ไม่ได้มีแต่โทรศัพท์มือถือที่แบตเสื่อม แต่ร่างกายของมนุษย์เราก็มีภาวะแบตเสื่อมกันได้ทุกคน หลายครั้งที่เรารู้สึกเริ่มหมดพลังในขณะที่เพื่อนรอบตัวยังกระปรี้กระเปร่า ตรงกันข้ามเรากลับมีพลังมากที่สุดในช่วงเวลาที่คนข้างตัวรู้สึกง่วงเหงาหาวนอน
เมื่อต้องใช้ชีวิตในแบบที่ขัดกับจังหวะตามธรรมชาติของร่างกายตัวเอง สิ่งที่เกิดขึ้นคือรู้สึกแย่ทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพราะมนุษย์เรามี “ตารางชีวภาพของตัวเอง” ที่แตกต่างกันไป การใช้หลักนาฬิกาชีวิตแบบเดียวกันกับทุกคนจึงขัดแย้งกับการใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับจังหวะตามธรรมชาติของตัวเอง
ในหนังสือ “ENERGIZE!” ของ “ดร.ไมเคิล เบรอูส” นักจิตวิทยาด้านเวชศาสตร์การนอนหลับ เจาะลึกถึงความลับของมนุษย์พลังสูง พร้อมแนะเทคนิคบริหารพลังสำหรับคน 4 แบบ เพื่อให้มีพลังงานเหลือใช้ตลอดวัน ไม่ต้องทรมานกับภาวะแบตเสื่อม และความอ่อนล้าอ่อนเพลียเรื้อรัง
ถ้าอยากเลิกรู้สึก “เหนื่อยล้า” และเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังตลอดทั้งวัน สิ่งที่ต้องทำคือ การปรับพฤติกรรมหันมาใช้ชีวิตตามตารางเวลาที่เหมาะกับ “ประเภทรูปร่าง” และ “บุคลิกตามเวลาชีวภาพ” โดยค้นหาโปรไฟล์พลังงานของตัวเองให้เจอ
ถามว่าประเภทรูปร่างคืออะไร คนเราเกิดมาพร้อมกับพันธุกรรมที่กำหนดว่าจะมีโครงสร้างของรูปร่างเป็นอย่างไร “ดร.ไมเคิล” แบ่งประเภทรูปร่างออกเป็น 3 แบบคือ “เอกโตมอร์ฟ-รูปร่างผอมสูง” เผาผลาญพลังงานได้เร็ว, “มีโซมอร์ฟ-รูปร่างสมส่วน” เผาผลาญพลังงานได้ปานกลาง และ “เอนโดมอร์ฟ-รูปร่างอวบ” เผาผลาญพลังงานได้ช้า สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้คนเหนื่อยล้าคือการพยายามอย่างหนักเพื่อให้มีรูปร่างในประเภทที่ไม่ใช่ธรรมชาติของตัวเอง รวมถึงรู้สึกเกลียดรูปร่างตามพันธุกรรม
...
นอกจากจะทำตัวให้กระฉับกระเฉง และพยายามเคลื่อนไหวร่างกายตอบสนองต่อสิ่งที่ร่างกายต้องการในแต่ละช่วงเวลาของวัน กุญแจสำคัญของการบริหารพลังงานให้มีพอเหลือใช้ตลอดทั้งวัน ยังอยู่ที่การค้นพบ “บุคลิกตามเวลาชีวภาพของตัวเอง”
“ดร.ไมเคิล” แบ่งบุคลิกตามเวลาชีวภาพไว้ 4 ประเภท คือ “สิงโต” คนที่ตื่นตัวตอนเช้า, “หมี” คนที่ตื่นตัวตอนกลางวัน, “หมาป่า” คนที่ตื่นตัวตอนเย็น และ “โลมา” คนที่เป็นโรคนอนไม่หลับ มีภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่เสมอ สามารถทำแบบทดสอบออนไลน์ทางเว็บไซต์ Chronoquiz.com ว่ามีบุคลิกแบบไหน
ถ้าคุณคือ “สิงโต” เป็นพวกตื่นเช้าตรู่ และง่วงนอนตอนสามทุ่ม จะตื่นมาพร้อมความหิวและเปี่ยมด้วยพลังงานตั้งแต่ช่วงเช้า จนถึงบ่ายต้นๆ แต่พอ 5 โมงเย็น พลังงานจะเริ่มลดฮวบลงอย่างรวดเร็ว เพราะร่างกายเปิดสวิตช์ไม่ยอมปิดมาทั้งวัน การยืดเหยียดกล้ามเนื้อและฝึกสมาธิจะช่วยบูสต์พลังงานให้กับเจ้าป่าผู้มุ่งมั่นเช่นเดียวกับการเข้านอนแต่หัวค่ำเพื่อชาร์จแบต
บุคลิก “หมี” เป็นพวกกระฉับกระเฉงตอนกลางวันและต้องพักผ่อนตอนกลางคืน หมีมักขี้เซาและอยากงีบตอนสายๆ ช่วงบ่ายแก่ๆ พลังงานของพวกเขามักจะลดลง ก่อนเพิ่มสูงอีกครั้งในช่วงเย็น แล้วค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ จนถึงเวลาเข้านอน พวกหมีพร้อมเข้านอนตอน 5 ทุ่ม ถึงเที่ยงคืน และตื่นมาสู้โลกใหม่ตอน 7 โมงเช้า
ส่วน “หมาป่า” จะตื่นตัวมากที่สุดเมื่อตะวันตกดิน และไม่รู้สึกเหนื่อยล้าจนกว่าจะเลยเที่ยงคืน แต่ถ้าเป็นช่วงเช้าหมาป่ามักรู้สึกสมองตื้อเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่ พวกเขาจะหิวโซในช่วงบ่ายและจัดเต็มในมื้อเย็น จึงมีแนวโน้มอ้วนลงพุง
“โลมา” เป็นสัตว์ที่นอนหลับแบบครึ่งสมอง ต้องคอยตื่นตัวเพื่อป้องกันไม่ให้จมน้ำ ชาวโลมาค่อนข้างวิตกกังวลง่าย และอยู่ในภวังค์ของการครึ่งหลับครึ่งตื่นตลอด 24 ชั่วโมง กฎเหล็กของโลมา คืออย่าเข้านอนจนกว่าจะรู้สึกง่วง สำหรับโลมาแล้วความกระวนกระวายใจ มักมีอิทธิพลเหนือความอ่อนเพลียของร่างกาย มีโอกาสสูงที่ชาวโลมา จะทรมานจากโรคนอนไม่หลับเกือบทั้งชีวิต การออกกำลังกายอย่างหนักในช่วงเช้าจะช่วยบรรเทาความเครียดสูงของโลมาได้
อีกเทคนิคในการหาโปรไฟล์พลังงานของตัวเอง คือสังเกตดูว่า ช่วงเวลาไหนของวันที่เราง่วงที่สุด...หิวที่สุด...สุขที่สุด...เครียดที่สุด... และตื่นตัวที่สุด เลือกใช้ให้เหมาะเพื่อจะได้มีเรี่ยวแรงเหลือตลอดวัน.
มิสแซฟไฟร์
คลิกอ่านคอลัมน์ “คนดังอะราวนด์เดอะเวิลด์” เพิ่มเติม