มีบริการฉีดเยอะเหลือเกินขณะนี้ ลูกเด็กเล็กแดง หนุ่มสาวแก่เฒ่า ทั้งระบบทางเดินหายใจ ไข้เลือดออก ปอดบวม ฝีดาษลิง เหมือนกับวัคซีนเป็นคำตอบสุดท้าย?

ที่ว่าดีแล้วดีอีกอย่างวัคซีนโควิด เราเจ็บปวดจนทุกวันนี้ มีทั้งตาย มีพิการ เรื้อรังเป็นปี ตายเฉียบพลันกะทันหัน จนถึงปัจจุบันนี้ เอาให้ชัด เช่น

ฉีดให้กลุ่มเสี่ยง กลุ่มที่ว่าคือใคร? แล้วป้องกันติดได้ไหม ดีเท่าไร? ป้องกันเชื้อนั้น นี้ ตัวเดียว กลุ่มเดียวเท่านั้น หรืออย่างไร? ป้องกันอาการหนักได้ไหม พิสูจน์จากอะไร มีข้อมูลหรือไม่? หรือเป็นเพียงแค่ หายเร็วกว่า ถ้าไม่ฉีด เพียง 2-3 วัน? ป้องกันตาย อาการหนัก ช็อก หรือป้องกันปอดบวมจนต้องใส่เครื่องช่วยหายใจได้ไหม? ถามง่ายๆ ต้องฉีดกี่ร้อยกี่พันราย ช่วยชีวิตได้หนึ่งคน (number to treat) ไม่ต้องเอา relative risk reduction หรู ทางสถิติ แต่หาประโยชน์ไม่ได้

ที่ว่าดีกว่าไม่ฉีด รายงานจากบริษัทยาเป็นผู้ทำ และยัดชื่อศาสตราจารย์และเขียนในวารสาร? (Conflict of interest) คนใหญ่โตที่มาโปรโมต ต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินดีมั้ย?

แล้วถ้าฉีดแล้วผลดีที่ว่า ดีอยู่กี่เดือน? ผลข้างเคียงแทรกซ้อนมีอะไรบ้าง เช่นโควิด วัคซีน เอาแค่ 1–2 เดือนหลังฉีดเกิดอาการ “รุนแรง” 3 ใน 10,000 ไม่นับระยะหลังจากนั้น วัคซีนฝีดาษลิงมีหัวใจอักเสบเช่นกัน ถ้าเกิดผลข้างเคียงใครรับผิดชอบ อย่าถือว่าเซ็นยินยอมแล้ว ทางกฎหมายจะเอาความไม่ได้ เพราะเซ็นจากที่คนให้บริการรับรอง

วัคซีนใหม่เอี่ยม อย่าอ้างฉุกเฉิน เช่น ฝีดาษลิงในไทยมีมา 2-3 ปีแล้ว ที่เสียชีวิต เพราะมีเอดส์ ซิฟิลิสและอื่นๆ เป็นโรคนำประเทศอังกฤษ และอื่นๆ ช่วง 2022-3 มีคนเข้าโรงพยาบาลเพียง 13% ทั้งนี้เพราะแยกตัวที่บ้านไม่สะดวกหรือเจ็บปวดมากขึ้น

วัคซีนฝีดาษลิงผ่านการรับรองชัดเจนในไทยหรือไม่อย่างไร และการติดตามผล และผลแทรกซ้อนมีหน่วยงานอิสระคอยประกบหรือไม่?

...

รวบรวมจากคนป่วยและครอบครัว และนำมาถ่ายทอด...ตอนจะให้ฉีด : ดีโคตร แพงระยับ ฉีดแล้ว : ยังติด ยังหนัก ถามไป ตอบว่า : มันมีรายงานต่างประเทศนะ เซ็นยินยอมแล้วด้วย ใครๆก็ฉีด ฉีดแล้ว : เกิด ป่วย ตาย ตอบว่า : สุขภาพไม่ดีอยู่แล้วไง

ถาม : อ้าว ก็แก่ สุขภาพไม่ดีไง แถมอยู่กลุ่มเสี่ยง พอประกาศให้ฉีด เลยไปฉีด ตอบ : เป็นส่วนน้อยนะ องค์การ สมาคม ผู้เชี่ยวชาญ เขาก็ว่าดี คุณโชคร้ายเท่านั้นเอง

สรุป กูฉิบหาย ใช่มั้ย ปกติอยู่ดี หาเรื่อง รำพึงของคนไทย ชีวิต ค่าแม่ง ก็มีเท่านี้.

หมอดื้อ

คลิกอ่านคอลัมน์ "สุขภาพหรรษา" เพิ่มเติม