เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว สิ่งที่มักจะมาพร้อมกันคือความเย็นและผิวพรรณที่แห้งกร้าน แถมยังมีอาการคันเพราะผิวขาดความชุ่มชื้น นอกจากทำให้เสียบุคลิกแล้วอาจทำให้กลายเป็นโรคผิวหนังบางชนิดได้ด้วย

สาเหตุผิวแห้งในหน้าหนาว

พญ. สุธาสินี ไพฑูรย์วัฒนกิจ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านผิวหนัง โรงพยาบาลวิมุตเผยถึงต้นเหตุที่ทำให้เรามักจะมีอาการผิวแห้ง ลอก คัน ในฤดูหนาวว่ามาจากความชื้นในอากาศที่ลดลงส่งผลให้ผิวสูญเสียน้ำและขาดความชุ่มชื้นได้ง่ายขึ้น เนื่องจากน้ำมันเคลือบผิวลดลง หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสมจะทำให้ผิวแห้ง หยาบกร้าน เป็นขุย หลุดลอกเป็นแผ่น หรือมีรอยแตกเล็กๆ โดยเฉพาะบริเวณจมูกและข้อพับจนสามารถมองเห็นได้ และทำให้เกิดอาการแสบๆ คันๆ ที่นอกจากจะสร้างความรำคาญใจจนเสียบุคลิกแล้วยังนำไปสู่การติดเชื้อแทรกซ้อนได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

โดยเฉพาะในกลุ่มของผู้ป่วยที่เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังอยู่ก่อนแล้ว ภาวะแทรกซ้อนอาจทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นทำให้เชื้อไวรัสเติบโตได้ดี โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุที่มีภูมิต้านทานต่ำ จึงสามารถพบโรคผิวหนังจำพวกผื่นได้มากขึ้นในช่วงฤดูหนาว อาทิ โรคโรซาเซีย, โรคสะเก็ดเงิน, โรคผิวหนังอักเสบ, และลมพิษที่เกิดจากความเย็น เป็นต้น

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

...

นอกจากอาการผิวแห้งเพราะขาดความชุ่มชื้นในฤดูหนาวแล้ว แพทย์หญิงภัทรพร ภัทรากร ตัวแทนจากแบรนด์ธัญ ยังเผยว่าปัจจัยภายในบางอย่างก็ส่งผลให้เราผิวแห้งด้วยเช่นกัน ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงวัยหมดประจำเดือน หรือการขาดฮอร์โมนบางชนิดที่ส่งผลต่อความชุ่มชื้นของผิว พันธุกรรม โรคบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังชนิดเอ็กซิมา (Eczema) ทำให้มีอาการคันที่ผิวหนัง ผิวมักมีลักษณะแห้ง เป็นขุย ลอก รวมถึงการขาดสารอาหารบางอย่าง เช่น การดื่มน้ำน้อย ขาดแร่ธาตุและวิตามินบางชนิดอย่างวิตามินเอ, อี, หรือกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่อาจส่งผลให้เกิดผิวแห้งกร้านขึ้นได้

5 วิธีดูแลผิวในฤดูหนาว

1. ไม่อาบน้ำอุ่นเกินไป

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่ออากาศเย็นใครๆ ก็อยากอาบน้ำอุ่นเพื่อความสบายตัว แต่การอาบน้ำอุ่นในอุณหภูมิที่สูงและบ่อยเกินไปก็ยิ่งทำร้ายผิว เพราะเป็นการล้างเชื้อแบคทีเรียดีที่เป็นมิตรและน้ำมันเคลือบผิว ทำให้ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น ทางที่ดีคือการอาบน้ำในอุณหภูมิห้องหรืออุ่นเพียงเล็กน้อย วันละไม่เกิน 2 ครั้ง และไม่ควรใช้เวลานานกว่า 15 นาที

2. ใช้สบู่ที่อ่อนโยน

สบู่หรือครีมอาบน้ำที่มีส่วนผสมของยา หรือมีฟองมาก ยิ่งทำให้ผิวหนังสูญเสียความชุ่มชื้น สังเกตได้จากหลังอาบน้ำผิวจะมีความแห้ง ตึง จึงควรใช้ครีมอาบน้ำที่อ่อนโยนต่อผิวและมีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์แทน และหลีกเลี่ยงการสครับผิว หรือลดลงเหลือเพียงสัปดาห์ละครั้ง เพราะยิ่งทำให้ผิวแห้ง หลุดลอกมากยิ่งขึ้น

3. ทาครีมบำรุงเป็นประจำ

ผิวจะกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้ดีหากได้รับการบำรุงอย่างสม่ำเสมอ ทำได้ทุกวันด้วยการชโลมสกินแคร์หลังจากอาบน้ำเสร็จภายใน 3-5 นาทีแรก โดยไม่ต้องรอให้ผิวแห้งสนิท และหลีกเลี่ยงครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ที่มักดูดความชุ่มชื้นออกไปจากผิว แล้วหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นอย่างเหมาะสมกับแต่ละสภาพผิว อาทิ

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock
  • โลชั่นบำรุงผิว (Body Lotion) มีส่วนผสมของน้ำ น้ำมัน และสารให้ความชุ่มชื้น เช่น กลีเซอรีน, ไฮยาลูโรนิก แอซิด ช่วยเติมความชุ่มชื้นและความเนียนนุ่มให้กับผิว เหมาะสำหรับผิวปกติ - แห้งเล็กน้อย
  • บอดี้บัตเตอร์ (Body Butter) เนื้อครีมข้น หนาเหมือนเนย มีส่วนผสมของน้ำมัน เชียบัตเตอร์ โกโก้บัตเตอร์ และสารให้ความชุ่มชื้นเข้มข้น ทำให้สามารถเติมเต็มความชุ่มชื้นได้มากกว่าและกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีกว่าโลชั่นบำรุงผิว เหมาะสำหรับผิวแห้งมาก รวมถึงผิวแตกหรือต้องการบำรุงผิวในจุดที่แห้งเป็นพิเศษ เช่น ข้อศอก เข่า
  • บอดี้ออยล์ (Body Oil) หรือน้ำมันบำรุงผิวมีส่วนผสมของน้ำมันธรรมชาติ เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว น้ำมันอาร์แกน น้ำมันโจโจ้บา เป็นต้น เนื้อน้ำมันเบาบาง ซึมซาบเร็ว และทำหน้าที่เป็นแผ่นฟิล์มบางๆ เคลือบผิวเพื่อป้องกันการระเหยของน้ำใต้ผิว ช่วยให้ผิวสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้นาน เหมาะสำหรับผิวแห้งมาก ผิวขาดน้ำ หรือผิวที่ต้องการบำรุงผิวอย่างล้ำลึก สามารถใช้เป็นประจำทุกวัน นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและลดความหยาบกร้านของผิว ซึ่งเหมาะสำหรับการลดรอยแตกลายบนผิวได้ด้วย

...

4. ทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน

แม้จะอยู่ในฤดูหนาวแต่แสงแดดและรังสียูวีที่สาดลงมากระทบผิวโดยตรงก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำร้ายผิวของเราได้เช่นเคย การทาครีมกันแดดก่อนออกแดดอย่างน้อย 15-30 นาที แล้วรอให้เนื้อครีมเคลือบชั้นผิวจึงเป็นตัวช่วยป้องกันรังสี UV และปัญหาผิวต่างๆ ที่เกิดจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. สวมใส่เสื้อผ้าที่เนื้อสัมผัสนุ่ม

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

เน้นสวมเสื้อผ้าที่ให้เนื้อสัมผัสนุ่มสบาย ไม่รัดแน่นจนอึดอัดและก่อให้เกิดการเสียดสีจนระคายเคืองผิว เช่น ผ้าคอตตอนและผ้าฝ้าย แต่ถ้าต้องการเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายด้วยเสื้อผ้าขนสัตว์ หรือสเวตเตอร์ที่ทำจากใยสังเคราะห์ ที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณผิวหนัง ควรสวมทับผ้าคอตตอนอีกที เพื่อเลี่ยงการสัมผัสผิวโดยตรงและลดปัญหาผิวแตกจากการเสียดสีจะดีที่สุด

เมื่อเราเตรียมผิวให้พร้อมรับหน้าหนาวหรือรับมือเมื่อไปท่องเที่ยวต่างประเทศที่มีอากาศหนาวแล้ว ก็ช่วยป้องกันอาการผิวแห้ง คัน ลอก จากอากาศหนาวได้ ถ้าหากยังมีอาการผิวแห้งคันรุนแรงจนทำให้เกิดบาดแผลควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาต่อไป

...