเป็นเขาก็จะกันลมหนาวที่พัดมาจากทิศเหนือ ซึ่งเป็นภูมิประเทศที่คล้ายกันทั้งไทยและจีน
ทั้งหมดนี้จึงตอกย้ำศาสตร์ที่แท้จริงของ “ฮวงจุ้ย” คือหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถอธิบายและหาคำตอบได้ แต่ปัจจุบันกลับมีซินแส หรือหมอดูฮวงจุ้ยไทย ตีความเรื่องฮวงจุ้ยผิดเพี้ยนไป เพราะเน้นการท่องจำ แต่ไม่คำนึงถึงสภาพภูมิอากาศของไทยและจีนที่แตกต่างกัน.
...